เริ่มมีหวัง! การทดสอบวัคซีนโควิด-19 ที่สหรัฐฯ-รัสเซีย ได้ผลดี
โลกเริ่มมีความหวังเมื่อบริษัทโมเดอร์นา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.จะเริ่มการทดสอบวัคซีนกับคนเป็นเฟส 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยจะใช้อาสาสมัคร 30,000 คนในสหรัฐฯ และจะทดลองต่อเนื่องจนถึงเดือนต.ค. แต่ผลเบื้องต้นน่าจะออกมาได้ก่อน บริษัทโมเดอร์นา เปิดเผยว่า การทดสอบเฟสแรกได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ พบว่า ร่างกายของอาสาสมัครทั้ง 45 คนที่เข้าทดสอบในเฟสนี้ สามารถสร้างแอนติบอดี้มาต่อสู้กับไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์หลายคนบอกว่าแม้ความคืบหน้าเช่นนี้น่าทำให้เกิดกำลังใจ แต่วัคซีนจะได้ผลจริงหรือไม่ ยังคงต้องรอดูเมื่อบุคคลที่ได้รับวัคซีนเผชิญกับไวรัสกันจริงๆ
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่า ได้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีความปลอดภัย หลังจากทดลองทางคลินิกกับอาสาสมัครกลุ่มแรก 18 คน เสร็จสิ้น แพทย์ในคณะทดลอง เปิดเผยว่า ภูมิคุ้มกันของอาสาสมัครทำงานด้วยดี ร่างกายกำลังสร้างสารภูมิต้านทาน ถือว่าได้รับการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้ว
เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค. คณะนักวิจัยของกองทัพ พัฒนาวัคซีนร่วมกับสถาบันกามาเลียในกรุงมอสโก อาสาสมัครรับวัคซีนเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ถูกแยกดูอาการในโรงพยาบาลทหารเบอร์เดนโก ผลการตรวจสุขภาพทุกวันเป็นเวลา 28 วัน พบว่า สัญญาณชีพที่ประกอบด้วยอุณหภูมิ ชีพจร การหายใจและความดันโลหิตยังคงอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทหารนายหนึ่งที่เข้าร่วมการทดลองกล่าวก่อนออกจากโรงพยาบาลว่า มีภูมิคุ้มกันร้อยเปอร์เซนต์แล้ว ส่วนอาสาสมัครกลุ่มที่สองที่รับวัคซีนเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ยังคงอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการคาดว่า จะเสร็จสิ้นการทดลองทางคลินิกภายในสิ้นเดือนนี้
2 สายการบิน ชี้แจงถูกห้ามบินเข้าจีน เหตุมีคนติดโควิด-19 ไม่ใช่คนไทย
หลังจากที่สำนักงานการบินพลเรือนของประเทศจีน หรือ CAAC( Civil Aviation Administration of China) ได้ประกาศระงับเที่ยวบินของสายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ที่บินจากกรุงเทพฯไปยังประเทศจีน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่ 20-27 ก.ค.2563 หลังทางการจีนตรวจพบผู้โดยสารที่มากับเที่ยวบินของสายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ XJ808 เส้นทาง ดอนเมือง-เทียนจิน ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 คน สายการบิน ยืนยันว่า เที่ยวบินดังกล่าว เป็นเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ ประเภทขนส่งผู้โดยสารกลับประเทศจีน ซึ่งเครื่องบินลำดังกล่าว มีต้นทางเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มาจอดแวะพักที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ จากนั้นบินมาจอดแวะพักที่ดอนเมือง ประเทศไทย ก่อนที่จะบินไปยังปลายทางที่เทียนจิน
สายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ รายงานว่า ระหว่างที่เครื่องบินลำดังกล่าวบินจากกรุงมะนิลามายังสนามบินดอนเมืองของไทย ไม่มีผู้โดยสารคนใดลงจากเครื่องบิน เนื่องจากเป็นการมาจอดเครื่องบินที่เมืองไทยเพื่อใช้สิทธิ์การบินจากไทยต่อเข้าไปยังประเทศจีนเท่านั้น จึงไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เข้ามาที่ประเทศไทยแน่นอน ซึ่งผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องบินส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารชาวจีนที่เช่าเหมาลำเครื่องบินเพื่อที่จะกลับบ้าน
เช่นเดียวกับรายงานข่าวจากสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ แจ้งว่า สายการบินถูกสำนักงานการบินพลเรือนของประเทศจีน ระงับเที่ยวบินจากกรุงเทพไปยังประเทศจีน เป็นเวลา 1สัปดาห์เช่นกัน เนื่องจาก ทางการจีนตรวจพบผู้โดยสารที่มากับสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบิน SL117 เส้นทาง กรุงเทพ-กวางโจว ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6 คน
สายการบิน ชี้แจงว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีต้นทางมาจากกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย มาที่ดอนเมือง ประเทศไทย และบินต่อไปยังปลายทางสุดท้ายที่ เมืองกวางโจว ประเทศจีน สายการบิน ยืนยันว่า ระหว่างที่เครื่องบินลำดังกล่าวบินจากจาการ์ต้ามาที่สนามบินดอนเมืองของไทย ไม่มีผู้โดยสารคนใดลงจากเครื่องบิน เพราะเป็นการมาจอดเครื่องบินที่เมืองไทยเพื่อใช้สิทธิ์การบินจากไทยต่อเข้าไปที่ประเทศจีนเท่านั้น จึงไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เข้ามาที่ประเทศไทยแน่นอน โดยผู้โดยสารในเครื่องบินส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา
“เควิน สติตต์” ผู้ว่าการรัฐโอคลาโฮมา ติดเชื้อโควิด-19
นายเควิน สติตต์ ผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพับลิกันของรัฐโอคลาโฮมา วัย 47 ปี เปิดเผยผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ว่า ผลเป็นบวก มีอาการปวดเมื่อยเล็กน้อย แต่ไม่มีไข้ จะกักตัวเองและทำงานที่บ้าน ยอมรับว่ารู้สึกช็อกที่กลายเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นายสติตต์ เป็นหนึ่งในแขกที่เวทีหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่เมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ต่อมาพบว่าสมาชิกทีมหาเสียงของนายทรัมป์ และเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาผู้นำหลายคนติดเชื้อโควิด-19 แต่นายสติตต์ ปฏิเสธว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะติดจากเวทีหาเสียง นพ.แลนซ์ ฟราย คณะกรรมการกระทรวงสาธารณสุขรัฐโอคลาโฮมา ยอมรับว่ายังไม่ทราบว่านายสติตต์ ติดเชื้อเมื่อใด แต่น่าจะเกิดขึ้นภายในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้
นายสติตต์ โพสต์ภาพตัวเองพร้อมทั้งลูก2คน ลงทวิตเตอร์ อยู่ที่ร้านอาหาร ที่เต็มไปด้วยคนที่เข้ามาใช้บริการ ทำให้ถูกกระแสตีกลับเพราะไม่เว้นระยะห่าง นายสติตต์ สนับสนุนให้พลเมืองรัฐโอคลาโฮมา สวมหน้ากากอนามัย แต่โดยส่วนตัว ไม่ค่อยพบเห็นเขาสวมหน้ากากอนามัยตอนที่อยู่ในพื้นที่สาธารณะและเขาก็ไม่ได้ประกาศบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในรัฐด้วย
รัฐโอคลาโฮมา เป็นหนึ่งในหลายรัฐของสหรัฐฯ ที่ต้องเผชิญกับการพุ่งขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตัวเลขเมื่อวันพุธ 15 ก.ค.พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 22,000 คน
ปธน.บราซิล ยังมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก
ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู แห่งบราซิล มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 ออกมาเป็นบวกอีกรอบ ตามรายงานของซีเอ็นเอ็น บราซิล ชี้ว่า ยังไม่ฟื้นไข้ ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ประธานาธิบดีบราซิล บอกว่า ในอีกไม่กี่วันจะเข้ารับการตรวจอีกครั้ง และตั้งแต่ติดเชื้อเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ยืนยันว่า สุขภาพแข็งแรงดีและจะกลับมาทำงานตามปกติ หากผลการตรวจออกมาเป็นลบในสัปดาห์นี้ เนื่องจากทนอยู่บ้านเฉยๆไม่ไหว
บราซิล เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ เท่านั้น นายโบลโซนารู กีดกันคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ จากการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กดดันผู้ว่าการรัฐต่างๆ ที่ออกคำสั่งล็อกดาวน์ปิดเมือง และไม่สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ
คนนับล้านจากหลายประเทศต้องกลับไปล็อกดาวน์ คุมระบาดรอบ 2
คนนับล้านทั่วโลก ต้องกลับมาอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ควบคุมโรคโควิด-19 หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อในหลายประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
-ฮ่องกง สั่งปิดบาร์ สถานที่ออกกำลังกาย และร้านตัดผมอีกครั้ง รวมทั้งห้ามประชาชนจับกลุ่มกันเกิน 4 คน และบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ขณะใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ
คนที่ฝ่าฝืนข้อบังคับเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย อาจต้องชำระค่าปรับสูงสุด 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 20,305.46 บาท มีรายงานว่าตำรวจจับกุมชายอายุ 64 ปี ต้องการใช้บริการที่สถานีรถไฟใต้ดินไท เหว่ย ในเขตนิวเทร์ริทอรีส์ แต่ปฏิเสธสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะที่ร้านอาหารทุกประเภทยังคงให้บริการพื้นที่รับประทานได้โดยต้องมีการเว้นระยะ แต่ต้องยุติการให้บริการรับประทานภายในร้าน และเปลี่ยนเป็นการจำหน่ายอาหารแบบซื้อกลับบ้านเท่านั้น ระหว่างเวลา 18.00 ถึง 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น
-ญี่ปุ่น นางยูริโก โคอิเคะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ปรับการเตือนภัยขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นสีแดง หลังจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากต่อเนื่อง 4 วันแล้ว เนื่องจากพบว่า คนงานในย่านสถานบันเทิง เป็นคนหนุ่มสาวติดเชื้อโควิด-19 นางยูริโก แถลงว่า ได้หารืออย่างละเอียดกับคณะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อจากเชื้อไวรัส ให้ความเห็นตรงกันว่า กรุงโตเกียว กำลังเผชิญกับ "การติดเชื้อระดับสูงภายในชุมชน" ยืนยันว่า การยกระดับเตือนภัยด้านสาธารณสุขในพื้นที่ "ไม่ใช่การล็อกดาวน์" และไม่ได้หมายความว่าจะมีการเลื่อนกำหนดการหรือระงับการจัดงานใหญ่
-อินเดีย รัฐพิหารที่มีประชากรราว 125 ล้านคน ประกาศล็อกดาวน์นาน 15 วัน เริ่มจากวันพฤหัสบดี ขณะที่เมืองบังกาลอร์ ในรัฐกรณาฏกะ ซึ่งเป็นฮับไอทีของอินเดีย เริ่มล็อกดาวน์แล้วโดยมีระยะเวลา 1 สัปดาห์
-ออสเตรเลีย ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำในการเว้นระยะห่างทางสังคม ขณะที่ประชาชน 5,000,000 คนในเมืองเมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับ 2 ถูกล็อกดาวน์ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเพื่อจัดการการระบาดรอบใหม่
กรุงโซล ตั้งกก.สอบ “ปาร์ค วอน –ซุน” ลวนลามอดีตเลขาฯ
โฆษกทางการกรุงโซล เกาหลีใต้ แถลงว่า ทางการจะค้นหาความจริงด้วยการตั้งคณะสอบสวน ข้อร้องเรียนของอดีตเลขาฯ ของนายปาร์ค วอน -ซุน นายกเทศมนตรีกรุงโซลวัย 64 ปี ว่าถูกนายปาร์ค ลวนลาม นานกว่า 4 ปี แม้ว่านายปาร์คจะเสียชีวิตแล้วก็ตาม คณะสอบสวน ประกอบกลุ่มสิทธิสตรี กลุ่มสิทธิมนุษยชน และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เพื่อให้คดีมีความเป็นธรรมและเป็นกลาง ทางการให้ความสำคัญไม่ให้อดีตเลขาฯ ได้รับความเสียหายทางอ้อม และจะจัดหามาตรการเยียวยาให้เธออย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการบำบัดกับนักจิตวิทยาและการรักษาความปลอดภัยบ้านพัก
นายปาร์ค ถูกอดีตเลขาฯ ยื่นฟ้อง จากนั้นหายออกจากบ้านเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว โดยเขียนข้อความขอโทษทิ้งไว้ ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมกำลังค้นหาจนพบศพบริเวณเนินเขาในกรุงโซล เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น