ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันพุธที่ 15 กรกฎาคม 2563

สหรัฐฯ พบกระรอกติดกาฬโรค หวั่นแพร่กระจายสู่แมวและคน

          สำนักข่าวซินหัว รายงานอ้างการเปิดเผยของสื่อสหรัฐฯว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว พบกระรอกตัวหนึ่งในเมืองมอร์ริสัน เทศมณฑลเจฟเฟอร์สัน ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเดนเวอร์ เมืองเอกของรัฐโคโลราโด ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯประมาณ 27 กิโลเมตร มีผลทดสอบว่าติดโรคกาฬโรค หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานพบการติดโรคกาฬโรคในเทศมณฑลบรูมฟิลด์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเดนเวอร์ ทำให้หน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น ประกาศเตือนว่า แมวเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายถึงชีวิต โดยมีหมัดที่อาศัยอยู่ในสัตว์ฟันแทะเป็นพาหะนำโรค ขณะที่คนสามารถติดเชื้อดังกล่าวได้เช่นกัน จากการใกล้ชิดกับสัตว์ที่ติดเชื้อหรือโดนหมัดที่ติดเชื้อกัด

          อาการของกาฬโรค จะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ และคลื่นไส้ อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นภายใน 1 สัปดาห์หลังจากได้รับเชื้อ

จีน ตั้งข้อหา 23 คน ดัดแปลงอาคารโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวโควิด-19 พังถล่ม

          เจ้าหน้าที่จีน ตั้งข้อหาบุคคล 23 คน ที่เกี่ยวข้องกับการดัดแปลงอาคารอย่างผิดกฎหมาย ทำให้อาคารของโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวเพื่อดูอาการของผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พังถล่มลงมาเมื่อเดือนมี.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 29 ราย และบาดเจ็บอีก 42 คน

          โรงแรมซินเจีย ขนาด 66 ห้อง ที่เมืองฉวนโจว ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางใต้ของประเทศจีน พังถล่มลงมาเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ทับร่างประชาชนหลายสิบคนที่ถูกกักตัวเพื่อดูอาการโควิด-19 เนื่องจาก พวกเขาเพิ่งเดินทางกลับมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปสอบสวนพบว่า มีการเพิ่มความสูงของอาคารอีก 3 ชั้นโดยไม่ได้รับอนุญาต จากเดิมที่เป็นโรงแรมที่มีโครงสร้างเพียง 4 ชั้น และเจ้าหน้าที่ประเมินความปลอดภัย สรุปว่า เจ้าของโรงแรมทำเอกสารปลอมเกี่ยวกับอาคารหลังนี้

          โทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานว่า มีการดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้อง 23 คน ที่มีส่วนร่วมในการก่อสร้าง ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังถูกสอบสวนว่า อาจจะมีการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับการพังถล่มของอาคารหลังนี้ สำนักงานปราบปรามการทุจริตของมณฑลฝูเจี้ยน กล่าวว่า นายหวัง หยงหลี่ นายกเทศมนตรีของเมืองฉวนโจว และเจ้าหน้าที่อีกหลายสิบคน ถูกตำหนิเรื่องการบกพร่องในการทำหน้าที่ 

เร่งสอบ! ลูกเรือ 57 คน ในอาร์เจนตินา ติดเชื้อโควิด-19 ปริศนา

          หน่วยงานด้านสาธารณสุขอาร์เจนตินา กำลังเร่งสอบสวนหลังจากที่พบกลุ่มลูกเรือประมงทั้ง 57 คน จากทั้งหมด 61 คน ติดเชื้อโควิด-19 อย่างปริศนา ทั้งๆที่ผลการตรวจคัดกรองเชื้อก่อนออกทะเลเป็นลบทั้งหมด ตลอด 35 วันที่ลูกเรือกลุ่มนี้ออกทะเลไม่มีการติดต่อจากบุคคลภายนอกหรือขึ้นฝั่งที่เมืองท่าใด

          เมื่อวันจันทร์ เรือประมงลากอวน Echizen Maru เดินทางกลับสู่ท่าเรือในจังหวัดเตียร์ราเดลฟวยโก ทางใต้ของอาร์เจนตินา พบว่า ลูกเรือ 57 คนจากทั้งหมด 61 คน เริ่มมีอาการต้องสงสัยคล้ายกับติดเชื้อโควิด-19  หลังจากขึ้นฝั่งหน่วยงานสาธารณสุขอาร์เจนตินาได้นำลูกเรือทั้งหมดเข้ากักตัวที่โรงแรมเป็นเวลา 14 วันตามมาตรการควบคุมโรค จำนวนนี้มีลูกเรือสองคนที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ส่วนอีก 4 คน พบว่า 2 คน มีผลการตรวจเป็นลบ ส่วนอีก 2 คนอยู่ระหว่างรอผลการตรวจ

สเปนกังวลอย่างหนัก!นักท่องเที่ยวจัดปาร์ตี้ ไม่หวั่นโควิด-19  

          ชาวสเปน วิตกกังวลสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่าจะทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและทำให้ชาวสเปนเดือดร้อนหากมีการระบาดรอบสอง ในช่วงที่หลายพื้นที่ในสเปนใช้มาตรการล็อกดาวน์ ผู้สูงอายุอยู่ในบ้านพักคนชรา ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกมานอกบ้าน เหตุการณ์ที่ทำให้วิตก มีภาพปรากฏในคลิปวีดิโอนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ลักลอบจัดงานปาร์ตี้อยู่ในสภาพเมา จับกลุ่มร้องเพลงเต้นรำอย่างสนุกสนาน บางส่วนปีนขึ้นไปบนหลังคารถ ในเมืองมากาลุฟ บนเกาะมายอร์กา กลายเป็นคลิปฮิตติดกระแส มีการจัดงานในลักษณะแบบนี้มากกว่า 60 งาน ตามข้อบังคับแล้ว ผู้จัดงานปาร์ตี้ผิดกฎหมายลักษณะดังกล่าวจะถูกปรับเงินสูงสุด 600,000 ยูโร หรือราว 21 ล้านบาท

          ก่อนหน้านี้ นายเยนส์ สปาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขของเยอรมนี ประณามกลุ่มวัยรุ่นเยอรมนี ที่จัดปาร์ตี้กันในเมืองมายอร์กา โดยไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่นเดียวกับแคว้นกาตาลุญญาและแคว้นอันดาลูเซีย บนเกาะมายอร์กา ออกข้อกำหนดบังคับสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกที่พัก ยกเว้นไปเดินชายหาดและระหว่างเล่นกีฬา

          นอกจากนี้ กังวลว่าเศรษฐกิจของสเปนอาจได้รับความเสียหายในระยะยาว หากการท่องเที่ยวไม่ฟื้นตัว ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคิดเป็นร้อยละ 12 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)และพื้นที่ต่างๆตามแนวชายฝั่งและหมู่เกาะทั้งหลาย คือแหล่งรายได้และการจ้างงานที่สำคัญ ทั้งนี้ เมืองมายอร์กา มีประชากรราวๆ 900,000 คน และเมื่อปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกว่า 10,000,000 คน

ออสเตรเลีย หนักติดโควิด-19 หลายรัฐ อินเดีย ล็อกดาวน์ เมืองบังกาลอร์

          สถานการณ์โรคโควิด-19 ในเอเชีย กำลังหวั่นวิตกกับการระบาดระลอกสองเช่นเดียวกัน หลายประเทศ เริ่มตระหนักว่าคงจะต้องพักการรีสตาร์ทเศรษฐกิจไว้ก่อน

1.ออสเตรเลีย

-รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ยกเลิกแผนเปิดพรมแดนติดกับรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่เดิมกำหนดไว้วันที่ 20 ก.ค.

-รัฐควีนส์แลนด์ ใช้มาตรการกักตัว 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากสองเขตทางตะวันตกของเมืองซิดนีย์

-รัฐนิวเซาท์เวลส์ พบผู้ติดเชื้อนับสิบคน เชื่อมโยงกับการระบาดในรัฐวิกตอเรีย ประกาศห้ามผับรับลูกค้าเกิน 300 คน หลังพบการระบาดในโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของซิดนีย์

-รัฐวิกตอเรีย พบผู้ติดเชื้อในรอบ 24 ชั่วโมง เพิ่มอีก 270 คน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมของออสเตรเลียเพิ่มเป็น 10,000 คน มีผู้เสียชีวิตในรัฐนี้อีก 2 ราย รวมเป็น 110 รายทั่วประเทศ

2.อินเดีย เมืองเบงกาลูรู หรือ บังกาลอร์ ฮับไฮเทคของอินเดีย ใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งตั้งแต่วันอังคาร เป็นเวลานานหนึ่งสัปดาห์ หลังอินเดีย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่า เป็นผลจากการที่รัฐบาลเร่งผ่อนคลายมาตรการเร็วเกินไป

3.ฟิลิปปินส์ กลายเป็นประเทศที่มีสถิติผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกรุงมะนิลาเตรียมล็อกดาวน์พื้นที่บริเวณหนึ่งครอบคลุมประชาชน 250,000 คน และไม่มีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการจำกัดในพื้นที่อื่นๆ ของเมืองหลวง

4.อินโดนีเซีย ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา กำลังพิจารณายกระดับมาตรการจำกัดบางอย่าง หลังยอดผู้ติดเชื้อในเมืองหลวงพุ่งขึ้น

CR:CNN

สหรัฐฯ แสดงท่าทีแข็งกร้าว หลังจีนอ้างสิทธิ์น่านน้ำในทะเลจีนใต้

          ความตึงเครียดเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ปะทุขึ้น หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีนร้าวฉานมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก ความเคลื่อนไหวของจีนที่จะพยายามเข้าควบคุมฮ่องกงด้วยการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงการรับมือกับโรคโควิด-19  นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐฯ ต่อสู้เพื่อให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก มีเสรีภาพและเปิดกว้าง และชี้ให้เห็นว่า คำกล่าวของจีนที่อ้างกรรมสิทธิ์ในทรัพยากรนอกชายฝั่งในทะเลจีนใต้เป็นการกระทำที่ไร้ความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง ถือเป็นการส่งเสริมการใช้อำนาจเพื่อควบคุมทรัพยากรในพื้นที่

          สหรัฐฯ คัดค้านการอ้างสิทธิ์ของจีนในทะเลจีนใต้มานานแล้ว และได้ส่งเรือรบแล่นเข้าไปในน่านน้ำยุทธศาสตร์ดังกล่าวเป็นประจำ เพื่อแสดงให้เห็นถึงเสรีภาพในการเดินเรือในน่านน้ำดังกล่าว

           ด้านสถานทูตจีนประจำสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ข้อกล่าวหาของสหรัฐฯไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง

           จีนอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำกว่าร้อยละ 90 ของทะเลจีนใต้ ที่อุดมไปด้วยแหล่งพลังงาน และยึดแนวเส้นประ 9 เส้น บนแผนที่จีน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 9 ใน 10 ของน่านน้ำในทะเลจีนใต้ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 3.5 ล้านตารางกิโลเมตร ว่าเป็นอาณาเขตของตนมาโดยตลอด ขณะที่บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวันและเวียดนาม ก็ได้อ้างสิทธิ์ในส่วนของตนด้วยเช่นกัน

จีน ขู่แซงก์ชัน “ล็อกฮีด มาร์ตีน” ตอบโต้สหรัฐฯขายอาวุธให้ไต้หวัน

          กระทรวงการต่างประเทศจีน ประกาศว่า จีนกำลังพิจารณาที่จะคว่ำบาตรบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและค้าอาวุธรายใหญ่ของสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของทางการจีนถือเป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯทำข้อตกลงขายอาวุธให้กับไต้หวัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว สหรัฐฯ อนุมัติข้อตกลงขายขีปนาวุธป้องกันทางอากาศ Patriot Advanced Capability-3 มูลค่า 620 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้กับไต้หวัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งอนุมัติขายตอร์ปิโดให้ไต้หวันในเวลาไม่ถึงสองเดือน