เข้มงวดเจ้าหน้าที่ทูตต่างชาติเข้าไทย ย้ำกักตัวในสถานทูต หลังด.ญ.จากซูดานติดโควิด-19

13 กรกฎาคม 2563, 13:52น.


          แม้ประเทศไทยจะไม่มีผู้ติดเชื้อเป็นวันที่ 49 แล้ว แต่ข้อมูลที่มีการเปิดเผยในช่วงสุดสัปดาห์ ที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นเด็กหญิงอายุ 9 ปี และพบว่า เป็นบุคคลในครอบครัวทูต ที่ได้รับสิทธิพิเศษในการเดินทางเข้าประเทศไทย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้เปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยใหม่ซึ่งเป็นเด็กหญิงสัญชาติซูดาน อายุ 9 ปี เดินทางจากภูมิภาคแอฟริกา พร้อมกับครอบครัว(คณะทูต) ที่ ศบค. รายงานสถานการณ์ประจำวันพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม  2563



-วันที่ 7 กรกฎาคม ก่อนออกเดินทางจากซูดาน (ภูมิภาคแอฟริกา ) มารดานำผู้ป่วย(เด็กหญิงคนนี้) และครอบครัวรวม 5 คนไปตรวจหาเชื้อไวรัสก่อนเดินทางมาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งผลตรวจทุกคนก็ไม่พบเชื้อ



-วันที่ 10 กรกฎาคม ผู้ป่วยและครอบครัวรวม 5 คน เดินทางมาถึงไทยด้วยเที่ยวบินที่ MZ3277 เวลา 05.40 น. ผ่านการคัดกรองไม่มีอาการ จึงมีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ผลพบเชื้อไวรัสฯ



-ต่อมาบิดา นำผู้ป่วยส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯและมีการตรวจซ้ำ ผลพบเชื้อและสมาชิกที่เหลือเข้าสู่การกักกันในที่พำนักที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ



-วันที่ 11 กรกฎาคม ผลตรวจจากแพทย์ตรวจพบปอดอักเสบ จึงส่งต่อผู้ป่วยมารักษาต่อที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ





          โฆษก ศบค.เปิดเผยว่า ผู้ป่วยรายนี้ถือเป็นบุคคลในคณะทูต,คณะกงสุล,องค์การระหว่างประเทศหรือผู้แทนรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐ ซึ่งจะมาปฏิบัติงานในไทย  โดยในกลุ่มนี้ จะปฏิบัติด้วยการให้เกียรติซึ่งกันและกันและให้กักกันตัวในพื้นที่สถานทูต โดยเป็นการอนุญาตตามมาตรการในข้อ 4 ว่า เมื่อเดินทางมาถึงให้เข้ารับการกักกันในที่พำนักของบุคคลดังกล่าว ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ต้นสังกัดซึ่งคือสถานทูต เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน ไม่ต้องออกมาจากพื้นที่  แต่เมื่อมาพบ สถานที่พำนักกลายเป็นคอนโดมิเนียมขึ้นมา ทีมสอบสวนโรค จะต้องลงพื้นที่สอบสวนโรคขอให้ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่ให้ความร่วมมือ อย่าตกใจ ซึ่งรายนี้อาการไม่มาก ไม่มีอาการระหว่างการเดินทางและเป็นการเดินทางช่วงสั้นๆ หากประชาชนมีความสงสัยสามารถสอบถามกรมควบคุมโรคได้



          นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศ จะต้องกำชับและขอให้ร่วมกันรับผิดชอบและอาจมีมาตรการมากขึ้นโดยจะทำความเข้าใจสถานทูตต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือให้เกิดความเรียบร้อยมากขึ้นและเรียนรู้ไปด้วยกัน

ข่าวทั้งหมด

X