ภายหลังจากที่สหภาพยุโรป หรือ อียู ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญ ด้านการลงทุน การบริการ และการค้ากับไครเมีย และเซวาสโตโพล เพื่อแสดงให้เห็นว่า อียูไม่ยอมรับการผนวกดินแดนอย่างผิดกฎหมายโดยรัสเซีย ด้านนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป เปิดเผยว่า สหภาพยุโรปหรืออียู ต้องกำหนดแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวในกรณีของรัสเซีย แทนการใช้มาตรการระยะสั้นเพื่อจัดการปัญหาเฉพาะหน้า คำกล่าวของนายทัสก์ซึ่งยังเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ มีขึ้นในที่ประชุมสุดยอดอียู ซึ่งมีการอภิปรายเกี่ยวกับวิกฤติยูเครน และออกมาตรการลงโทษไครเมีย ที่เขาเห็นว่าอียูมักจะเน้นการใช้มาตรการลงโทษรัสเซียที่ให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครน ทั้งผนวกรวมดินแดนไครเมีย แสดงให้เห็นว่ารัสเซียไม่ได้เป็นเพียงภัยคุกคามยูเครน แต่ยังเป็นภัยคุกคามยุโรปเช่นกัน โดยในเวลานี้ กลุ่มแบ่งแยกดินแดนยังมีอาวุธหนัก ทั้งรถถังและจรวด แม้จะมีความพยายามปลดอาวุธ แต่ก็กลับยังมีการปะทะกันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคโดเนสต์ค
ขณะเดียวกัน โปแลนด์เองก็มีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับรัสเซีย และมักจะวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียอยู่เสมอ ด้านนายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซีแห่งอิตาลี่ กล่าวว่า อียูจะต้องร่วมมือกันผลักดันให้รัสเซียออกจากยูเครน ส่วนนายฌอง คลอด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป กล่าวว่าอียูยังเปิดช่องทางสำหรับการเจรจากับรัสเซียเพื่อคลี่คลายปัญหาอยู่เสมอ
...F163..