*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา07.30น.*

19 ธันวาคม 2557, 07:45น.


+++หลายจังหวัดในภาคใต้ ยังน่าห่วงหลังฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคใต้ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) เตือนระหว่างวันที่ 18-20 ธ.ค.อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ตรัง จ.สตูล จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส



+++นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าฯ นราธิวาส ประกาศพื้นที่ อ.ตากใบ อ.แว้ง อ.สุคิริน เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยภัยแล้ว เพื่อให้ทางอำเภอเบิกเงินงบประมาณฉุกเฉิน จ.นราธิวาส มีฝนตกหนักทั่วทุกพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ทำให้แม่น้ำสุไหงโก-ลก แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำสายบุรี ล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตร พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังหนักสุด คือ  อ.แว้ง อ.สุคิริน และ อ.ตากใบ



+++ที่ จ.ยะลา เกิดเหตุดินโคลนถล่มทับบ้านเลขที่ 67/1 หมู่ 6 ต.ธารโต อ.ธารโต ทำให้ด.ญ.ซูไฮลา งาจู อายุ 7 ขวบ เสียชีวิต และ น.ส.ยาวารี งาจู อายุ 22 ปี กับ นายดอเล๊าะ สามะ อายุ 39 ปี พ่อและแม่ของ ด.ญ.ซูไฮลา ได้รับบาดเจ็บ   



+++ส่วนที่ จ.สงขลา น้ำป่าและน้ำจากคลองอู่ตะเภา เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรรวมถึงบ้านเรือนพื้นที่ริมคลองอู่ตะเภา ทั้งใน อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่ นายประสิทธิ์ หนูกุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเขตพื้นที่ประถมศึกษา (สพป.) สงขลา เขต 3 กล่าว เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียนจึงสั่งปิดโรงเรียน 10 แห่งใน อ.นาทวี และ อ.สะเดาอีก 10 แห่ง คาดว่าวันนี้จะปิดเพิ่ม เนื่องจากยังมีน้ำไหลจากเทือกเขาสูงต่อเนื่อง



+++ศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ประกาศยกธงเหลือง หมายถึงให้เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในชุมชนเสี่ยงภัยน้ำท่วมริมคลองอู่ตะเภา และริมคลองระบายน้ำที่ 1 รวม 8 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนคลองระบายน้ำที่ 1, ชุมชนตลาดพ่อพรหม, ชุมชนวัดหาดใหญ่ใน, ชุมชนรัตนวิบูลย์, ชุมชนเทศาพัฒนา, ชุมชนศาลาลุงทอง, ชุมชนจันทร์วิโรจน์ และชุมชนจันทร์ประทีป



+++การประชุมสุดยอดผู้นำการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (จีเอ็มเอส) ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 19-20 ธันวาคมนี้ ที่โรงแรมแชงกรี-ลา ร่วมกับผู้นำจากจีน ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนามและไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์และยกระดับกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ภายใต้หัวข้อหลัก “ความมุ่งมั่นในการลดความเหลื่อมล้ำเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยจะมีรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง และตัวแทนภาคเอกชนจากทั้ง 6 ประเทศ ไม่ต่ำกว่า 500 คน เข้าร่วมประชุมด้วย ที่สำคัญที่สุดการประชุมครั้งนี้จะเป็นการให้ความเห็นชอบในแผนปฏิบัติการตามกรอบการลงทุนในภูมิภาคนี้ร่วมกัน ซึ่งมีทั้งสิ้น 215 แผนงาน ใน 10 สาขา รวมเป็นมูลค่าถึง 51,500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท



+++วันนี้ ผู้นำจากแต่ละประเทศจะทยอยเดินทางมาถึงและจะมีการหารือข้อราชการกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย เริ่มจากเวลา 16.00 น. นายกฯต้อนรับ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีนจีนและเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลง 2ฉบับ คือ การพัฒนารถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน และด้านสินค้าเกษตรไทย-จีน เวลา 17.00 น.นายกฯ ฮุน เซน ของกัมพูชา เข้าพบนายกฯเพื่อหารือข้อราชการ ส่วนช่วงบ่าย เวลา 14.00 น. นายทาเกฮิโกะ นากาโอะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ เวลา 19.00 น. นายกฯเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้นำต่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุม ที่โรงแรมแชงกรี-ลา ขณะที่วันนี้มีการประชุมในเวทีคู่ขนาน ด้านการลงทุน  การประชุมกลุ่มเยาวชน และการประชุมภาคเอกชน ก่อนที่พิธีเปิดจะเริ่มขึ้นในวันพุร่งนี้



+++ขณะที่ ประธานเอดีบี แถลงข่าวเรื่องเศรษฐกิจไทยและแนวโน้มในอนาคต ที่สำนักงานเอดีบีประจำประเทศไทย



+++ส่วนการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เริ่มเวลา 10.00น. ช่วงบ่ายนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.และ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฎิรูปแห่งชาติ( สปช.) จะส่งมอบรายงานสรุปข้อเสนอแนะการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญต่อนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ และในวันที่ 22-26 ธันวาคม จะเป็นการพิจารณาว่าจะลงรายมาตราในประเด็นหลัก เพื่อที่ กมธ.ยกร่างฯจะได้เริ่มประชุมเพื่อวางกรอบในวันที่ 5 -11 มกราคม 2558 และจะเริ่มต้นพิจารณารายมาตราตั้งแต่วันที่ 12 มกราคมเป็นต้นไป



+++ส่วนช่วงเช้า นายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เข้าให้ความเห็นกับกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัว



+++นายคำนูณ สิทธิ สมาน โฆษกกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและประมวลความเห็นของสปช. และสนช. และพรรคการเมือง รวมทั้งกลุ่มการเมืองต่างๆ  246 ประเด็น แยกออกเป็น 272 เรื่อง และแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่บัญญัติไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ 2.กลุ่มที่บัญญัติไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก 3.กลุ่มที่เป็นมาตรการทางการบริหารที่สามารถเสนอต่อคณะรัฐมนตรี( ครม.) และ 4.กลุ่มที่ยังไม่มีข้อยุติและแนวทางที่ชัดเจน ยืนยันว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราไม่มีพิมพ์เขียวใดๆ



+++นายบวรศักดิ์ ปฎิเสธข่าวขัดแย้งกับนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกมธ.การปฏิรูปการเมือง สปช.ว่า ไม่ได้มีความขัดแย้ง แต่ข้อเสนอที่นายสมบัติเสนอให้เลือกคณะรัฐมนตรี (ครม.) และนายกรัฐมนตรีโดยตรงนั้น ไม่เห็นด้วย แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เห็นด้วยทั้งหมด ยกตัวอย่างข้อเสนอที่ไม่ให้นายกรัฐมนตรีและ ครม.รักษาการภายหลังที่มีการยุบสภา ข้อเสนอนี้เห็นด้วย เรื่องไหนดีก็เอามา ส่วนที่มีความเห็นขัดแย้งกันต้องชั่งน้ำหนักเลือกสิ่งที่ดีที่สุด



+++นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า นายกฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.)วาระการพิจารณาที่สำคัญคือเรื่องการกำหนดแผนระบายข้าวในสต็อกรัฐบาล ว่าควรใช้วิธีการใดเพื่อให้มีความเหมาะสมกับปริมาณข้าวที่มีอยู่ในสต็อกประมาณ 17 ล้านตันข้าวสาร เพราะข้าวในสต็อกเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาข้าวปัจจุบันไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม วิธีการระบายต้องให้มีกับช่วงเวลาเหมาะสมไม่ให้กระทบราคาข้าวในตลาดด้วย          วิธีการระบายที่จะนำเสนอ คือการขายแบบยกคลัง โดยให้เอกชนเป็นผู้เสนอราคาซื้อ ขณะที่รัฐมีราคาขายในใจ หากราคาเหมาะสมกันก็ให้เคาะขายได้ แต่หากต่ำกว่าที่รัฐตั้งไว้ก็ไม่ต้องขาย วิธีการนี้รัฐจะไม่ต้องรับผิดชอบคุณภาพข้าว ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งของการระบายข้าวในปัจจุบันที่จะเลือกขายเป็นกองๆ กำหนดคุณภาพ ชนิด และปริมาณข้าวไว้ชัดเจน แต่เมื่อเอกชนทำสัญญาและไปรับมอบข้าวจริงพบว่าไม่ตรงตามที่ประกาศขายเกิดปัญหาต้องไกล่เกลี่ยที่ใช้เวลานาน ทำให้การระบายเป็นไปอย่างล่าช้า          นอกจากนี้ การระบายควรเปิดให้เอกชนหลายๆ รายสามารถรวมตัวกันเพื่อเสนอซื้อ เพื่อไม่ให้เป็นการปิดช่องทางรายเล็กและเอื้อประโยชน์เฉพาะรายใหญ่เท่านั้น ส่วนข้าวที่ประมูลไปไม่จำเป็นต้องกำหนดให้ส่งออก เพราะข้าวในสต็อกเป็นข้าวเก่าที่นิยมบริโภค          ในประเทศ กลุ่มผู้ผลิตข้าวถุง และผู้ผลิตอาหารสัตว์ สามารถเข้าร่วมประมูลเพื่อนำข้าวชนิดต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ตามความต้องการได้     



+++ความคืบหน้าการสรุปสำนวน คดีความผิดของผู้ต้องหาเครือข่ายอดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า คดีในกลุ่มที่ผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูง ข่มขู่ ทวงหนี้ และบังคับให้ผู้เสียหายลดหนี้ มีทั้งหมด 11 คน อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีการส่งสำนวนให้พิจารณาเพิ่ม อีก 3 สำนวน คือ คดีการจ่ายส่วยน้ำมันเถื่อน คดีเปิดบ่อนการพนันและคดีซื้อขายตำแหน่ง สำหรับการกระทำความผิด ตามมาตรา 112 ได้เร่งสรุปสำนวน ให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ก่อนส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาต่อไป สำหรับการออกหมายจับล่าสุด มีเพียง 2 ราย คือ พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี และนายทรงพล ทองสิน เท่านั้น



+++การดำเนินคดีกับคนขับรถบรรทุกที่ชนน.ส.กาณจน์ภัสจ์ ศิริประทุม อายุ 29 ปี เสียชีวิต ขณะเดินข้ามถนน บริเวณหน้าอาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนอโศกมนตรี ร.ต.ท.ราคม คำก้อน ร้อยเวรสอบสวน สน.ทองหล่อ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหา ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยคนขับรถคือนายสุริยา สุขบัว อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาใช้เงินสด 8หมื่นบาทขอประกันตัวในชั้นสอบสวน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า คนขับติดยาเสพติด จึงคัดค้านการประกันตัว คุมตัวที่สน.ทองหล่อ



+++ส่วนอีกคดีเหตุยิงกันภายในวัดธรรมมงคล ซ.สุขุมวิท101 แขวงบางจาก  หน้าสถาบันพลังจิตตานุภาพ ภายในวัดธรรมมงคล เจ้าหน้าที่เตรียมติดตามตัวคนร้ายคือ ด.ต.บุญญฤทธิ์ เรือนเย็น ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลาดกระบัง ที่มาดักรอ น.ส.รุ่งนภา ต๊ะมูล อายุ 23 ปี อดีตแฟนสาว ซึ่งมารายงานตัวเข้าโครงการควบคุมความประพฤติที่วัดหลังถูกจับกุมคดีธุระจัดหา ท้องที่ สน.บางนา เมื่อต้นปี ด.ต.บุญยฤทธิ์ เดินเข้ามาพูดคุยก่อนมีปากเสียงกัน จากนั้นก็ล็อคคอพร้อมกับชักปืนออกมาจ่อยิงที่ขมับ น.ส.รุ่งนภา 1 นัด และอุ้มร่าง น.ส.รุ่งนภา ไปขึ้นรถโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน กท 1921 นครสวรรค์ ที่จอดอยู่ลานจอดแล้วขับหลบหนีไปทันที มีรายงานระบุว่า พบศพ.ด.ต.บุญญฤทธิ์ ที่จ.น่าน พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา ผกก. สน.พระโขนง กล่าวว่า น่าจะมาจากเรื่องหึงหวง และเชื่อว่าผู้ที่ถูกยิงได้เสียชีวิตตั้งแต่จุดเกิดเหตุแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องทำการสอบปากคำญาติผู้ตายอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์



 



 

ข่าวทั้งหมด

X