พรรครัฐบาลสิงคโปร์ชนะเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งตามความคาดหมาย

          พรรคกิจประชาชน หรือ พีเอพี ที่เป็นพรรครัฐบาลของสิงคโปร์มาตั้งแต่การสถาปนาประเทศอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2503 ก็ยังคงชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง แม้ว่าจะมีผลคะแนนรวมลดลงเมื่อเทียบกับผลการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติของสิงคโปร์ ประกาศในวันนี้ (11 ก.ค.) ว่าผลการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดที่ 14 จำนวน 93 ที่นั่ง ซึ่งมีการลงคะแนนเมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) พรรคพีเอพีได้ที่นั่งในสภามากที่สุดคือ 83 ที่นั่ง จากผลคะแนนรวม 1,524,781 คะแนน หรือร้อยละ 61.24

          รองลงมาคือพรรคคนงานแห่งสิงคโปร์ หรือ ดับเบิลยูพี ได้ 10 ที่นั่ง จากผลคะแนน 279,245 คะแนน หรือร้อยละ 11.22 โดยพรรคดับเบิลยูพีเป็นฝ่ายค้านมาตั้งแต่สิงคโปร์สถาปนาประเทศ จำนวนที่นั่งในครั้งนี้ยังเพิ่มขึ้น 4 ที่นั่งจากการเลือกตั้งในครั้งก่อนที่มี 6 ที่นั่ง

          พรรคสิงคโปร์ก้าวหน้า หรือ พีเอสพี ซึ่งเพิ่งก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว มีคะแนนรวมไม่เพียงพอที่จะได้ที่นั่งในสภา แต่ได้โควตา 2 ที่นั่งในฐานะสมาชิกซึ่งส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งและทำผลงานดีที่สุดในการเลือกตั้ง โดยจะไม่ได้เป็นทั้งฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านเพื่อคานอำนาจของพรรคพีเอพีที่เป็นรัฐบาลมาอย่างยาวนาน

          การเลือกตั้งในครั้งนี้ มีผู้ออกมาใช้สิทธิ 2,535,565 คนหรือร้อยละ 95.63 จากจำนวนผู้ที่มีอายุมากกว่า 21 ปีที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้ง 2,651,435 คน  ถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2540

          นายกรัฐมนตรีลี ออกแถลงการณ์ระบุว่า ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็นความถูกต้องเหมาะสม แต่ยังไม่ดีพอกับที่ตั้งความหวังไว้ เพราะบ่งชี้ถึงความเจ็บปวดของชาวสิงคโปร์จากวิกฤตที่เกิดขึ้น และมีความเข้าใจว่าอะไรคือความเสี่ยง ตลอดจนเหตุผลที่ทุกคนต้องมีความร่วมมือกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ โดยเขาจะนำผลการเลือกตั้งนี้ไปทำงานต่อไปด้วยความรับผิดชอบในการจัดการกับโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เพื่อให้ผ่านวิกฤตไปได้อย่างปลอดภัย

          นักวิเคราะห์ระบุว่า คำแถลงของนายกรัฐมนตรีแสดงถึงการยอมรับผลการเลือกตั้งที่พรรคได้คะแนนลดลงมากกว่าร้อยละ 8 จากการเลือกตั้งในครั้งก่อน และการที่ประชาชนไม่พอใจที่รัฐบาลยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั้งยังผิดหวังกับปัญหาค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง และนโยบายเปิดรับชาวต่างชาติ ซึ่งทำให้ชาวสิงคโปร์ตกงาน

...