ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563

10 กรกฎาคม 2563, 08:45น.


สธ.สมุทรสงคราม ยืนยัน แรงงานเมียนมาที่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ได้รับเชื้อจากโรงงาน



          การตรวจสอบกรณีแรงงานเมียนมา ที่ทำงานในโรงงานใน อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม และมีที่พักอยู่ที่อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี เมื่อใบอนุญาตทำงานหมดอายุ ในวันที่ 24 มิ.ย.เดินทางกลับเมียนมา พบว่า ติดเชื้อโรคโควิด-19 นพ.สันทิต บุณยะส่ง นายแพทย์สาธารณสุขจ.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่า ผู้ป่วยพักอยู่คนเดียว เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์จากที่พักที่อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรีมาทำงานในโรงงานจนถึงวันที่ 10 มิ.ย.และตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.ไม่ได้มาทำงาน เนื่องจากใบอนุญาตทำงานหมดอายุ และในวันที่ 23 มิ.ย.เดินทางไปที่ด่านแม่สอด จ.ตาก และออกจากประเทศไทยในช่วง 09.00-10.00 น.วันที่ 24 มิ.ย.



สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 5 ราชบุรี แจ้งเรื่องให้งานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจ.สมุทรสงคราม รับทราบจึงได้ลงพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบ 2 ช่วง



-การตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับไปในช่วงตั้งแต่วันที่ 1-10 มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ป่วยเคยทำงานในโรงงาน ไม่พบว่ามีคนงานในโรงงานนี้ มีอาการเข้าข่ายโรคโควิด-19 ประกอบกับโรงงานมีมาตรการการคัดกรองคนงานที่มาทำงานอย่างเข้มงวดทุกคน



-การตรวจสอบข้อมูลหลังจากที่ผู้ป่วยไม่ได้มาทำงานในโรงงานแล้ว ระหว่างวันที่ 11 มิ.ย.-5 ก.ค. (เป็นระยะเวลา 25 วัน ซึ่งเกินระยะฟักตัวของโรค )ไม่พบว่ามีคนงานในโรงงานนี้คนใดที่มีอาการเข้าข่ายป่วยโรคโควิด-19



นายแพทย์สาธารณสุขจ.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลแล้ว สรุปว่า



-ในช่วงที่ทำงานในจ.สมุทรสงคราม ผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้รับเชื้อจากโรงงานในจ.สมุทรสงคราม



-สำนักงานสาธารณสุข จ. สมุทรสงคราม ร่วมกับ โรงพยาบาลอัมพวา และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต 5 เฝ้าระวังโรคอย่างต่อเนื่อง ด้วยการตรวจเชื้อคนงานในโรงงานแห่งนี้ จำนวน 500 คน แบ่งเป็น คนงานต่างด้าว 300 คน คนไทย 200 คน ในวันที่ 10-11 ก.ค. และจะรายงานข้อมูลเพิ่มเติมให้ได้รับทราบ   



คมนาคม สั่งปรับแผนรับเดินทางปลายเดือน 25-28 ก.ค.



          นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สรุปภาพรวมการเดินทางของประชาชนทั้งในส่วนรถสาธารณะ รถยนต์ส่วนบุคคล สถิติจำนวนผู้เดินทางทั้งหมด และภาพรวมของอุบัติเหตุ พบว่าจำนวนผู้เดินทางวันหยุดยาวช่วงแรก 3 - 7 ก.ค. มีจำนวนรถส่วนบุคคล ที่เดินทางเข้า-ออกกรุงเทพฯจำนวน 6,007,706 คัน มีผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ 9,014,427 คน อุบัติเหตุเกิดขึ้น 369 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 56 ราย และบาดเจ็บ 396 คน ขอให้ทุกหน่วยงานนำสถานการณ์ช่วงวันหยุดยาวต้นเดือนก.ค.และนำไปจัดทำแผนเตรียมรับมือกับช่วงหยุดยาวของปลายเดือนก.ค.ระหว่างวันที่ 25 - 28 ก.ค. เบื้องต้นขอให้ปรับปรุง ช่องจราจรผ่านด่านทางด่วนและมอเตอร์เวย์ ซึ่งรัฐบาลมีการงดเว้นค่าผ่านทางให้แก่ผู้ใช้ทาง แต่พบว่าในแต่ละด่านเก็บค่าผ่านทางบางแห่งมีการเปิดช่องจราจรเพียง 3-4 ช่องเท่านั้น ทำให้เมื่อถึงหน้าด่านรถจำนวนมากต้องเบียดกันเพื่อใช้เส้นทาง เกิดการกระจุกตัวขึ้น เมื่อมีการงดเว้นค่าผ่านทางแล้วก็ขอให้เปิดช่องผ่านทุกด่านเพื่อให้การจราจรเกิดการลื่นไหลด้วย



         นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการดูแลผิวจราจร เช่น ขอให้มีการทำป้ายแจ้งผู้ใช้รถให้ทราบว่า ในระยะทางข้างหน้าอีกกี่กิโลเมตรจะมีจุดพักรถ (Rest Area) เพื่อให้รถที่สัญจรทราบว่าหากต้องการเข้าใช้จุดพักรถ จะได้เตรียมตัวเพื่อใช้ช่องจราจรให้เหมาะสม ไม่เกิดการตัดกระแสจราจร ทำให้เกิดปัญหารถติดช่วงใกล้จุดพักรถ



ป่าไม้ รื้อถอนที่พัก รีสอร์ท 8 หลังบนดอยม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่



          เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ และชุดพยัคฆ์ไพร เข้ารื้อถอนบ้านพักรีสอร์ท 8 หลัง บนดอยม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 29  แห่ง ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ โดยเจ้าของอาคารดังกล่าวยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอน  



          สำหรับ 29 แห่ง ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างเกินความจำเป็น ก่อสร้างรุกล้ำเข้าไปในเขตป่าเพิ่มเติม หรือบุกรุกพื้นที่ใหม่  รวมทั้งมีการซื้อขายเปลี่ยนมือ และให้นอมินีเข้ามาถือครอง จึงต้องบังคับใช้กฎหมายให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป เพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับมาเป็นป่าสมบูรณ์เหมือนเดิม โดยหลายรายก็เตรียมที่จะรื้อถอน แต่รายไหนไม่ยอมรื้อถอนทางราชการจะเข้าไปรื้อถอนและเรียกร้องค่าเสียหาย



          ส่วนชาวบ้านที่เหลืออีก 80 กว่าราย จากการตรวจสอบพบยังเป็นผู้ครอบครองเดิม แต่บางรายมีการก่อสร้าง หรือประกอบกิจการที่พัก รีสอร์ท ซึ่งไม่เป็นไปตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 ได้ส่งเรื่องให้ฝ่ายปกครองดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรงแรมฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯแล้ว



รมว.เกษตรฯ สั่งรวบรวมข้อมูลสินค้าจากมะพร้าวชี้แจงต่างชาติ



          นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พร้อมสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตมะพร้าวให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์นำไปชี้แจงให้ประเทศต่าง ๆ ทราบว่า ไทยใช้แรงงานคนเก็บผลผลิต ไม่ใช้แรงงานลิงอย่างที่องค์กรพิทักษ์สัตว์ PETA กล่าวหา โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังรวบรวมข้อมูลตลอดห่วงโซ่การผลิต จำเป็นต้องแก้ไขความเข้าใจผิด เพื่อไม่ให้คู่ค้านำสินค้าแปรรูปจากมะพร้าวไทยออกจากชั้นวางจำหน่าย ซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อชาวสวนและผู้ประกอบการในประเทศ



          สำหรับกฎหมายที่ดูแลลิงกัง คือ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่เรื่องนี้ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยใช้ข้อเท็จจริงและเหตุผล ไม่ใช่ตอบโต้ด้วยอารมณ์ เนื่องจากไทยไม่ได้อยู่ในโลกเพียงประเทศเดียว แต่มีความสัมพันธ์และการค้าระหว่างประเทศต่าง ๆ ด้วย



 

ข่าวทั้งหมด

X