ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563

10 กรกฎาคม 2563, 07:40น.


รมว.สธ.สั่งดำเนินคดี 18 คลินิกชุมชน ทุจริตค่ารักษาพยาบาลบัตรทอง



          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สั่งตรวจสอบเรื่องที่บอร์ด สปสช. รายงานว่าคลินิกชุมชนอบอุ่นในกรุงเทพฯมีการปลอมแปลงเอกสารการเบิกเงินจาก สปสช. แต่ไม่มีการดูแลประชาชนจริงเป็นการทุจริตชัดเจน ที่ประชุมจึงได้มีการแต่งตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ยืนยันเอาผิดทั้งทางแพ่ง อาญา เพิกถอนการเป็นสถานพยาบาล และถ้ามีแพทย์ พยาบาล ที่เกี่ยวข้องก็เอาผิดหมด รวมถึงเอาผิดด้านจรรยาบรรณวิชาชีพด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และมีมูลค่าความเสียหายสูง ที่สำคัญคือเป็นเงินที่มาจากภาษีประชาชน



          นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช. แถลงความคืบหน้ามติบอร์ด สปสช. ให้ตั้งคณะกรรมการเอาผิดคลินิก 18 แห่ง มีนายจิรวุสฐ์ สุขได้พึ่ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธาน ให้ดำเนินการแล้วเสร็จ 30 วัน พร้อมประกาศยกเลิกสัญญาการเป็นหน่วยบริการทั้ง 18 แห่ง หลังจากมีการตรวจพบความผิดปกติในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยบัตรทอง สอบเอกสารกว่า 200,000 ฉบับ ค่าเสียหายเบื้องต้นเบิกรายจ่ายเกินกว่า 74 ล้านบาท



CR:Facebook สปสช.



นายกฯ ย้ำปรับครม.เท่าที่จำเป็น คำนึงถึงเรื่องเศรษฐกิจ 



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าเป็นส่วนหนึ่งของวิถีทางการเมือง เวลานี้ยังไม่มีคำตอบให้ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีหรือใครจะออก ต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน สัดส่วนการปรับครม.ประกอบด้วยบุคคลจากพรรคการเมืองและมีคนนอกส่วนหนึ่ง วิกฤตที่ทุกคนต้องทำงานไปก่อน และเมื่อถึงเวลาปรับครม.ก็ต้องปรับ อย่าวิ่งเต้น และจะปรับเท่าที่จำเป็น ใครที่ทำงานดีอยู่แล้วก็ให้ทำต่อ แต่มองว่าครม.ทุกคนทำงานดีทั้งหมด  สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความสงบเรียบร้อยและหากต้องปรับครม.ก็ต้องมองในภาพรวมครม.เศรษฐกิจด้วย



          นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ในฐานะที่ดูแลการทำงานของทีมเศรษฐกิจทั้ง 4 คนมาโดยตลอด โดยนายสมคิดระบุว่าพร้อมทุกเรื่อง ส่วน 4 คนนี้จะกลับมาร่วมครม.หรือไม่ ขอให้เป็นไปตามกลไกทางการเมือง 



ดัชนีเชื่อมั่นเริ่มดีขึ้น หอการค้าไทย เร่งรัฐบาลอัดฉีดงบฯกระตุ้นศก.



          นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยประจำเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 31.5 ขยับขึ้นมาจากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 31.3 และเดือนเม.ย.ที่ระดับ 32.1 ถือเป็นการปรับตัวดีขึ้นในรอบ 2 เดือน แม้ว่าค่าดัชนีจะยังอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากค่าดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่า 33 หลังได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 จึงสะท้อนได้ว่าความเชื่อมั่นยังไม่ปรับตัวดีขึ้น



          ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เสนอให้รัฐบาลเร่งกระตุ้นและอัดฉีดเม็ดเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งหากกระตุ้น 100,000 ล้านบาท ภายในเดือนส.ค.จะช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ให้ขยับขึ้นได้ร้อยละ 0.3-0.5 และหากเดือนก.ย.อัดฉีดเพิ่มอีก 100,000 ล้านบาท จะช่วยพยุง GDP ได้ร้อยละ 0.7-1 ประกอบกับการเบิกจ่ายงบประมาณ 2563 มากระตุ้นไตรมาส 3และงบประมาณรายจ่ายปี 2564 ช่วงไตรมาส 4 จะทำให้ GDP ไทยติดลบน้อยลงจากเดิม คาดการณ์ว่า จะติดลบร้อยละ 8-10 ขยับมาเป็นติดลบร้อยละ 5-6 ได้



13 ก.ค.กรมการจัดหางาน เปิดให้ต่อใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าว

          นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยถึง การต่ออายุใบอนุญาตทำงานและขออยู่ต่อในราชอาณาจักรของแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ตามมติ ครม. วันที่ 20 ส.ค. 2562 ว่า จากการเปิดให้นายจ้างหรือผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวมาทำงาน ได้ยื่นบัญชีรายชื่อ (Name List) ต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวต่อกระทรวงแรงงานแล้วภายในวันที่ 31 มี.ค. 2563 แต่ไม่สามารถดำเนินการขออนุญาตทำงานให้แล้วเสร็จได้ตามกำหนด เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว กรมการจัดหางานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดการดำเนินการรอบใหม่ เพื่อต่ออายุใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าวส่วนที่ยังเหลืออยู่ให้แล้วเสร็จประมาณ 500,000 คน 



          อธิบดีกรมการจัดหางาน ขอให้นายจ้างตรวจเช็คเอกสารของลูกจ้างและดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้แล้วเสร็จตามกำหนด ซึ่งขั้นตอนการให้บริการจากเดิมที่มีศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (oss) จำนวน 4 แห่งในกรุงเทพฯ อำนวยความสะดวก แต่เพื่อคงเข้มมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม การต่ออายุใบอนุญาตทำงานจึงให้บริการในรูปแบบดำเนินการ ณ ที่ตั้งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของกรุงเทพฯจะเริ่มให้บริการปกติในวันที่ 13 ก.ค. ส่วนในภูมิภาคได้ทยอยดำเนินการไปบางส่วนแล้ว 



          ขั้นตอนการต่ออายุใบอนุญาตทํางานแรงงานต่างด้าวที่ได้ยื่นบัญชีรายชื่อ (Name List) ไว้แล้ว ให้ดำเนินการในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จตามขั้นตอน



1. แรงงานต่างด้าวเข้ารับการตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลของรัฐ



2. นำไปตรวจโรคไปยื่นขอรับการตรวจลงตราวีซ่าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง



3. การยื่นขอรับใบอนุญาตทำงานผ่านทางระบบออนไลน์ของกรมการจัดหางาน ทางเว็บไซต์ https://e-workpermit.doe.go.th/ โดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด



4. ยื่นรับบริการทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย(บัตรสีชมพู) ซึ่งมีใบอนุญาตทำงานอยู่หลังบัตร ได้ที่สำนักงานเขตของกรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต ในส่วนภูมิภาคยื่นที่อำเภอ สำหรับการยื่นทำบัตรสีชมพูที่สำนักงานเขตกรุงเทพฯ สามารถติดต่อได้ในเวลาราชการวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-16.00 น.ขอให้ประสานล่วงหน้าก่อนเข้าติดต่อรับบริการ



 

ข่าวทั้งหมด

X