*อียู ลงมติคว่ำบาตรรอบใหม่ต่ออ่าวไครเมีย ที่ผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย*

นางมาจา โคซิจานซิค โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมในวันนี้ว่า กลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ได้ลงมติคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออ่าวไครเมีย ห้ามพลเมืองยุโรปและบริษัทของยุโรปไปทำการลงทุนและการค้าบนอ่าวไครเมีย เพื่อส่งสัญญาณว่า อียูจะไม่ให้การยอมรับรัสเซียกรณีผนวกอ่าวไครเมียของยูเครนมาเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่งเมื่อเดือนมีนาคม ระบุว่า การผนวกดินแดนดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย และการลงมติคว่ำบาตรเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกว่าอียูจะไม่ให้การยอมรับการผนวกดินแดนนั้นของรัสเซีย มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ อียูลงมติห้ามนำเข้าสินค้าจากอ่าวไครเมียเมื่อเดือนมิถุนายน เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในภาพใหญ่ รวมถึงการอายัดทรัพย์สินและห้ามออกวีซาให้แก่พลเมืองและบริษัทสัญชาติรัสเซียและยูเครนที่มีส่วนก่อให้เกิดวิกฤติในยูเครน

นอกจากนี้ อียูเรียกร้องให้รัสเซียช่วยหาคลี่คลายวิกฤติในยูเครน หลังมีคนเสียชีวิตแล้วกว่า 4,600 ศพ นับตั้งแต่รัสเซียยึดอ่าวไครเมีย ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี กล่าวว่าจุดประสงค์ของอียูคือ ต้องการให้ยูเครนเป็นรัฐอิสระ มีเอกราชที่สมบูรณ์ และมีอาณาเขตเป็นอันหนึ่งอันเดียวทั้งประเทศ และสามารถจะกำหนดอนาคตของตัวเองได้ ระบุว่าการคว่ำบาตรรัสเซียยังคงเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จนกว่าจะทำได้สำเร็จตามเป้าหมาย พร้อมทั้งเตือนว่า อาจจะต้องใช้ความอดทนและความพยายามอย่างต่อเนื่องจนกว่าเป้าหมายนั้นจะสำเร็จ