แพทย์ชาวญี่ปุ่นทดสอบหน้ากากผ้า กั้นเชื้อโควิด-19ที่แพร่ทางอากาศไม่ได้ แต่ยังดีกว่าไม่ใส่เลย

09 กรกฎาคม 2563, 19:56น.


         รองศาสตราจารย์คาซูนาริ โอนิชิ จากมหาวิทยาลัยนานานาชาติเซนต์ลุค  ในญี่ปุ่น ทำการทดสอบหน้ากากประเภทต่าง ๆ จากประสิทธิภาพการป้องกันการแพร่เชื้อผ่านทางอากาศ หรือ airborne และพบว่า หน้ากากผ้ามีอัตราผ่านของเชื้อโรคได้ 100% ทั้งเชื้อโรคที่ลอดผ่านผ้าที่ทำหน้ากากและผ่านช่องว่างระหว่างหน้ากากกับใบหน้า



          ส่วนหน้ากากอนามัยที่ทำจากแผ่นใยสังเคราะห์ที่ไม่ถักทอ มีอัตราผ่านของเชื้อโรค 50% ถ้าหากใส่กระชับแนบสนิทหน้า แต่ถ้าใส่อย่างหลวมๆ เชื้อโรคก็จะ  ผ่านได้ 100%



          การทดสอบประสิทธิภาพการปกป้องของหน้ากาก ทำโดยวัดจำนวน  อนุภาคขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมโครเมตรในอากาศ เทียบกับจำนวนอนุภาคในพื้นที่  ระหว่างหน้ากากกับใบหน้า โดยทดสอบกับหน้ากากหลายประเภททั้งหน้ากากผ้า   หน้ากากอนามัยใยสังเคราะห์ หน้ากากกันฝุ่น หน้ากากมาตรฐาน N95 รวมทั้ง   “หน้ากากอาเบะ” ที่รัฐบาลญี่ปุ่นแจกให้กับทุกครัวเรือน  



รศ.โอนิชิ กล่าวว่า ความแตกต่างของหน้ากากแต่ละประเภทนอกจากเพราะวัสดุที่ใช้แล้ว สิ่งสำคัญคือ วิธีการสวมใส่ หน้ากากมาตรฐาน N95 มีเชื้อไวรัสลอดผ่านได้เพียง 1% ถ้าใส่อย่างถูกต้อง แต่ถ้าใส่ไม่ถูกต้องเชื้อไวรัสจะลอดผ่านได้ 6%



          ส่วนหน้ากากอนามัยแบบไม่ถักทอซึ่งผ่านการทดสอบประสิทธิภาพของแผ่นกรอง มีโอกาสที่ไวรัสลอดผ่านได้ 52% แต่หน้ากากที่ไม่มีการทดสอบแผ่นกรอง มีโอกาสที่ไวรัสลอดผ่านได้ 81% แต่ถ้าสวมใส่แบบหลวมๆ ไม่กระชับใบหน้าจะสกัดกั้นเชื้อไวรัสไม่ได้เลย การสวมหน้ากากอย่างถูกต้องมีความสำคัญมากไม่ว่าจะเป็นหน้ากากแบบไหนก็ตาม จุดที่สำคัญคือต้องไม่มีช่องว่างระหว่างหน้ากากกับใบหน้า



          อย่างไรก็ตาม แม้หน้ากากผ้าไม่สามารถป้องกันไวรัสที่แพร่ผ่านทางอากาศได้ แต่การสวมหน้ากากสามารถป้องกันการติดเชื้อจากฝอยละอองจากการไอ จาม และยังช่วยให้ผู้สวมไม่ใช้มือไปจับจมูกและปาก ลดการติดเชื้อจากการสัมผัสได้



        นอกจากนั้น แม้จะสวมหน้ากากแล้วก็ต้องไม่ประมาท คิดว่าหน้ากากจะป้องกันเชื้อไวรัสได้ทั้งหมด เราก็ต้องไม่ละเลยในการรักษาสุขอนามัย เช่น ล้างมือสม่ำเสมอ ไม่จับต้องสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น

ข่าวทั้งหมด

X