ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม 2563

09 กรกฎาคม 2563, 07:45น.


พาณิชย์ รับมือแก้ปัญหาอังกฤษแบนกะทิไทย ไม่ใช่กีดกันทางการค้า



          ผลสรุปการประชุมแก้ปัญหาอังกฤษแบนสินค้าในกลุ่มมะพร้าวจากไทย หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์เรียกทุกฝ่ายประชุม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์  สรุปรายละเอียดผลการประชุมว่า



-กระบวนการผลิตจะต้องตรวจสอบได้เช่นกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะต้องให้ทูตพาณิชย์ในต่างประเทศ ชี้แจงกับผู้นำเข้า



-โรงงานผลิตเพิ่มกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับ แม้ปัจจุบันจะมีระบบควบคุมคุณภาพที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อยู่แล้ว จะต้องทำให้เข้มข้นมากขึ้น ด้วยการระบุผลผลิตที่ได้ว่ามาจากสวนไหน มีการใช้แรงงานอะไร ที่จะต้องใส่รหัสบนแพ็กเกจจิ้งของแต่ละผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจน



-เตรียมเชิญเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำไทย สื่อมวลชน และองค์กรพิทักษ์สัตว์ เข้าร่วมตรวจสอบถึงแหล่งเพาะปลูกและโรงงานผลิต



อย่างไรก็ตาม มองปัญหานี้ไม่ใช่เป็นการกีดกันทางการค้า เพราะเป็นปัญหาระดับภาคเอกชนต่อเอกชนด้วยกัน แต่ภาครัฐ จะพยายามชี้แจงทำความเข้าใจทุกด้านไม่ให้กระทบสินค้าของไทย 



          ผลผลิตผลิตภัณฑ์มะพร้าวจากประเทศไทยในปี 2562 ประมาณ 788,000 ตัน มีโรงงานแปรรูปผลผลิตจากมะพร้าว 15 โรงงาน ทั้งหมดเป็นกะทิ 113,000 ตัน ร้อยละ 70 บริโภคภายในประเทศ ที่เหลือส่งออกมีความจำเป็นต้องนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเพิ่มเติมด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะไม่พอส่งออก เช่น นำเข้าจากอินโดนีเซีย เป็นต้น



          การส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญก็มี 2 ชนิด 1.กะทิ 2.มะพร้าวอ่อน แต่ประเด็นปัญหาที่อยู่ขณะนี้คือเรื่องของกะทิ ยอดส่งออกเมื่อปีที่แล้ว 12,300 ล้านบาท ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปร้อยละ18 คิดเป็นมูลค่า 2,250 ล้านบาทและในสหภาพยุโรป เป็นประเทศอังกฤษ ร้อยละ 8  มูลค่า 1,000 ล้านบาท



‘ครูหยุย' เตรียมตั้งคณะทำงานพิจารณาร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต 



          นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึง กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ว่าช่วงสมัยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ได้ร่วมกับกลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศ พิจารณาร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิต ที่ให้คนเพศเดียวกันแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักการความเท่าเทียมระหว่างเพศ ที่ได้ผลักดันจนกฎหมายผ่านสภาออกมาบังคับใช้ได้ เพียงแต่ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่พิจารณาคราวเป็น สนช. ยังมีข้อถกเถียงในสองประเด็นสำคัญ คือ เรื่องการรับบุตรบุญธรรมและเรื่องการจัดการมรดก ซึ่งสัมพันธ์กับกฎหมายแพ่งและกฎหมายการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม และเมื่อผ่านมติครม.เห็นชอบในหลักการให้คนเพศเดียวกันสมรสกันได้ รับบุตรบุญธรรมได้ และดูแลจัดการทรัพย์สินร่วมกันได้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีและน่าชื่นชม คณะกรรมาธิการสังคมฯ วุฒิสภา ที่ตนทำหน้าที่เป็นประธานอยู่ ได้มีคณะอนุกรรมาธิการสตรีและผู้มีความหลากหลายทางเพศอยู่ด้วย จึงพร้อมพิจารณาสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้อยู่แล้ว และเพื่อให้ประเด็นนี้ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น ก็จะรีบจัดตั้งคณะทำงานพิจารณาพ.ร.บ.คู่ชีวิต พิจารณาคู่ขนานไปกับกระทรวงยุติธรรมที่เป็นเจ้าของร่าง



          ส่วน #ไม่เอาพ.ร.บ.คู่ชีวิต กำลังถูกพูดถึงอย่างดุเดือดบนเทรนด์ทวิตเตอร์ หลายคนมองว่า พ.ร.บ.คู่ชีวิต ยังไม่ตอบโจทย์การนำไปสู่การสมรสเท่าเทียม บางคนมองว่า การออกร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต เป็นการแบ่งแยกเพศ จากการออก พ.ร.บ.ใหม่ แทนที่จะมีการปรับแก้และใช้ พ.ร.บ.เดียวกันกับการแต่งงานระหว่างชายและหญิง เพื่อให้ทุกเพศเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง



ภรรยา”พ.ต.ท.บรรยิน” ให้ปากคำ ปฎิเสธ ร่วมขบวนการแหกคุก



          นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยา พ.ต.ท.บรรยิน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานคดีการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน จากเรือนจำ เนื่องจาก พนักงานสอบสวน พบว่า นางวราภรณ์ มีความเกี่ยวกับข้องกับพยานหลักฐานบางอย่างทางคดี



           นางวราภรณ์  ยืนยันว่า ไม่รู้จักนายสุธน หรือโจ ทองศิริ ลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยิน รวมถึงตนก็ไม่ได้โอนเงินให้นายกรณ์ กันเที่ยง ทนายความ ที่ประกันตัวนายสุธน ด้วย



          ขณะที่วันนี้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.ออกหมายเรียกให้ นายณัฐพล หรือท๊อป มาพบวันนี้ เนื่องจากเป็นพยานอีกคนที่เคยถูกคุมขังร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยิน ภายในเรือนจำฯ และรับรู้ถึงแผนการแหกคุก และคาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะแจ้งข้อกล่าวหา พ.ต.ท.บรรยิน ในฐานะผู้ใช้ให้ผู้อื่นร่วมแหกคุกชิงตัว



แพทย์นิติเวชไม่สรุป “น้องกานต์” ถูกหมากัดตาย รอชัดเจนอีก 30 วัน



          เจ้าหน้าที่มูลนิธิจาก จ.จันทบุรี  นำร่างของน้องกานต์ เด็กชายอายุ 6 ขวบ ที่เสียชีวิตอย่างน่าสงสัยโดยไม่ปรากฎสาเหตุการเสียชีวิต แต่สภาพศพมีร่องรอยบาดแผลคล้ายถูกสัตว์กัดแทะ ร่างเหลือเพียงครึ่งท่อนบน ทางญาติจึงสันนิษฐานว่า ถูกสัตว์ทำร้ายจนเสียชีวิต และเพื่อเป็นการคลี่คลายปมสงสัยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี จึงมีคำสั่งให้นำร่างน้องกานต์ มาผ่าชันสูตรเพิ่มเติมอีกครั้ง ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำไปประกอบสำนวนในคดีและเพื่อความโปร่งใส



          พ.ต.อ.วาที อัศวุฒมางกุร  รองโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผย  ผลชันสูตรร่างน้องกานต์ว่า เนื่องจากสภาพศพเสียหายมาก จึงไม่สามารถตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนได้  แพทย์ได้ตัดชิ้นส่วนอวัยวะตรวจทางห้องปฏิบัติการ คาดว่า ใช้เวลา 30 วัน จึงจะทราบผลตรวจที่ชัดเจน 



          มีรายงานว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค2 ลงพื้นที่ติดตามคดี ระบุว่า จากการตรวจสอบวางประเด็นไว้สองส่วนคือ สาเหตุการเสียชีวิตและการทำลายศพ



กมธ.เชิญ รองผบ.ตร.ชี้แจงคดี'น้องชมพู่'



          นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน แถลงถึงกรณีตรวจสอบการใช้นิติวิทยาศาสตร์ในการสืบสวน สอบสวนคดีน้องชมพู่ ในพื้นที่จ.มุกดาหาร โดยได้ข้อสรุปว่า



1.ไม่พบอาหารในกระเพาะอาหาร



2.ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยบาดเจ็บที่สามารถทำให้ถึงแก่ความตายได้(พบเพียงรอยขูดขีด)



3.ไม่พบการล่วงละเมิดทางเพศ เนื่องจากมีความสมบูรณ์ของเยื่อพรหมจารี



4.สรุปเหตุแห่งการตาย ไม่ทราบสาเหตุเนื่องจากศพเน่า และไม่พบร่องรอยที่ทำให้บาดเจ็บจนเสียชีวิต



5.จากการชันสูตรในวันที่ 15 พ.ค. 2563 คาดว่าเสียชีวิตประมาณ 2 วันก่อนชันสูตร คือวันที่ 13 พ.ค. 2563



          คณะกมธ.เห็นว่าควรนำหลักการทางนิติเวชและนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญแห่งคดีมาประกอบการพิจารณาสืบสวนสอบสวนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และวันที่ 15 ก.ค. กมธ.จะเชิญ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบคดี รวมทั้งหมอที่ทำการชันสูตรทั้ง 2 ครั้ง ชี้แจงข้อเท็จจริงกับกมธ.ในขั้นตอนการทำงาน



 

ข่าวทั้งหมด

X