แจ้งข้อหา! 2 วัยรุ่นฝรั่งเศส พยายามฆ่า คดีทำร้ายคนขับรถบัส
เหตุชาย 4 คน รุมทำร้ายนายฟิลิปเป มองกิลโลต์ คนขับรถบัสวัย 59 ปี ที่เมืองบายอน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ หลังจากขอร้องให้ชาย 3 คน ในจำนวน 4คน สวมหน้ากากอนามัยและพยายามขอตรวจสอบตั๋วโดยสารของชายอีกคน ทำให้กลุ่มชายดังกล่าวไม่พอใจรุมทำร้ายจนคนขับรถบัสอยู่ในภาวะสมองตาย ล่าสุด อัยการฝรั่งเศส ตั้งข้อหาชาย 2 คน อายุ 22 ปี และ 23 ปี ฐานพยายามฆ่า และมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน ส่วนอีก 2 คนที่เหลือถูกตั้งข้อหาเพิกเฉยไม่ยอมช่วยเหลือ และหนึ่งในนั้นยังเจอข้อหาให้ที่หลบซ่อนแก่ผู้ต้องสงสัยอีกข้อหาด้วย เพราะหลังจากก่อเหตุหลบหนีไปซ่อนตัวที่อพาร์ทเมนท์
ลูกสาววัย 18 ปีของคนขับรถบัส เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นด้วยสีหน้าโศกเศร้าว่าเรารู้ดีว่าพ่อจากไปแล้ว
ฝรั่งเศส บังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใช้ระบบขนส่งสาธารณะมาตั้งแต่เดือนเม.ย.และคนขับก็ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่อนุญาตให้คนกลุ่มนี้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยขึ้นมาบนรถ และเชื่อกันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกทำร้าย
ผู้ว่าฯนิวยอร์ก ตอกหน้า"ทรัมป์" ยืนยันไม่มีอำนาจสั่งเปิดโรงเรียน
นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ โจมตีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่กดดันให้มีการเปิดโรงเรียนของรัฐภายในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ นายคูโอโม ยืนยันว่า นายทรัมป์ ไม่มีอำนาจตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากการตัดสินใจเปิดโรงเรียนเป็นการตัดสินใจภายในรัฐ และจะเปิดโรงเรียนก็ต่อเมื่อมีความปลอดภัยทั้งเด็กและผู้ปกครอง และทุกคนต่างก็ต้องการที่จะเปิดโรงเรียนเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ ทวีตข้อความ โดยขู่ว่าจะตัดงบประมาณของรัฐบาลกลางในการสนับสนุนโรงเรียนของรัฐ หากโรงเรียนดังกล่าวไม่เปิดการเรียนการสอนเพื่อให้เด็กนักเรียนเข้าชั้นเรียนภายในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ รัฐต่างๆ จะเป็นผู้รับผิดชอบการศึกษาระดับประถมและมัธยมต้น แต่รัฐบาลกลางจะจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมให้บางส่วน
ขณะเดียวกัน นายทรัมป์ ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ ตำหนิศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ(ซีดีซี) หน่วยงานป้องกันสุขภาพของประเทศ ซึ่งผู้อำนวยการของศูนย์ก็เป็นหนึ่งในคณะทำงานพิเศษของทำเนียบขาวในการรับมือกับโรคโควิด-19 ว่าไม่เห็นด้วยกับ ซีดีซี กับคำแนะนำที่น่ากลัวมากเกินไป สำหรับการเปิดโรงเรียน และจะประชุมกับ ซีดีซี เพื่อกดดันผู้ว่าการรัฐต่างๆให้กลับมาเปิดการเรียนการสอนในฤดูใบไม้ร่วงนี้
ความพยายามในเรื่องนี้ เกิดขึ้นในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายรัฐทางใต้ รวมถึงรัฐเทกซัส, รัฐฟลอริดา,รัฐลุยเซียนาและรัฐแอริโซนา แต่ในรัฐที่เป็นอดีตศูนย์กลางการแพร่ระบาด เช่น รัฐนิวยอร์กและรัฐต่างๆทางตะวันออกเฉียงเหนือ พบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานเมื่อเวลา 05.30 น.ว่ายอดผู้ติดเชื้อสะสมในสหรัฐฯพุ่งขึ้นเป็น 3,035,337 คน เสียชีวิต 132,042 ราย
สื่อบราซิล เตรียมฟ้องผู้นำ มีความผิดทางอาญา แพร่เชื้อโควิด-19
สมาคมสื่อมวลชนของบราซิล ระบุว่า ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ทำให้บรรดาผู้สื่อข่าวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ อยู่ในความเสี่ยง ตอนที่เขาให้สัมภาษณ์ว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 เตรียมที่จะยื่นฟ้องอาญาในข้อหาละเมิดคำแนะนำกักกันโรคของคณะแพทย์ นายโบลโซนารู ละเมิดมาตรา 131 ของประมวลกฎหมายอาญาของบราซิล ครอบคลุมเรื่องการแพร่เชื้อโรคร้ายแรงสู่คนอื่นๆ หรือประพฤติตนที่อาจก่อการแพร่กระจายเชื้อโรค ซึ่งมีโทษปรับหรือจำคุกสูงสุด 4 ปี
ขณะที่นายโบลโซนารู โพสต์คลิปวิดีโอผ่านสื่อออนไลน์ ระบุว่า กำลังใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควิน ซึ่งเป็นยาต้านเชื้อมาลาเรีย เพื่อรักษาตัวจากโรคโควิด-19 เป็นโดสที่ 3 แล้ว ยาตัวนี้เป็นยาที่เขารวมทั้งประธานาธิบดี ทรัมป์ ส่งเสริมให้มีการใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ขณะที่ องค์การอนามัยโลก ระบุว่าจากผลการทดลองเบื้องต้น ยาไฮดรอกซีคลอโรควิน มีผลน้อยจนถึงไม่มีผลที่จะลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด-19
สำหรับภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียนตอนนี้ ได้กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโลกไปแล้ว จากผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นกว่า 3,000,000 คน เสียชีวิตอีกเกือบ 140,000 ราย จำนวนนี้เกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในบราซิล ที่พบการระบาดมากที่สุดในโลกรองจากสหรัฐฯ นอกจากบราซิลแล้ว เม็กซิโก เปรู และชิลี ก็เป็นประเทศที่พบการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนักในลาตินอเมริกา
เซอร์เบียตัดสินใจวันนี้! จะกลับมาล็อกดาวน์ หรือไม่ หลังเจอม็อบประท้วง
เหตุจลาจลวุ่นวายในกรุงเบลเกรด เมืองหลวงของเซอร์เบีย เมื่อคืนวันอังคารที่ 7 ก.ค.เนื่องจากประชาชนหลายพันคนเดินทางเข้าไปในเขตใจกลางเมือง แสดงพลังประท้วงไม่เห็นด้วยกับการประกาศของประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ วูซิช แห่งเซอร์เบีย ว่าทางการอาจจะต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์หรือการปิดตายพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ห้ามประชาชนออกจากเคหสถานเฉพาะในกรุงเบลเกรดตั้งแต่เวลา 18.00 น.-05.00 น.ห้ามชุมนุมในที่สาธารณะเกิน 5 คน ยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ตำรวจปราบจลาจลและผู้ชุมนุมปะทะกัน มีการยิงแก๊สน้ำตาและผู้ประท้วงพยายามที่จะบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ขว้างก้อนหินใส่ตำรวจและพยายามเผารถตำรวจทำให้ผู้ชุมนุมถูกจับไปราว 20 คน บาดเจ็บอีกหลายสิบคน
สาเหตุที่ผู้ชุมนุมไม่พอใจเนื่องจากประธานาธิบดีพยายามที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อระลอกสองด้วยการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งเมื่อเดือนมิ.ย. ทำให้พรรคการเมืองของเขาชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย
ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ วูซิช แถลงผ่านทางโทรทัศน์ว่า เห็นด้วยกับการประกาศเคอร์ฟิวในกรุงเบลเกรด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด แต่คณะทำงานว่าด้วยวิกฤตโรคโควิด-19 ของรัฐจะพิจารณาตัดสินในวันนี้ ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานเมื่อเวลา 05.40 น.ว่ายอดผู้ติดเชื้อสะสมในเซอร์เบียอยู่ที่ 17,076 คน เสียชีวิต 341 ราย
โต้กลับ! จีน จำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯแทรกแซงทิเบต
นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการจำกัดวีซ่า อย่างจำเพาะเจาะจง กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีพฤติกรรมเลวร้าย ต่อสถานการณ์ในเขตปกครองตนเองทิเบต และย้ำว่าไม่มีทางปล่อยให้มีการแทรกแซงจากภายนอก ต่อกิจการเกี่ยวกับทิเบต ซึ่งเป็นเรื่องภายในของจีน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลจีนเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศจำกัดการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนที่เกี่ยวข้องกับการสั่งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าทิเบต
รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้พลเมืองต่างชาติเดินทางเข้าทิเบตได้อย่างอิสระ หมายความว่า ในกรณีของนักท่องเที่ยวต้องเดินทางเป็นกลุ่มไม่ต่ำกว่า 2 คน และต้องติดต่อผ่านบริษัทนำเที่ยวท้องถิ่นเท่านั้น การเข้าทิเบตต้องเดินทางผ่านแผ่นดินใหญ่และต้องมีผู้นำเที่ยวติดตามไปด้วยตลอดเวลา ขณะเดียวกัน บุคคลภายนอกที่ต้องการเดินทางไปทิเบตเพื่อการท่องเที่ยวต้องขอใบอนุญาตล่วงหน้าผ่านบริษัทนำเที่ยวด้วย ส่วนผู้สื่อข่าว บุคคลทำงานในวงการสื่อสารมวลชน และเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างชาติต้องการเดินทางไปทิเบต ต้องยื่นคำร้องผ่านกระทรวงการต่างประเทศในกรุงปักกิ่งเท่านั้น
จังหวัดเสียมราฐของกัมพูชา สั่งแบนการค้าเนื้อสุนัข
สำนักงานเกษตร ป่าไม้และการประมงของจังหวัดเสียมราฐ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา ประกาศห้ามการฆ่าและค้าสุนัขเพื่อการบริโภค เป็นจังหวัดแรกของกัมพูชาที่บังคับใช้มาตรการดังกล่าว หากมีการตรวจพบว่ากระทำผิดซ้ำ จะลงโทษเข้มงวดขึ้น คือจะมีการปรับเงินด้วย ทั้งนี้ แถลงการณ์ของทางการจังหวัดเสียมราฐ ระบุว่า สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความซื่อสัตย์และจงรักภักดี สามารถปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าของ หรือแม้แต่ร่วมงานเป็นสุนัขทหาร ปฏิบัติงานอยู่ในกองทัพ
ด้านมูลนิธิเพื่อสัตว์สี่ขายากไร้นานาชาติ "โฟร์ พาวส์ อินเตอร์เนชั่นแนล" ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงความชื่นชมการตัดสินใจดังกล่าวของทางการจังหวัดเสียมราฐ ซึ่งเป็นตลาดค้าเนื้อสุนัขขนาดใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ตามสถิติของโฟร์ พาวส์ และขอให้การดำเนินการครั้งนี้เป็นแบบอย่างให้พื้นที่อื่นในกัมพูชาด้วย