ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น. วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม 2563

อย่าประมาท! แม้ในประเทศปลอดผู้ติดเชื้อโควิด-19  

           นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึง กรณีช่วงหยุดยาว คนไปเที่ยวจำนวนมาก หลายพื้นที่ไม่เว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากากอนามัยว่าแม้ประเทศไทยจะมีรายงานติดเชื้อในประเทศเป็น 0 แต่บอกไม่ได้ว่าจะมีคนติดเชื้ออยู่หรือไม่ ขณะคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย มีรายงานว่า ในช่วง 1 เดือน มีประมาณ 3,000 กว่าคน บางส่วนผลักดันกลับประเทศ บางส่วนหลบหนีเข้ามากลางเมืองแล้ว ก็ให้มีที่กักขังในที่จัดไว้ ซึ่งตรงนี้อาจเป็นเหตุนำเชื้อเข้ามา เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ตรงไหน ดังนั้น ในส่วนของประชาชน การ์ดตกไม่ได้ เรายังไม่มีวัคซีน แต่วัคซีนทางกายภาพ คือ การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง กลับมาอยู่ในข้อปฏิบัติ การ์ดตกเมื่อไรคือเสี่ยงเมื่อนั้น

          ส่วนผู้ประกอบกิจการ ต้องให้บริการแบบวิถีใหม่ หากเปิดแล้วทำได้ดี คนมารับบริการไม่ติดเชื้อจากใคร มีการเว้นระยะห่างให้ คนก็จะมั่นใจในกิจการมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นภาพแออัด มีการถ่ายเอาไปลงโซเชียลก็ไม่ดีต่อกิจการเช่นกัน ต้องคิดหลายๆ ชั้น เพราะระบบตรวจสอบจะเกิดจากประชาชนที่ไปใช้บริการด้วย สำหรับภาครัฐที่จะตรวจสอบ ตอนนี้ทีมอาจยังไม่เพียงพอ แต่เราย้ำว่าคนไปตรวจต้องระบุตัวตนชัดเจน จึงให้มีการลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่นผู้พิทักษ์ไทยชนะ ซึ่งลงทะเบียนแล้ว 17,000 กว่าคน การลงทะเบียนมีการใช้บัตรประชาชน และถ่ายรูปด้วย เพื่อให้ระบบตรวจสอบได้ ทำให้แอบอ้างไม่ได้ ถ้าไปตรวจแล้วไปเบ่ง ไปทำอะไรไม่ถูกต้อง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก็จะตรวจสอบ

วันนี้เริ่มเปิดรับนักธุรกิจจีนเข้าประเทศ

          นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า วันที่ 7 ก.ค.จะมีคนไทยกลับจากญี่ปุ่นและจีน 3 เที่ยวบิน 220 คน และจะมีนักธุรกิจจากเซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง จากจีน เพิ่มเข้ามาอีก 52 คน จะเห็นว่าโควต้าต่อวันสำหรับผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 500 คน และหากโควต้าเหลือจะให้นักธุรกิจเดินทางเข้ามา แต่ต้องอยู่ในสถานกักกันของรัฐ

จัดเครื่องรับคนไทยในอังกฤษ เน้นเคสด่วน

          กรณีมีผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในอังกฤษ และยาหมดเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว แต่ยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ เพราะต้องรอคิวนาน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จะรีบพิจารณาอย่างเร่งด่วน ปัญหาการเดินทางกลับจากอังกฤษ คือ เที่ยวบินไม่เพียงพอ ขณะนี้มีคนรอคิวกว่า 600 คน เราจึงจัดทำแผนการเดินทางระยะสั้นให้ผู้ที่จำเป็น เช่น ป่วยเหมือนกรณีดังกล่าว มีญาติไม่สบาย หรือเสียชีวิต จะจัดหาเที่ยวบินให้เดินทางกลับมาก่อน แต่ต้องต่อเครื่อง ระยะที่สองจะเช่าเครื่องบินเหมาลำเพื่อเดินทางกลับ 2 เที่ยวบิน ในวันที่ 20 ก.ค. และวันที่  26 ก.ค. ใครที่ต้องการเดินทางกลับขอให้ไปลงทะเบียนให้เต็มลำ ส่วนระยะยาวขอให้สถานทูตอังกฤษประสานกับหน่วยงานแพทย์หรือหน่วยงานความมั่นคงให้คนไทยกลับมา

เปิดรับผู้ป่วย 34 ประเทศ รักษาตัวใน 67 โรงพยาบาลไทย

          โปรแกรมการรับผู้ป่วยต่างชาติเข้ามารักษาในประเทศ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลเอกชนร่วมโครงการดังกล่าวแล้ว 67 แห่ง คลินิคเฉพาะทาง 1 แห่ง มีผู้ลงทะเบียนจะเดินทางเข้ามารักษาตัวจาก 34 ประเทศ ในระยะเวลา 3 เดือน จำนวนผู้ป่วย 1,169 คน ผู้ติดตาม 1,521 คน โดยทั้งหมดจะมีขั้นตอนก่อนเดินทางคือ ตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง เดินทางเข้ามาทางสนามบินที่กำหนด เข้าสู่กระบวนการคัดกรอง สถานพยาบาลไปรับผู้ป่วยที่สนามบิน ยืนยันต้องปลอดเชื้อโรคโควิด-19 เท่านั้น และต้องอยู่โรงพยาบาลให้ครบ 14 วัน ไม่ให้กลับก่อนกำหนด ขอให้ประชาชน มั่นใจระบบ เพราะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ส่วนหนึ่งด้วย

โดนเอง! รองผบก.ปอท. แจ้งความ ถูกคนร้ายนำภาพไปอ้างซื้อขายทอง

           พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผบก.กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.) ในฐานะผู้เสียหาย แจ้งความต่อ ร.ต.อ.ณัฐไชยเฉลิม วงศ์ใหญ่ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. หลังถูกคนร้ายแอบอ้างนำรูปไปใช้หลอกซื้อขายทองคำจนมีเหยื่อหลงเชื่อสูญเงินไปหลายราย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่ามีการซื้อขายทองรูปพรรณผ่านสื่อออนไลน์เป็นลักษณะไลฟ์สด หลังจากที่ตกลงซื้อกันแล้วได้มีการแชทคุยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ซึ่งมีคนนำรูปภาพของตนไปใช้เป็นรูปโปรไฟล์ โดยใช้ชื่อว่า “ร.ต. สาวิตรี ม่วงสุ” ไปพูดคุยกับลูกค้าที่มีการซื้อขายทองกัน เมื่อลูกค้าโอนเงินค่าทองไปให้แล้ว แต่กลับไม่ได้รับทองคำที่ตกลงกันไว้ทำให้ตนได้รับความเสียหาย ยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้อง การกระทำของคนร้ายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ตามความผิดเรื่องหมิ่นประมาท และจะเข้าความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14(1) จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท ส่วนคดีหมิ่นประมาทก็มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท