เฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ ทำให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มถึง 39 รัฐ

          นายอาซา ฮัตชินสัน ผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอ เปิดเผยในรายการมีท เดอะ เพรสส์ ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ว่าการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 รายใหม่ถึง 39 รัฐ ในวันชาติของสหรัฐฯ น่าจะมาจากการรวมกลุ่มจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างเต็มที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ก็ปฏิเสธที่จะสวมหน้ากากอนามัย ขณะออกมาในที่สาธารณะ โดยระบุว่า เป็นสิทธิ์ของแต่ละคนว่าอยากสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่ ส่งผลให้ชาวอเมริกันบางส่วนทำตาม 

          ขณะที่ นายฟิล เมอร์ฟี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ระบุว่า การแก้ปัญหาโรคโควิด-19 ควรเป็นนโยบายระดับชาติ ไม่ใช่ระดับท้องถิ่น ในช่วง 4 วันแรกของเดือนก.ค. พบว่ามี15 รัฐ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์

          สถาบันจอห์น ฮอปกิ้นส์ ระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อของสหรัฐฯ เมื่อเวลา 15.21 น. อยู่ที่ 2,888,729 คน เสียชีวิต 129,947 คน

          ด้านนายเลนนี เคอร์รี นายกเทศมนตรีเมืองแจ็กสันวิลล์ ประกาศเทศบัญญัติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่นอกเคหสถาน

          ขณะที่ นายฟรานซิส ซัวเรซ นายกเทศมนตรีเมืองไมอามี กล่าวว่า อัตราการติดเชื้อในพื้นที่กำลังเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ตอนนี้เมืองไมอามี มีมาตรการควบคุมและบทลงโทษหลายระดับ สิ่งที่ทางการ คาดหวัง ไม่ใช่การที่เจ้าหน้าที่ต้องคอยเตือนเป็นรายบุคคล แต่ประชาชนส่วนใหญ่กลับปฏิบัติตัวราวกับไม่มีเชื้อโรคชนิดนี้อยู่บนโลก

CR:CNN