จ่ายชดเชยทันที รายละ 1 แสนบาท พนักงานองค์การค้า สกสค.ที่ถูกเลิกจ้างกว่า 900 คน

03 กรกฎาคม 2563, 17:13น.


          การเลิกจ้างพนักงานขององค์การค้า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผย ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสกสค.เพื่อแก้ปัญหาแนวทางเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าชดเชยให้พนักงานองค์การค้าของ สกสค.ที่จะถูกเลิกจ้างตั้งแต่วันที่ 1ส.ค.63 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าชดเชยบางส่วนเป็นจำนวนเงินคนละ 100,000 บาท ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ถูกเลิกจ้างทุกคน โดยจะให้มีการเบิกจ่ายค่าชดเชยให้ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ทันที ไม่ต้องรอการเบิกจ่ายในปลายเดือน ก.ค. ตามวงรอบบัญชีเงินเดือน สิ่งสำคัญที่ผู้ถูกเลิกจ้างต้องเร่งดำเนินการ  คือ ทุกคนจำเป็นต้องไปติดต่อที่ฝ่ายบุคคลขององค์การค้า เพื่อเซ็นเอกสารบันทึกการรับเงินเยียวยาจากการเลิกจ้างพนักงานองค์การค้าของ สกสค. ซึ่งจะมีผลให้เงินจำนวน 100,000 บาท ถูกโอนเข้าบัญชีเงินเดือนตามปกติทันที โดยที่เอกสารนี้ไม่ได้มีผลผูกพันกับการดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดี ผู้ถูกเลิกจ้างยังสามารถใช้สิทธิเรียกร้องความยุติธรรมตามกฎหมายได้ทุกประการ เพียงแต่ต้องให้เซ็นเอกสารไว้เป็นหลักฐานว่าได้รับเงินไปแล้ว เพื่อจะได้ช่วยเยียวยาผู้ถูกเลิกจ้างเป็นการเร่งด่วน



          บอร์ดองค์การค้าของ สกสค.มีมติเห็นชอบในการกำหนดการจ่าย  ค่าชดเชยออกเป็น 2 ประเภท เต็มจำนวนตามกฎหมายกำหนด โดยใช้เงื่อนไขอายุการทำงานและเงินเดือนล่าสุดเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา คือ



-กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่มีอายุงานมากกว่า 20 ปี ขึ้นไป จะได้รับเงินชดเชยรวม 400 วัน หรือประมาณ 13 เดือน 



-กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่มีอายุงานต่ำกว่า 20 ปี จะได้รับเงินชดเชย 300 วัน หรือประมาณ 10 เดือน



          โดยจะเบิกจ่ายในวันที่ 31 ก.ค.63 และ 12 พ.ย.63 ในส่วนของพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง 961 คน มีอายุงานโดยเฉลี่ย 25 ปี 5 เดือน และมีเงินเดือนโดยเฉลี่ยเดือนละ 31,287 บาท



          ปลัด ศธ. กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารองค์การค้าฯ สกสค. ชุดใหม่ ได้พิจารณาผลการดำเนินงานขององค์การค้าฯ ต่อเนื่องกว่า 18 ปี ซึ่งมีตัวเลขที่ติดลบมาโดยตลอด จึงได้พิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด โดยมีแนวทางเลือกไว้ 3 แนวทาง ได้แก่



1.การหยุดกิจการ แล้วนำทรัพย์สินที่มีออกขายเพื่อชำระหนี้ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องตกงาน และองค์การค้าฯ ก็เหมือนจะถูกยุบไปเลย แต่ สกสค. ในฐานะนิติบุคคลขององค์การค้าฯ ยังคงต้องรับผิดชอบในหนี้ 6,700 ล้านบาททั้งหมด จะได้คืนเพียงมูลค่าทรัพย์สินขององค์การค้าฯ เช่น ที่ดิน เป็นต้น



2.ดำเนินกิจการเช่นเดิมต่อไป ซึ่งจะยังคงประสบกับภาวะขาดทุนไปเรื่อย ๆ ปีละประมาณ 300-400 ล้านบาทอาจจะทำให้ยอดหนี้สูงถึง 10,000 ล้านบาทในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่ง สกสค.ในฐานะหน่วยงานตันสังกัด และมีครูทั่วประเทศที่นำเงินมาฝากไว้ จะได้รับผลกระทบจากยอดหนี้ที่สูงมากขึ้น



3.การปรับองค์กรด้วยการลดจำนวนพนักงาน



          ที่ประชุมได้พิจารณาอย่างรอบด้าน จึงตัดสินใจเลือกแนวทางที่ 3 เพื่อให้องค์กรยังคงอยู่และคัดสรรบุคคล คิดแผนกลยุทธ์ ปรับทิศทางการดำเนินงาน ให้สามารถดำเนินกิจการและสามารถแข่งขันในตลาดได้ต่อไป



 

ข่าวทั้งหมด

X