ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2563

โอเปก ลดการส่งออกน้ำมันดิบ 1.84 ล้านบาร์เรล/วัน เดือนมิ.ย

          หลังจากที่เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.กลุ่มโอเปกพลัส ได้บรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9,700,000 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปจนถึงเดือนก.ค. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ปรับลดการส่งออกน้ำมันดิบในเดือนมิ.ย.ลง 1,840,000 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับของเดือนพ.ค.มาอยู่ที่ระดับ 1,720,000 ล้านบาร์เรล/วัน ซาอุดีอาระเบีย ปรับลดการส่งออกน้ำมันลง 979,000 บาร์เรล/วัน คิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของยอดการปรับลดการส่งออกโดยรวมของโอเปกในเดือนมิ.ย.

ตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ ทำให้น้ำมันโลก- หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก

          ราคาน้ำมันในตลาดโลก ขยับขึ้น 2 วันติดต่อกัน แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.เนื่องจากข้อมูลภาคแรงงานที่ดีเกินคาดของสหรัฐฯ

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 83 เซ็นต์ ปิดที่ 40.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          ข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อเดือนมิ.ย.มีการจ้างงาน 4,800,000 ตำแหน่ง และตัวเลขคนว่างงานลดลง 2 เดือนติดกันมาที่ระดับร้อยละ 11.1 นาย เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ระดับอาวุโส ชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯเดินหน้าฟื้นตัว และอุปสงค์น้ำมันดิบก็น่าจะฟื้นตัวตามมา ปัจจัยน้ำให้หุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น

-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 92.39 จุด หรือร้อยละ 0.36 ปิดที่ 25,827.36 จุด

-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 14.15 จุด หรือร้อยละ 0.45 ปิดที่ 3,130.01 จุด

-แนสแดค เพิ่มขึ้น 53.00 จุด หรือร้อยละ 0.52 ปิดที่ 10,207.63 จุด

          ส่วนราคาทองคำ ปรับขึ้นพอสมควร ตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 10.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,790.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

‘ทรัมป์’ พอใจ ตัวเลขว่างงานลดลง คาดจีดีพี ไตรมาส 3 ดีขึ้น

          ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แถลงแสดงความพอใจตัวเลขการจ้างงานที่ดีเกิดคาด เนื่องจาก หลายรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ สกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง คาดหมายว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเห็นตัวเลขการจ้างงานดีขึ้น และเชื่อว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ออกมาไม่กี่วันก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย. จะออกมาแข็งแกร่ง

          ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า  ทำเนียบขาวและสภาคอสเกรส กำลังเดินหน้าเจรจาต่อรองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ที่เรียกกันว่า “เฟส 4” ซึ่งจะช่วยทำให้เศรษฐกิจต้านทานการระบาดของโรคโควิด-19 ได้

เหตุสลด!ดินถล่มเหมืองหยกเมียนมา เสียชีวิต 162 ราย

          ทางการรัฐเมียนมา กำลังพยายามค้นหาผู้สูญหายอีกนับร้อยใต้โคลนหนา และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 162 ราย เหตุฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ดินสไลด์และถล่มลงมาคล้ายกับมวลน้ำขนาดใหญ่ทับร่างคนงานกว่า 800 คนที่กำลังขุดหาหยกอยู่ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เหมืองหยกในรัฐคะฉิ่น อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้งเมืองใหญ่สุดของเมียนมาขึ้นไปทางเหนือราว 950 กิโลเมตรและยังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเหมืองหยกของเมียนมา ธุรกิจที่ทำรายได้มหาศาลเข้าประเทศเมียนมา

          เมื่อเดือนพ.ย.2558 เคยเกิดดินสไลด์ฝังคนงานเหมืองเสียชีวิต 113 ศพ เป็นอุบัติเหตุดินสไลด์เลวร้ายที่สุดของเมียนมา เพราะกองดินและขยะที่ขุดขึ้นมาจากการทำเหมืองเป็นกองดินสูงหลายเมตร พังถล่มลงมาช่วงกลางดึก ฝังคนงานที่กำลังพักผ่อนในเพิงราว 70 หลัง

CR:BBC

สั่งปลดทันที! ตร.ชกหญิงผิวสี กลางสนามบินไมอามี สหรัฐฯ

          ตำรวจไมอามีเดด เคาน์ตี รัฐฟลอริดา ของสหรัฐฯ อย่างน้อย 1 นาย ถูกปลดออกจากหน้าที่ทันที หลังปรากฎภาพวิดีโอที่โพสต์บนอินสตาแกรม เป็นภาพนายตำรวจผิวขาว 2 คน กำลังโต้เถียงกับผู้หญิงผิวสีคนหนึ่ง ที่ท่าอากาศยานนานาชาติไมอามี สหรัฐฯ ก่อนที่ตำรวจ 1 คน ชกเข้าที่ใบหน้าของผู้หญิงอย่างเต็มแรง จนทำให้ผู้หญิงเซถลาและถูกตะครุบตัวให้นอนราบลงกับพื้นแล้วใส่กุญแจมือ ยังไม่ชัดเจนว่าทั้งสองฝ่ายมีปัญหาเรื่องอะไร

          อัลเฟรโด รามิเรซ ผู้บัญชาการกรมตำรวจไมอามีเดด สั่งตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสั่งปลดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกจากหน้าที่ทันที

          เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานตามหลังการประท้วงใหญ่ทั่วประเทศ แสดงความขุ่นเคืองต่อพฤติกรรมของตำรวจที่กระทำกับคนผิวสี และเหตุเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน

ฝรั่งเศส พบติดเชื้อโควิด-19 แบบกลุ่มครั้งใหม่กว่า 200 คน

          นายโอลิเวียร์ เวรอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส กล่าวว่า หลังจากที่ฝรั่งเศสได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 ล่าสุด พบการติดเชื้อครั้งใหม่แบบกลุ่มถึงกว่า 200 คน ได้ดำเนินการตรวจสอบ ติดตามและแยกตัวกลุ่มผู้ติดเชื้อ รัฐบาลฝรั่งเศส ทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง ตั้งเป้าที่จะดูแลกลุ่มคนที่อ่อนแอและคนที่อยู่ในบ้านพักคนชรา ส่งเสริมการทดสอบหาเชื้อ และจัดหาหน้ากากอนามัยให้เพียงพอ

โควิด-19 ลามหนัก! คนงานในอังกฤษ-เวลส์ ติดเชื้อ

          ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในหลายบริษัทของอังกฤษ เช่น

-บริษัท วอล์กเกอร์ส ผู้ผลิตมันฝรั่งทอดกรอบยี่ห้อดัง ยืนยันว่า พนักงาน 28 คนที่โรงงานในเมืองเลสเตอร์ ทางตอนกลาง ตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 1 ก.ค. เพียง 2 วันหลังรัฐบาลประกาศกลับมาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ เมืองเลสเตอร์ เป็นแห่งแรกของประเทศ

-โรงงานแซมเวิร์ธ บราเธอร์ส แอนด์ พลา ดิส ผู้ผลิตบิสกิต ยี่ห้อแม็กไวตีส์ แถลงว่า มีพนักงานที่โรงงานในเมืองเลสเตอร์ ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนหนึ่ง

-พนักงานของโรงงานเนื้อโคเบอร์ ในเมืองเคล็กฮีตัน ติดเชื้ออย่างน้อย 165 คน

-สถานการณ์ที่เวลส์ ยังวิกฤต โรงงานเนื้อไก่ 2 ซิสเตอร์สฟู้ดกรุ๊ป ในเมืองชลานเกฟนี มีรายงานการติดเชื้อเมื่อกลางเดือนมิ.ย. พบว่าพนักงานป่วยเพิ่มเป็น 216 คน

-โรงงานโรแวนฟู้ดส์ในเมืองเร็กซ์แฮม มีพนักงานติดเชื้อ 237 คน

ผู้ป่วยรายใหม่ในกรุงโตเกียวเกิน 100 คน ตรวจในกลุ่มสถานบันเทิงเพิ่มขึ้น

          กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกิน 100 คน มากที่สุดหลังจากที่กรุงโตเกียว ยกเลิกการประกาศภาวะฉุกเฉิน นายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเร่งตรวจสอบร่วมกับเทศบาลกรุงโตเกียว เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด ยืนยันระบบสาธารณสุขของญี่ปุ่นมีความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 และยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้เป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนการตรวจวินิจฉัยรายวันที่มากขึ้นในกลุ่มพนักงานในสถานบันเทิงยามค่ำคืน และยังไม่มีการตัดสินใจกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง