ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2563

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2563

แรงงานเมียนมาที่พบติดเชื้อ เป็นผู้ป่วยเก่าที่พบติดเชื้อในไทย

          ความคืบหน้า กรณีมีรายงานข่าวพบแรงงานชาวเมียนมาป่วยโควิด-19 ภายหลังเดินทางกลับจากไทยเมื่อหลายวันก่อนนั้น นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงอีกครั้งว่า จากการประสานข้อมูลกับเมียนมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยสอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติม พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มดังกล่าวที่มีประวัติการเดินทางจากไทย 23 คน ทุกคนเป็นผู้ติดเชื้อรายเก่าที่เคยตรวจพบที่ศูนย์กักผู้ต้องกัก อ.สะเดา จ.สงขลา ในจำนวนนี้ 19 คน ตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ที่ต้องกักที่ศูนย์กักผู้ต้องกัก อ.สะเดา ซึ่งตรวจพบการติดเชื้อและมีการแถลงข่าว ตลอดจนดูแลรักษาจนครบตามมาตรฐานการรักษาไปแล้ว ส่วนอีก 4 คนที่เหลือ ซึ่งตรวจสอบข้อมูลกับ ตม. ล่าสุดพบว่าเป็นผู้ต้องกักและติดเชื้อที่ศูนย์กักผู้ต้องกัก อ.สะเดา เช่นกัน

         ทั้งนี้ การตรวจพบเชื้อซ้ำสามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งการตรวจเชื้อโดยการหาสารพันธุกรรมอาจยังพบพันธุกรรมของไวรัสได้ แต่จะเพาะเชื้อไม่ขึ้น เนื่องจากเป็นไวรัสที่ถูกร่างกายทำลายแล้ว ซึ่งในไทยและต่างประเทศ ก็มีการรายงานเช่นเดียวกัน หลังจากมีรายงานผู้ติดเชื้อกลุ่มดังกล่าวแล้วได้ตรวจหาเชื้อในแรงงานเมียนมาที่เดินทางกลับในวันที่ 23 มิ.ย.จำนวน 52 คน และวันที่ 26 มิ.ย. จำนวน 55 คน รวม 107 คน ผลตรวจทุกคนไม่พบเชื้อ

แพทย์จุฬา เตือนร้อยละ 1.6 โอกาสติดเชื้อโควิด-19จากสภาพอากาศ

          นพ.ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบคำถามถึงเรื่องอุณหภูมิและความชื้นกับไวรัสโรคโควิด-19  ได้ข้อสรุปอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ สิ่งแวดล้อม กับโควิด-19 มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ตีพิมพ์ออกมาแต่ทุกชิ้นล้วนเป็นการวิจัยที่อยู่ในสถานการณ์จำลองทั้งสิ้น ล่าสุดนอกจากงานที่เค้าอ้างอิงถึงแล้วก็มีอีกชิ้นที่วิเคราะห์ข้อมูล 118 ประเทศทั่วโลก พบว่า latitude ที่เพิ่มขึ้นห่างจากเส้นศูนย์สูตร ทุก 1 องศา จะมีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นราวร้อยละ1.6  แต่งานวิจัยที่จำลอง สถานการณ์ทั้งหมดนั้น ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงในการใช้ชีวิต

         ขณะเดียวกัน ในชีวิตจริง มีงานวิจัยที่ทำการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19นี้ เจอในสภาพแวดล้อมทั้งในอาคาร และนอกอาคารเช่นกัน

โดยสรุปแล้ว จึงแนะนำว่า

1.ควรเชื่อมั่นมาตรการรณรงค์ใช้หน้ากากอนามัย ล้างมือ อยู่ห่างๆ พูดน้อยๆ เจอคนน้อยๆ เลี่ยงที่แออัด เพราะเป็นการตัดความเสี่ยง ดีกว่าไปฝากความหวังกับอุณหภูมิและความชื้นที่มีโอกาสแปรปรวนและเป็นปัจจัยที่จัดการไม่ได้

2. รัฐควรมุ่งเน้นมาตรการจัดการสิ่งแวดล้อมที่จัดการได้ นอกเหนือจากการให้ความรู้และสร้างความตระหนักเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมคน

จีนเตรียมรับมือฝนตกหนักในสัปดาห์นี้  หลังเผชิญน้ำท่วมฝั่งตะวันตกเฉียงใต้

          พื้นที่ริมฝั่งตะวันออกของประเทศจีนมีแนวโน้มจะเกิดฝนตกหนักในสัปดาห์นี้ หลังจากฝั่งตะวันตกเฉียงใต้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง หมู่บ้านและสถานที่ท่องเที่ยวจมน้ำ อพยพคนกว่า 700,000 คน มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 78 คน เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรง 27,800 ล้านหยวน (ราว 121,244 ล้านบาท) พื้นที่ประสบภัยส่วนใหญ่อยู่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มณฑลเสฉวน และเทศบาลนครฉงชิ่งที่เกิดอุทกภัยร้ายแรงที่สุดในรอบ 80 ปี

น้ำท่วมหนักรัฐอัสสัม อินเดีย อพยพประชาชนนับล้านคน

          ทางการอินเดียรายงานวันนี้ว่า เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่จากฝนมรสุมที่ตกลงมาอย่างหนักในรัฐอัสสัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ทำให้ประชาชนกว่าล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน หลังแม่น้ำพรหมบุตร ซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดในโลกอีกสายหนึ่งไหลจากทิเบตผ่านอินเดียและบังกลาเทศ เอ่อล้นตลิ่งในรัฐอัสสัม เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เกิดน้ำท่วมหมู่บ้านกว่า 2,000 แห่ง และจนถึงวันนี้ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

          หน่วยงานกำกับดูแลทรัพยากรน้ำของอินเดียรายงานคาดว่าระดับน้ำของแม่น้ำพรหมบุตรจะเพิ่มสูงขึ้น  และคาดว่าจะยังคงมีฝนตกลงมาอีกในช่วง 3 วันข้างหน้า สถานการณ์น้ำท่วมยังคงวิกฤต  ขณะที่ทำนบกั้นน้ำหลายแห่งพังทลาย มีรายงานว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ในอุทยานแห่งชาติคาซิรัง กา ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของแรดนอเดียว ถูกน้ำท่วมขังรัฐอัสสัม แหล่งปลูกชาสำคัญของอินเดีย เกิดปัญหาน้ำท่วมทุกปี ทำให้รัฐบาลกลางและท้องถิ่นต้องทุ่มงบประมาณหลายล้านรูปีในการจัดการปัญหาน้ำท่วม

เสนอครม.พรุ่งนี้ รายละเอียด "เที่ยวปันสุข" เปิดลงทะเบียนกลางเดือน ก.ค.

          นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีพรุ่งนี้ (30 มิถุนายน 2563) จะนำรายละเอียดของแผนการดำเนินงานมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ “เราไปเที่ยวกัน” 3 แพ็กเกจ ทั้งเราไปเที่ยวกัน เที่ยวปันสุข และกำลังใจเข้าสู่ที่ประชุม เพื่อขอความเห็นชอบ หลังจากกระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย และ ททท.ได้หารือรายละเอียดแล้วเสร็จ โดยคาดว่าจะเปิดให้สายการบิน โรงแรม และบริษัทนำเที่ยวลงทะเบียนได้ในวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป

          แต่ด้วยระยะเวลาที่ค่อนข้างกระชั้นชิด ทำให้ในส่วนการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการของประชาชนทั่วไปน่าจะเริ่มได้ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม  ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้ย้ำอย่างชัดเจนถึงการลงทะเบียนต้องง่ายและไม่เป็นภาระต่อผู้ประกอบการ รวมถึงให้ผู้ประกอบการได้รับเงินโดยเร็วที่สุด โดยคำนึงถึงความยืดหยุ่นในการช่วยเหลือสภาพคล่องเป็นสำคัญ สำหรับโรงแรมจะได้รับเงินหลังจากนักท่องเที่ยวเช็กเอาท์เลยทันที ส่วนสายการบินต้องใช้เวลาเพื่อตรวจสอบการเดินทางระยะสั้นๆ

          นอกจากนั้น ยังเชื่อว่าแพ็กเกจกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้ง 3 แพ็กเกจจะทำให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในการเปิดให้บริการมากขึ้น และช่วยกระตุ้นอัตราการเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยภายในประเทศให้สูงกว่าร้อยละ30 จากร้อยละ0-5 ทั่วประเทศในช่วงโควิด-19  และไม่กังวลว่าการเปิดภาคการศึกษาจะกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวเพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายกลุ่มที่พร้อมเดินทางหลังจากนี้ อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุ ฯลฯ

โควิด-19 ทำเงินไม่สะพัดรับเปิดเทอม

          นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ทางศูนย์ฯประเมินการใช้จ่ายของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอมการศึกษาทั่วประเทศประจำปี 2563 อยู่ที่ 40,000 -50,000 ล้านบาทลดลงจากปีก่อน 5,000-10,000 ล้านบาทเนื่องจากผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ปกครองต้องลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเพื่อประคองสถานการณ์ทางการเงินของครอบครัว เพราะผู้ปกครองหลายรายถูกลดเงินเดือน หลายรายสุ่มเสี่ยงต่อการตกงาน และหลายรายยังตกงาน

          นอกจากนี้ยังพบว่าการนำทรัพย์สินเช่น ทองคำ นาฬิกา เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับต่างๆ เข้าโรงจำนำก็ไม่คึกคักเหมือนกับปีก่อน ส่วนหนึ่งมาจากผู้ปกครองต้องการประหยัดรายจ่ายในสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ ประกอบกับหลายรายไม่มีสมบัติที่จะนำเข้าไปโรงจำนำแล้วเพราะมีการนำไปขายก่อนหน้านี้แล้วเพื่อนำไปใช้จ่ายในครอบครัว โดยเฉพาะทองคำที่มีราคาแพง

          ส่วนการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินหรือการรูดบัตรเครดิตเป็นเงินสดก็ลดลงเช่นกัน เพราะผู้ปกครองหลายคนมีการใช้จ่ายเต็มวงเงินมาก่อนหน้านี้เช่นกัน ดังนั้นในภาพรวมคาดว่าจะมีการใช้จ่ายลดลงเฉลี่ยร้อยละ10-20 ซึ่งก็เป็นไปตามแนวโน้มดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและหลายๆองค์กรได้มีการปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีลง

ตำรวจพร้อมรับเปิดเทอม วางกำลังกว่า 3 พันนายดูแลด้านการจราจร

          มาตรการเตรียมความพร้อมด้านการจราจรในวันเปิดภาคเรียน วันที่ 1 กรกฎาคม นี้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานจราจร กล่าวว่า ได้มีการระดมกำลังตำรวจจราจรรวมกว่า 3,000 นาย ลงพื้นที่โดยเฉพาะด้านหน้าโรงเรียน เพื่ออำนวยความสะดวกและเร่งระบายรถที่เดินทางมาส่งนักเรียนให้เกิดความคล่องตัวที่สุด โดยในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ตำรวจได้แนะนำให้ทุกสถานศึกษาจัดจุดคัดกรองให้อยู่ภายในบริเวณโรงเรียน หากมีการวางจุดคัดกรองบริเวณด้านหน้าประตู จะทำให้เกิดปริมาณนักเรียนและรถยนต์สะสม จนเกรงว่าจะเกิดปัญหาการจราจรติดขัด และทำให้นักเรียนเข้าเรียนไม่ทัน 

         ในส่วนของผู้ปกครอง ตำรวจขอให้ศึกษาเส้นทาง ทั้งในสภาพจราจรและการปรับปรุงพื้นผิวการจราจร โดยขอให้ผู้ปกครอง โดยเฉพาะผู้ปกครองใหม่ที่บุตรหลานเพิ่งเข้าศึกษาในเทอมแรก เผื่อเวลาการเดินทางไว้ 30-45 นาที รวมทั้ง เตรียมความพร้อมเรื่องเครื่องแบบและอุปกรณ์การเรียนให้พร้อมที่สุด 

          ส่วนผู้ปกครองที่ใช้บริการรถรับส่งนักเรียน ตำรวจจราจรได้วางมาตรการป้องกันเด็กนักเรียนตกค้างอยู่บนรถ จนทำให้เกิดอันตรายด้วยการแนะนำให้คนขับรถแจกบัตรให้แก่นักเรียนที่ขึ้นรถ และเก็บบัตรเมื่อนักเรียนลงจากรถ เพื่อเป็นการตรวจสอบจำนวนนักเรียน และป้องกันการหลงลืมนักเรียนทิ้งไว้บนรถ 

          นอกจากนั้น ยังได้แนะนำผู้ประกอบการรถนักเรียนให้รักษามาตรฐานในการป้องกันโรค ทั้งการให้นักเรียนสวมใส่หน้ากากอนามัย เตรียมเจลล้างมือ และคอยทำความสะอาดภายในห้องโดยสาร เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค ซึ่งหากผู้ประกอบการรายใดเพิกเฉย ทางตำรวจจราจร อาจจะส่งเรื่องให้ทางกรุงเทพมหานคร ออกมาตรการกับผู้ประกอบการรายนั้น ซึ่งอาจจะเริ่มต้นด้วยการตักเตือน หากยังเพิกเฉยอีกก็อาจถึงขั้นให้หยุดกิจการชั่วคราว

หุ้นไทยปิดตลาดติดลบเล็กน้อย นิกเกอิ หลุดระดับ 22,000 จุด จากวิกฤตเศรษฐกิจโลก

          ตลาดหุ้นไทยวันนี้ เคลื่อนไหวในแดนลบทั้งวัน หลังจากนักลงทุนได้รับความรู้สึกเชิงลบจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในหลายรัฐทำให้บางรัฐ สั่งล็อกดาวน์อีกครั้ง ส่วนในประเทศ ศบค.พิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค.นี้ ส่งผลให้ปิดตลาด 1,329.76 จุด ลดลง 0.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,903.24 ล้านบาท

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ปิดร่วงหลุดจากระดับ 22,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ค. โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกทะลุหลัก 10 ล้านราย ดัชนีนิกเกอิ ร่วงลง 517.04 จุด ปิดที่ 21,995.04 จุด

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ ปรับตัวลดลง 248.71 จุด ปิดที่ 24,301.28 จุด