ศบค.ผ่อนคลายเฟส 5 ผับบาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด ต้องลงทะเบียน 'ไทยชนะ' พร้อมเปิดด่าน 9 จังหวัด

          สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ที่ประชุมเห็นชอบตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอให้ขยายการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.2563 ออกไปอีก 1เดือน เริ่มจากวันที่ 1-31 ก.ค.2563 เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 รองรับการเปิดเทอมในวันที่ 1 ก.ค. 2563 โดยจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันพรุ่งนี้ 30 มิ.ย. 2563

          ที่ประชุมยังพิจารณาผ่อนปรนกิจการ/กิจกรรม ระยะที่ 5 ในกิจการที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะในกลุ่มสถานบันเทิง เช่น ผับ, บาร์, คาราโอเกะ, สถานอาบอบนวด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ทั้งผู้ประกอบการ และนักดนตรีที่ได้มาร้องเรียนก่อนหน้านี้ ตลอดจนการพิจารณามาตรการสำหรับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ มาตรการรองรับการศึกษาเด็กนักเรียนชายแดน และการเว้นที่นั่งบนรถโดยสารสาธารณะ ทั้งหมดนี้จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในวันพรุ่งนี้ เช่นกัน

สำหรับมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5  คือ

-เปิดการศึกษาในวันที่ 1 ก.ค.2563 

-เปิดห้างสรรพสินค้า ได้ถึง 22.00 น. ส่วนร้านสะดวกซื้อเปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง

-เปิดสถานบันเทิง  ผับ บาร์ คาราโอเกะ แต่ยังห้ามดื่มสุราถึง 24.00 น. โดยกำหนดระยะห่างตามที่ ศบค.ชุดเล็กเสนอ ที่สำคัญ สถานประกอบการที่จะเปิดให้บริการ ต้องลงทะเบียน แพลตฟอร์มไทยชนะ เพราะเป็นกิจการกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้เกิดระบาดแพร่เชื้อ โดยจะมีหน่วยงานลงไปดูแลอย่างใกล้ชิด โดยจะเพิ่มเติมบทลงโทษลงในรายละเอียดในข้อกำหนดที่จะประกาศต่อไป

-ร้านเกม อินเทอร์เน็ต 

-อาบอบนวด โรงน้ำชา ต้องมีใบอนุญาตที่ถูกต้องและลงทะเบียนในแพลตฟอร์มไทยชนะรวมทั้งจะมีการตรวจเชื้อในผู้ให้บริการทั้งโควิด-19 และโรคอื่นๆ และ ห้ามขายประเวณี

-ผู้พิทักษ์ไทยชนะ จะมีการลงทะเบียนให้ชัดเจน เพื่อป้องกันคนแอบอ้าง

          สำหรับบริการรถขนส่งสาธารณะ เปิดด่านพรมแดน 9 จังหวัด คือ หนองคาย เลย ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย จันทบุรี สงขลา ประจวบคีรีขันธ์ และกาญจนบุรี ดังนี้

-จุดผ่านแดนถาวรท่าเรือหนองคาย จ.หนองคาย

-จุดผ่านแดนบ้านคกไผ่ อ.ปากชม จ.เลย

-การผ่อนปรนช่องทาง/ท่าข้ามธรรมชาติ ตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

-จุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน

-จุดผ่อนปรนการค้าบ้านแจมป๋อง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

-จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี กรณีนำเข้ามันสำปะหลัง 

-จุดผ่านแดนถาวรปาดังเบซาร์ และจุดผ่านแดนถาวรด่านบ้านประกอบ จ.สงขลา

-จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์   

-จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี