เกาหลีใต้ระบุเกาหลีเหนือไม่พร้อมยกเลิกนิวเคลียร์ ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นคาดสุขภาพ ‘ผู้นำคิม’ มีความผิดปกติ

          นายมูน ชัง-อิน ที่ปรึกษาพิเศษด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ (26 มิ.ย.) ว่า หากผู้นำเกาหลีเหนือได้อ่านหนังสือของนายจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกาหลีเหนืออาจจะไม่มีความต้องการเจรจากับสหรัฐฯ และไม่สนใจที่จะยุติโครงการนิวเคลียร์อีกต่อไป ทั้งเชื่อว่าในช่วงเวลาจากนี้ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่มีความคืบหน้าการทำงานใด ๆ เกิดขึ้น ซึ่งเขาเห็นว่าการที่เกาหลีเหนือระเบิดสำนักงานประสานงานคือการแสดงถึงความผิดหวังและความโกรธ เพราะเป็นเวลา 2 ปีแล้วที่มีการเจรจากันเกิดขึ้น แต่สหรัฐฯก็ยังไม่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และเป็นที่ชัดเจนว่า นางสาวคิม โย-จอง คือผู้ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี

          เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) เป็นวันครบรอบ 70 ปีของการเริ่มต้นสงครามเกาหลี เมื่อกองทัพของเกาหลีเหนือเคลื่อนทัพเข้าสู่เกาหลีใต้ ซึ่งมีการจัดงานรำลึกใน 2 ประเทศ โดยกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ยังมีพิธีรับอัฐิทหารเกาหลีใต้ 147 นายที่เสียชีวิตในสงครามเกาหลีเมื่อ 70 ปีที่แล้ว จากสำนักงานค้นหาเชลยศึกและผู้สูญหาย กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ที่ใช้เวลาเกือบ 2 ปีในการตรวจสอบและพบดีเอ็นเอที่ตรงกับอัฐิทหารเกาหลีใต้ 7 นาย

          โดยในการค้นหาทหารเกาหลีใต้ที่สูญหายในสมรภูมิ นอกจากจะมีโครงการที่เป็นความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีใต้แล้ว ทางการเกาหลีเหนือยังได้ทยอยส่งคืนอัฐิให้กับเกาหลีใต้รวมมากกว่า 300 นายแล้ว

          ด้านนายทาโร่ โคโนะ รัฐมนตรีการป้องกันประเทศของญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีความกังวลว่านายคิม ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือจะมีปัญหาสุขภาพตามที่นานาประเทศมีข้อสงสัยมานานหลายเดือน และอาจเกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ ซึ่งนายโคโนะ กล่าวว่า นายคิมไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน โดยเฉพาะการที่ไม่ได้เข้าร่วมในพิธีฉลองวันเกิดของนายคิม อิล ซุง เมื่อวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดในปฏิทินของเกาหลีเหนือ ต่อมามีข่าวว่านายคิมเข้ารับการผ่าตัดหัวใจและมีอาการทรุดลง หรืออาจเสียชีวิตแล้ว ส่วนที่เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นายคิมมาเป็นประธานเปิดโรงงานผลิตปุ๋ยแล้วก็ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลย ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าเขาอาจให้บุคคลอื่นที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันมาทำหน้าที่แทนเพื่อดับกระแสข่าวลือต่าง ๆ

          ซึ่งหลังจากนั้นนางสาวคิม โย-จอง น้องสาวของเขาก็มีบทบาททางการเมืองในประเทศมากขึ้น รวมถึงการสั่งระเบิดอาคารประสานงาน เพื่อตอบโต้เกาหลีใต้ที่ไม่มีการควบคุมตัวกลุ่มรณรงค์เกาหลีเหนือที่โปรยใบปลิวข้ามพรมแดน ทั้งให้กองทัพเตรียมพร้อมเคลื่อนกำลังพลข้ามพรมแดน แต่เมื่อวันพุธ (24 มิ.ย.) สำนักข่าวของเกาหลีเหนือก็รายงานว่า นายคิม ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ประชุมทางไกลกับคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง และสั่งระงับแผนการใช้กำลังทหารตอบโต้เกาหลีใต้ 

....