ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2563

26 มิถุนายน 2563, 09:00น.


จ.เลย สำรวจความเสียหาย แผ่นดินไหว ขนาด 3.8 สั่นไหวหลายจุด  



           กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เมื่อเวลา 21.37 น. วันที่ 25 มิ.ย. ตรวจวัดแผ่นดินไหว ที่ตั้งอยู่ที่อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมานตอนบน ต.น้ำหมาน อ.เมืองเลย จ.เลย ส่งสัญญาณเกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.8 ที่ความลึก 5 กิโลเมตร มีศูนย์กลางอยู่ที่ อ.เมืองเลย จ.เลย และมีประชาชนพื้นที่ต่างๆของ จ.เลย ได้แจ้งถึงแรงสั่นสะเทือน



-บ้านหนองผักก้าม หมู่ 13 ต.เมือง อ.เมืองเลย



-ต.กุดป่อง (เขตเทศบาลเมืองเลย)



-ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมืองเลย



-ประชาชนหมู่ที่ 5 บ้านห้วยทรายคำ หมู่ 9 ต.นาแขม อ.เมืองเลย



-บ้านนาสี ต.จอมศรี อ.เชียงคาน และ พื้นที่ อ.ท่าลี่ ก็รู้สึกได้เช่นกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองป้องกัน ฝ่ายความมั่นคง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งออกไปสำรวจบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ



          ด้านนายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้เร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่แล้ว



ภาค 5 จับเครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ พบเงินที่เกี่ยวกับยาเสพติดหมื่นล้าน



          พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภาค 5 พร้อมด้วย ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานสรรพากรพื้นที่เชียงใหม่ จับกุมเครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ นายเฉียง หม่า หรือเฮียช้าง สัญชาติจีน มีเงินหมุนเวียน 49 บัญชี รวมกว่า 10,120 ล้านบาท และเฉพาะเงินที่ตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดมากกว่า 1,000 ล้านบาท โดยนำเงินที่ได้จากการขายยาเสพติดไปซื้อทองคำ น้ำมัน อาหาร สินค้าการเกษตรและปศุสัตว์ แล้วขายต่ออีกทอดหนึ่ง



          พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า เนื่องจากช่วงเดือนมี.ค.2562 ตำรวจ ยึดยาบ้า 9.4 ล้านเม็ด พร้อมสมุดบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่หลบหนีได้ที่ จ.เชียงราย บก.สส.บช.ภาค 5 สืบสวนจากสถานประกอบการต่างๆ จนทราบว่ามีนักธุรกิจชาวจีนที่ชื่อนายเฉียง เป็นคนโอนเงินชำระค่าสินค้าและยังใช้บัญชีอื่นๆ อีกรวมจำนวนทั้งสิ้น 49 บัญชีในการโอนเงินมาชำระค่าสินค้า ต่อมาเจ้าหน้าที่บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งหมด โดยจับกุมได้ 61 ราย อายัดผู้ต้องหาในเรือนจำ 13 ราย และตรวจค้นไม่พบ หรือหลบหนีอีก 35 ราย



นายกฯ กำชับ ตร.ช่วยดูคลายล็อกเฟส 5 -ปราบอาชญากรรมซ้ำเติมช่วงโควิด



         พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า มีหลายประเด็นที่นายกฯ ฝากถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายเรื่อง



 -ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พร้อมกำชับเกี่ยวกับการผ่อนคลายล็อกดาวน์ที่จะเข้าสู่ระยะที่ 4-5 มีหลายกิจกรรมที่ต้องให้ฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจและทหารช่วยกันกำกับดูแลเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยความราบรื่น และคนไทยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ -การทำงานด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม นายกฯ กำชับว่าขณะนี้มีอาชญากรรมหลายอย่างที่กระทบต่อชีวิตประชาชน ให้ตำรวจดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เช่น การกวาดล้างยาเสพติด กลุ่มนายทุนในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนี้นอกระบบ การพนันออนไลน์ หรือนายทุนที่รับจำนำรถในบ่อนการพนัน ตำรวจต้องสร้างความเชื่อมั่นโดยการทำงานขอให้ตำรวจเป็นกลไกสำคัญในการทำงานวิถีใหม่ New Normal รวมไทยสร้างชาติ เน้นการทำงานโปร่งใส ลดขั้นตอนการปฏิบัติ



-การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ความผิดที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยใช้กฎหมายเป็นตัวตั้ง ให้ใช้หลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ควบคู่กัน 



-นายกฯ กำชับ เกี่ยวกับบทบาทของผู้บังคับบัญชาที่จะต้องให้ทั้งคุณและโทษกับผู้ใต้บังคับบัญชา กรณีที่ตำรวจทำผิดในรูปแบบต่างๆ ต้องลงโทษอย่างจริงจัง ซึ่งในที่ประชุมมีการพิจาณาปลดออก ไล่ออกข้าราชการตำรวจที่กระทำผิดจำนวน 42 นาย เป็นกรณีของการละทิ้งหน้าที่เกินกว่า 15 วันเกี่ยวพันกับยาเสพติด กรณีต้องหาคดีอาญา และกระทำผิดวินัยร้ายแรง 



-ตำรวจต้องปรับแนวทางในการตอบแทนความดีความชอบให้กับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเหนื่อยยาก โดยแบ่งเป็นกลุ่มงาน เช่น ตำรวจที่ทำหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติด การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเรื่องการค้ามนุษย์ อยากให้มีการพิจารณาตอบแทนตำรวจที่ทำหน้าตรงนี้ด้วย 



         นายกฯ กล่าวว่า ในช่วงนี้ได้เห็นจากสื่อว่า สถานบริการในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เริ่มประมาท ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจ เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดรอบใหม่ เพราะจะทำให้ทุกอย่างเสียหายทั้งหมด ทุกคนจะต้องเคร่งครัดในการปฎิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกคนเริ่มที่ตนเอง ครอบครัว ขยายไปสู่ชุมชน ในขณะที่ส่วนราชการทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น  ต้องร่วมมือและดูแลประชาชนเต็มที่ 



CR:รัฐบาลไทย



 

ข่าวทั้งหมด

X