สตรีมีครรภ์กลายเป็นกลุ่มเสี่ยง หากป่วยโรคโควิด-19 ส่งรักษาในห้องไอซียู พบเสียชีวิตแล้ว 16 ราย

25 มิถุนายน 2563, 11:15น.


           นางซารา โอลิเวอร์ นักวิจัยจากศูนย์ภูมิต้านทาน และระบบทางเดินหายใจแห่งชาติ สังกัดศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค(ซีดีซี)ของสหรัฐฯเปิดเผยว่า จากการศึกษากลุ่มสตรีมีครรภ์ 8,207 คน อายุ 15-44 ปี ที่ติดโรคโควิด-19 ระหว่างวันที่ 22 มกราคมถึงวันที่ 7 มิถุนายน ทีมวิจัย พบว่าร้อยละ 50 ของสตรีมีครรภ์เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉินหรือไอซียู และร้อยละ 70 อาจจะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และพบสตรีมีครรภ์เสียชีวิต 16 ราย



          ปัจจัยที่ทำให้สตรีมีครรภ์มีความเสี่ยง นางโอลิเวอร์ กล่าวว่า มาจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของสตรีมีครรภ์ ทำให้ป่วยหนักขึ้น นอกจากนี้ โรคโควิด-19 อาจจะเกิดพร้อมกับการติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ แต่ผลศึกษาในเบื้องต้นยังไม่ชัดเจนว่าโรคโควิด-19 มีผลกระทบโดยตรงอย่างไร แม้ว่าตามปกติแล้ว สตรีมีครรภ์เป็นกลุ่มเสี่ยงเรื่องการเป็นไข้หวัด



          ข้อมูลใหม่นี้ ยังไม่เคยมีการพิมพ์เผยแพร่ทางวารสารทางการแพทย์ของสหรัฐฯ แตกต่างจากผลวิจัยครั้งก่อนๆที่ระบุว่า สตรีมีครรภ์ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงที่จะต้องส่งตัวไปรักษาที่ห้องไอซียู ด้านซีเอ็นเอ็น ตั้งข้อสังเกตว่า ตั้งแต่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด มีข้อมูลน้อยมากในประเด็นว่าสตรีมีครรภ์มีความเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 มากน้อยเพียงใด แต่ผลวิจัยของนางโอลิเวอร์ จะถูกบันทึกไว้ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเผยแพร่ให้สาธารณชนทราบต่อไป



 Cr: CNN,PlusFinancials

ข่าวทั้งหมด

X