ต้องแจ้งชื่อก่อนซื้อเหล้า! อังกฤษ ออกมาตรการใหม่รับเปิดผับ-บาร์
อังกฤษ เตรียมเปิดธุรกิจภาคบริการในเดือนหน้าหลังล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ กำหนดให้นักดื่มที่เข้าไปใช้บริการในผับ จะต้องแจ้งชื่อตัวเองก่อนที่จะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะเดียวกัน ทางการอังกฤษ ยังไม่อนุญาตให้จัดการแสดงสด ดนตรี ในบาร์
ทั้งนี้ ผับ ภัตตาคารและร้านทำผม จะต้องเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้เป็นเวลา 21 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในปฎิบัติการทดสอบและติดตาม ซึ่งมีเป้าหมายในการหาตัวผู้ติดเชื้อไวรัสและควบคุมไม่ให้โรคโควิด-19 ระบาดในท้องถิ่นและหยุดยั้งการเกิดการระบาดระลอก 2 ของโควิด-19
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ กล่าวว่า ผับ ภัตตาคารและโรงแรม จะสามารถเปิดให้บริการในอังกฤษได้อีกครั้งในวันที่ 4 ก.ค.เป็นการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศด้วย พร้อมทั้งยังลดมาตรการรักษาระยะห่างระหว่างกันจาก 2 เมตร เหลือ 1 เมตร เปิดทางให้ผับและร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการได้
สมาคมเบียร์และผับอังกฤษ หรือ บีบีพีเอ กล่าวว่า ผับร้อยละ 75 ในอังกฤษ หรือ เท่ากับ 28,000 แห่ง จะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ ผู้บริหารสมาคมจะดำเนินการทุกวิถีทางที่จะรับประกันว่า ทั้งลูกค้าและพนักงานมีความปลอดภัยเมื่ออยู่ในผับ
กรุงปักกิ่ง ประกาศคุมการระบาดโควิด-19 ได้แล้ว
เจ้าหน้าที่ของกรุงปักกิ่ง ของจีน กล่าวว่า สามารถควบคุมการระบาดครั้งใหม่ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในกรุงปักกิ่ง ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งพบผู้ติดเชื้อไวรัสรวม 256 คน แต่ยังคงหวั่นเกรงเรื่องความเสี่ยงของการแพร่เชื้อภายในชุมชน
โฆษกสำนักงานเทศบาลกรุงปักกิ่ง ของจีน แถลงว่า สามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ตลาดซินฟาตี้ในกรุงปักกิ่งได้แล้ว การระบาดเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 11มิ.ย. แต่ยังคงหวั่นเกรงเรื่องความเสี่ยงของการแพร่เชื้อภายในชุมชน เนื่องจาก สถานการณ์ในการป้องกันและควบคุมการระบาดยังคงเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน ดังนั้น ทุกคนยังไม่สามารถปล่อยให้การ์ดตกได้แม้แต่นิดเดียว
การควบคุมการระบาดที่ตลาดค้าส่งอาหารที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง ทำให้ต้องมีการล็อกดาวน์เป็นบางส่วนในกรุงปักกิ่ง เจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ติดเชื้อ 253 คน จาก 256 คน เกี่ยวข้องกับตลาดซินฟาตี้ การติดตามสอบสวนโรคของผู้ติดเชื้ออีก 3 คน อยู่ระหว่างดำเนินการ และเมื่อวานนี้ กรุงปักกิ่งรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 7 คน แต่อัตราการระบาดลดลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ กรุงปักกิ่ง ยังได้ใช้ห้องปฏิบัติการพองลมเคลื่อนที่สำหรับทำการทดสอบโรคโควิด-19 แห่งแรกของกรุงปักกิ่ง ที่สนามกีฬาแห่งหนึ่ง ในเขตต้าซิง บริษัทหลิวซิน ตัวแทนจากบีจีไอ จีโนมิกส์ บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสัญชาติจีน ผู้พัฒนาแล็บพองลม เปิดเผยว่า ห้องปฏิบัติการแห่งนี้ ซึ่งใช้ชื่อว่า "หั่วเหยี่ยน" หรือ "ดวงตาไฟ" สามารถรองรับการทดสอบกรดนิวคลีอิกได้ถึง 30,000 ครั้งต่อวัน
ห้องปฏิบัติการ ประกอบด้วย เต็นท์พองลม 9 หลัง แบ่งเป็น เต็นท์รับตัวอย่างจำนวน 3 หลัง และเต็นท์อีก 6 หลัง ติดตั้งเครื่องมือตรวจโรคโควิด-19 อัตโนมัติรวม 14 เครื่อง แต่ละหลังสามารถสกัดตัวอย่างในเวลาเดียวกันได้ถึง 96 ชุด มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทจากทั่วประเทศ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่กว่า 100 คน ขณะที่การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น
3 รัฐ ในสหรัฐฯ กักตัว14 วัน คนที่เดินทางจากรัฐเสี่ยงโควิด-19
การคุมเข้มโควิด-19 ใน 3 รัฐ ของสหรัฐฯ คือ รัฐนิวยอร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ และ รัฐคอนเนตทิคัต เนื่องจากเมื่อวานนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 36,000 คน นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า คนที่เดินทางมาจากรัฐที่มีผู้ติดเชื้อในระดับสูงต้องกักตัว 14 วันเมื่อเดินทางมาถึง ได้แก่ รัฐแอละแบมา รัฐอาร์คันซอ รัฐฟลอริดา รัฐนอร์ทแคโรไลนา รัฐเซาท์แคโรไลนา รัฐเท็กซัส รัฐวอชิงตันและรัฐยูทาห์ หากไม่ทำตามจะถูกปรับเงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับการฝ่าฝืนครั้งแรก และเพิ่มเป็น 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากทำผิดซ้ำ คำสั่งนี้จะมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป
มาตรการกักกันดังกล่าวไม่ใช่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ รัฐฮาวาย กำหนดให้คนที่เดินทางมาจากแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯต้องถูกกักโรคเป็นเวลา 14 วัน ส่วนรัฐฟลอริดาและรัฐเท็กซัส เคยบังคับให้คนที่เดินทางมาจากสนามบินต่างๆในพื้นที่รัฐนิวยอร์ก กักโรคเป็นเวลา 14 วัน เช่นกัน
ด้านนายฟิล เมอร์ฟีย์ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ กล่าวผ่านวิดีโอระหว่างการแถลงข่าวร่วมในนิวยอร์กซิตี้ ว่าจะต้องดำเนินมาตรการดังกล่าว เนื่องจาก ประชาชนใน 3 รัฐ เคยเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดและได้ผ่านพ้นช่วงเลวร้ายมาแล้ว
จากการตรวจสอบพบว่า หลังจากรัฐต่างๆเริ่มกลับมาเปิดพื้นที่เศรษฐกิจ ทำให้พบว่า เริ่มพบผู้ติดเชื้อรายใหม่
-รัฐฟลอริดา เป็นรัฐแรกๆที่กลับมาเปิดเศรษฐกิจ เมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 รายใหม่รายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดจำนวน 5,500 คน
-รัฐโอคลาโฮมา ไม่เคยใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มข้น ทุบสถิติพบผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุด
-รัฐแอริโซนา รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐมิสซิสซิปปี รัฐเนวาดา และรัฐเท็กซัส พบผู้ติดเชื้อสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดเช่นกัน
นครนิวยอร์ก ฉลองงานวันชาติต่างจากทุกปี แบ่งการแสดงดอกไม้ไฟหลายคืน
ก่อนถึงวันชาติสหรัฐฯ 4 ก.ค. นครนิวยอร์ก เตรียมเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ (Independence Day) ด้วยการแบ่งการแสดงดอกไม้ไฟ ออกเป็นหลายคืน แตกต่างจากการจัดงานทุกๆปี เพื่อลดความแออัดของประชาชนที่จะมาร่วมงานท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 สำนักนายกเทศมนตรี เปิดเผยว่า การแสดงดอกไม้ไฟ จะจัดขึ้นในหลายจุดทั่วนครนิวยอร์ก ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.-1 ก.ค.
ในวันที่ 4 ก.ค. นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก กล่าวว่า การแสดงดอกไม้ไฟปีนี้ สามชุดแรก จะจำกัดเวลา 5 นาที ขณะที่ การแสดงชุดสุดท้ายในวันที่ 4 ก.ค. จะมีบุคคลสำคัญด้านวัฒนธรรมมาร่วมด้วยเพื่อยกย่องเชิดชูบุคลากรด้านสาธารณสุขและบุคลากรด่านหน้าที่มีบทบาทสำคัญในการรับมือโควิด-19 การแสดงดอกไม้ไฟฉลองวันชาติของห้างสรรพสินค้าเมซี่ในวันที่ 4 ก.ค. เป็นงานประจำปีที่อยู่คู่นครนิวยอร์กมากว่า 40 ปี โดยในช่วงเวลาปกติ งานนี้จะดึงดูดผู้คนนับหมื่นคนให้มาร่วมชมการแสดงริมฝั่งแม่น้ำในเวลากลางคืน
“ทรัมป์” ประณามผู้ประท้วงตั้งเขตปกครองตนเอง จุดไฟเผาธงชาติ
สถานการณ์ประท้วงหลายเมืองของสหรัฐฯ ไม่พอใจกรณีการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ แม้บางพื้นที่แทบไม่พบรายงานเหตุประท้วงรุนแรงแล้ว แต่มีรายงานในบางเมืองที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวอยู่และหน่วยงานท้องถิ่นไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประณามผู้ประท้วงต่อต้านเหยียดผิว ที่ก่อเหตุจุดไฟเผาธงชาติสหรัฐฯผืนใหญ่ที่ผูกไว้กับเสาไฟจรจาจรบริเวณสี่แยกนอกสวนสาธารณะลาฟาแยต ห่างจากทำเนียบขาวไม่กี่ช่วงตึก ขณะที่ตำรวจ เข้ารื้อถอนพื้นที่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศให้เป็น เขตปกครองตนเอง หรือเขตปลอดตำรวจในวอชิงตัน ดี.ซี.
เหตุการณ์เผาธงชาติ เกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อวันจันทร์ ผู้ประท้วงพยายามโค่นรูปปั้นของแอนดรูว์ แจ็กสัน ประธานาธิบดีคนที่ 7 ภายในสวนสาธารณะลาฟาแยต แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากตำรวจเข้ามาห้ามก่อน และต้องปิดสวนสาธารณะเพื่อประเมินความเสียหายและซ่อมแซม
ทำเนียบขาวและสวนสาธารณะลาฟาแยต กลายเป็นจุดศูนย์รวมของพวกผู้ประท้วง Black Lives Matter (ชีวิตคนดำมีค่า) ที่เรียกร้องความยุติธรรมและความเท่าเทียม ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน นายทรัมป์ เรียกการเผาธงชาติว่าเป็นพฤติกรรมที่คิดอะไรตื้นๆ และสนับสนุนข้อเสนอของวุฒิสมาชิกสตีฟ เดนส์ ที่ขอแก้ไขรัฐธรรมนูญให้การเผาธงชาติเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แม้ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยว่าการเผาธงชาติเป็นเสรีภาพการแสดงออกที่ควรได้รับการปกป้อง