ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2563

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2563

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำ ผับ บาร์ ควรเปิดหลังโรงเรียน ย้ำหาทางสายกลางรับมือโควิด-19 และเศรษฐกิจเดินหน้าต่อได้

          การเตรียมผ่อนคลายระยะที่ 5 ในกิจการที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อาบอบนวด ผับ บาร์ คาราโอเกะ แต่ในภาพรวมเรื่องโควิด-19 ยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้โพสต์ลงในเพจส่วนตัว หมอแก้ว ผลิพัฒน์ ระบุถึงสิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง คือ

          โอกาสที่จะกลับมาพบผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศ ไม่ช้าก็เร็ว แม้เราจะมีวัคซีนมาใช้แล้ว เราก็จะมีการเกิดโรคในประเทศได้อยู่ดี และสุดท้ายโควิด-19 (มีโอกาสสูง) ที่กลายเป็นโรคประจำ การควบคุมโรคจึงต้องคำนึงถึงการแก้ปัญหาระยะสั้น และระยะยาว ทุกประเทศต้องหาทางสายกลางของตัวเองให้เจอ ทางสายกลางที่จะทำให้เรามีผู้ป่วยน้อยที่สุด ไม่เกินระดับที่เรารับได้ และยังคงสามารถทำให้วิถีชีวิต เศรษฐกิจ และสังคม สามารถเดินไปได้ การผ่อนปรนให้มีการเปิดกิจการและธุรกิจโดยคำนึงถึงความจำเป็นและความเสี่ยงต่อไป ที่ผ่านมาเราก็ทำได้ดีมากแล้ว ในระยะต่อไป เราจะต้องมีสติ มีความเข้าใจ ค่อยๆ ทยอยเปิดกิจการตามความจำเป็นและความเสี่ยงต่อไป และควรมีมาตรการทั้งด้านการป้องกันและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม พร้อมย้ำอีกครั้ง โรงเรียนควรได้เปิดก่อนสถานบันเทิง

           สถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงไม่ใช่ตัวปัญหา ตราบใดที่เราสามารถทำให้สถานที่และธุรกิจดังกล่าวมีความเสี่ยงต่ำลงได้ ซึ่งต้องอาศัยทั้งความตั้งใจของทุกฝ่าย และความร่วมมือในระยะยาว ดังนั้น เจ้าของกิจการและภาคสาธารณสุขจะต้องออกข้อกำหนดให้สถานที่หรือธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อให้เจ้าของกิจการและลูกค้าสามารถปฏิบัติตามได้อย่างเหมาะสมต่อไป

          และในระยะนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดำเนินการเฝ้าระวัง และการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องทำอย่างเป็นระบบ รวดเร็ว ถูกต้องตามหลักวิชาการ อย่างครอบคลุมและครบถ้วน เพื่อให้เราสามารถค้นหาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็ควรติดตามสถานการณ์และเหตุการณ์ในต่างประเทศอย่างใกล้ชิดด้วย

ศบค.เสนอ ปลดล็อก นักธุรกิจ-นักลงทุนต่างชาติเข้าไทยก่อน 1 ก.ค.นี้

          การเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า การผ่อนคลายจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 มี 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ดำเนินการให้เข้ามาได้ทันที คือ นักธุรกิจ/นักลงทุน มีลงทะเบียนไว้ 700 คน และอยู่ใน Waiting List เมื่อเข้ามาจะต้องถูกกักตัวตามมาตรการ 14 วัน และกลุ่มที่ให้เข้ามาได้ในวันที่ 1 ก.ค. 2563 หลังเสนอ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาเห็นชอบวันที่ 29 มิ.ย. คือ แรงงานฝีมือ/ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 15,400 คน คนต่างด้าว กรณีเป็นครอบครัวคนไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในไทยจำนวน 2,000 คน ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา ประมาณ 2,000 คน ส่วนนี้ต้องถูกกักตัว 14 วันเช่นกัน

          ส่วนนักธุรกิจ นักลงทุน หรือแขกของรัฐบาลที่เดินทางเข้ามาสั้นๆ เช่น ประชุมสัมมนา 2 วันแล้วกลับ หรือลงนามสัญญาวันเดียวแล้วกลับ จะเสนอ ศบค.ให้เริ่มวันที่ 1 ก.ค.ด้วย โดยต้องมีมาตรการขั้นตอนตรวจเชื้อว่าปลอดโควิดทั้งต้นทาง เมื่อเดินทางถึงไทย มีประกันสุขภาพแสนเหรียญ และมีการจัดทีมติดตามทางการแพทย์อย่างน้อย 1 คน เพื่อกำกับดูแลสังเกตอาการ

          ขั้นที่ 2 กลุ่มที่จะขอให้ดำเนินการวันที่ 1 ก.ค. หรือเมื่อมีความพร้อม ได้แก่ กลุ่ม Medical and Wellness Tourism ซึ่งประมาณการว่าจะเข้ามาประมาณ 30,000คน โดยอาจเลือกไว้ในเขต กทม. ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย (ตามความพร้อม) และกลุ่ม Medical and Wellness Tourism ที่ผนวกกับการดำเนินงานด้าน Safety Tour หรือ SHA

          และขั้นที่ 3 โครงการทราเวล บับเบิล (Travel Bubble) แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ มาตรการวิลลา ควอรันทีน จะเริ่ม 1 ส.ค. โดยกลุ่มเดียวกันที่เข้ามาแล้วพักกลุ่มก้อนเดียวกัน เพื่อสะดวกติดตามกำกับ เช่น เช่าบังกะโลชุดใหญ่ริมหาด บางคนมาอยู่เป็นสัปดาห์เป็นเดือนอยู่แล้วก็อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด โดยจะเปิดบริการแบบนี้เพื่อนำเงินเข้ามา

          รูปแบบที่ 2 คือ ผ่อนคลายมาตรการกักตัว แต่จะเริ่มดำเนินการเมื่อพร้อมและสังคมเชื่อมั่นในมาตรการ ตรงนี้ต้องรอไปอีกสักระยะ ส่วนกลุ่มประเทศยังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะตอนแรกหารือจีน ก็มีติดเชื้อปักกิ่ง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จะคุยก็มีติดเชื้อในประเทศก็ยืดออกไป ก็ต้องค่อยๆ คุยกัน

          ส่วนคนไทยรอกลับประเทศอีก แต่โควตาเข้ามาได้วันละ 500 คน เมื่อจะเปิดให้ต่างชาติเข้ามา ควรรอให้คนไทยกลับก่อนหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จะมีการขอเพิ่มโควตาเป็น 600 คนต่อวันหรือมากกว่า นอกจากนี้ คนไทยที่ต้องการเดินทางกลับก็อาจเลือกเข้าพักสถานกักตัวแบบทางเลือกที่เป็นโรงแรมดีๆ จับมือกับ รพ.เอกชน ซึ่งยังมีห้องว่างอยู่ 605 ห้อง ก็จะกลับมาเพิ่มเติมได้ และอาจจะหารือโรงแรมในต่างจังหวัดเปิดเป็น Alternative Local Quarantine ด้วย ในจังหวัดที่มีสนามบินให้ต่างชาติลง เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย โดยจับคู่กับ รพ.เอกชน

ออสเตรเลียมีผู้เสียชีวิตรายแรกจากโควิด-19 ในรอบ 1 เดือน

          ทางการออสเตรเลียเปิดเผยว่าในวันนี้มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น 1 ราย โดยนับเป็นรายแรกตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 103 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นชายวัยประมาณ 80 ปี และอยู่ที่รัฐวิกตอเรียซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง ก่อนหน้านี้ นายเกร็ก ฮันท์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งทำให้มีความเป็นได้ว่าจะดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นในบางพื้นที่ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยโควิด-19 สะสม 7,492 คนนับจนถึงเมื่อคืน วานนี้ เพิ่มขึ้น 18 คนจากวันก่อนหน้า โดยส่วนใหญ่มาจากรัฐวิกตอเรีย

เยอรมนีปิด 2 เมือง รอบ 2 หลังโควิด-19 กลับมาระบาด

          นายเจนส์ สปาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี  ยอมรับว่า เยอรมนีมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากรัฐบาล สั่งล็อกดาวน์สองเมืองของรัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลินทางทิศตะวันตกของประเทศ เนื่องจากพบการแพร่ระบาดของโรค ในโรงงานบรรจุเนื้อสัตว์  ได้แก่ เมืองกือเทอร์สโล และวาเรนดอร์ฟ เป็นพื้นที่แรกของเยอรมนีที่ต้องกลับมาทำการล็อกดาวน์รอบ 2 หลังจากยกเลิกมาตรการดังกล่าวไปเมื่อปลายเดือนเมษายน   

          นายสปาห์น คิดว่า หากผ่อนปรนมากเกินไป ไวรัสก็จะกลับมาแพร่กระจายอย่างรวดเร็วอย่างมากอีกครั้ง โดยไวรัสจะไม่พบ แค่ในเมืองกือเทอร์สโล แต่จะพบในเมืองกอทิงเกน, เมืองลีล, เมืองเบรเมิน ตลอดจนในโบสถ์ และงานเลี้ยงฉลองต่างๆ ของครอบครัว

          ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเยอรมนี ขณะนี้อยู่ที่ 192,778 คน และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 8,986 ราย

ผลสอบ เครื่องบินปากีสถานตกใกล้นครการาจีมาจากความผิดพลาดนักบิน-หอบังคับการบิน

          ทางการปากีสถานเปิดเผยผลการสอบสวนเบื้องต้นกรณีโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารแอร์บัส A320 ของสายการบินปากีสถาน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ (PIA) ประสบเหตุตกใส่ย่านชุมชน ในนครการาจี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 97 ราย และรอดชีวิต 2 คน เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ว่า เกิดจากความผิดพลาดของนักบินและเจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน ที่เอาแต่พูดคุยกันเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ตลอดเวลาของเที่ยวบินนี้ ก่อนพยายามจะนำเครื่องบินลงจอดครั้งแรกที่สนามบินในนครการาจี และไม่ประสบความสำเร็จ กระทั่งเครื่องบินตก เครื่องบินโดยสารลำนี้ของสายการบิน PIA ซึ่งเป็นเที่ยวบินจากเมืองลาฮอร์ มายังการาจี ประสบเหตุตกใส่ย่านชุมชน ขณะอยู่ห่างจากรันเวย์ประมาณ 1 กิโลเมตร ในระหว่างการพยายามลงจอดเป็นครั้งที่ 2 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 97 ราย และรอดชีวิต 2 คน

หุ้นไทย-ภูมิภาคเอเชียปรับตัวลดลง หลังโควิด-19 ส่งสัญญาณระบาดรอบ 2

          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,333.43 จุด ลดลง 23.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 60,885.82 ล้านบาท  ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวแดนบวกในภาคเช้า ก่อนจะพลิกกลับมาปรับลดลงแรงในช่วงบ่ายนั้น ปัจจัยหลักมาจากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 63 ลงเหลือ ติดลบร้อยละ8.1 จากเดิมคาดการณ์ติดลบร้อยละ5.3 ประกอบกับตลาดหุ้นภูมิภาค อ่อนตัวลงจากภาคเช้า และบางตลาดพลิกเป็นลบ จากความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่สองที่เริ่มเห็นสัญญาณในหลายประเทศ 

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบเล็กน้อยที่14.73 จุด ที่ 22,534.32 จุด

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 125.76 จุด ปิดวันนี้ที่ 24,781.58 จุด

กองปราบปราม ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พ.ต.ท.บรรยิน พบมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม 

       ความคืบหน้าคดีการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องขังคดีร่วมกันอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รองผบก.ป.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้เรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวไปแล้วหลายปาก โดยมีพยานแวดล้อมที่อยู่ในส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา 2 คนคือ นายสุธน หรือโจ ทองศิริ อายุ 42 ปี และนายณัฐพล หรือท๊อป นรการ อายุ 30 ปี ลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยิน ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ในคดีลักทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ตามลำดับ ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นพยานปากเอก รวมถึงพยานในส่วนของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ทั้งหมดให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า พ.ต.ท.บรรยิน และพวกพยายามวางแผนก่อเหตุแหกคุกจริง

          นอกจากนี้ ตำรวจกองปราบยังได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้งสองคนพบชัดเจนว่า มีการรับโอนเงินจาก พ.ต.ท.บรรยิน หลังจากรับว่าจ้างแล้วซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ และยังพบว่ามีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มบุคคลอื่นนอกจาก นายสุธน และ นายณัฐพล อีกด้วย

         ส่วนที่คุยโม้ว่าจะมีการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการชิงตัว รวมถึงมีการระเบิดกำแพงล้มเสาธงชาติเท่านั้น ทั้งคู่ก็ยอมรับแล้วว่า กุเรื่องขึ้นมาให้ดูน่ากลัว ล่าสุดทั้งคู่ยอมรับแค่ว่า มีการวางแผนเพื่อชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน บนทางด่วน ระหว่างที่ พ.ต.ท.บรรยิน ออกมาขึ้นศาล หากทำไม่สำเร็จก็ให้ไปอุ้มตัวภรรยาของ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อต่อรองให้ปล่อยตัว พ.ต.ท.บรรยิน ทั้งสองกรณีตำรวจกองปราบฯมีหลักฐานยืนยันการกระทำความผิดของ พ.ต.ท.บรรยิน ชัดเจน

          ส่วนการออกหมายเรียกพยานอีก 3 คนได้แก่ ทนายความที่ประกันตัว นายสุธน, นายวรภัทร ตั้งภากรณ์ ลูกชาย พ.ต.ท.บรรยิน และ พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ อดีต ส.ส.เขต 4 จังหวัดนครสวรรค์ พนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียกไปแล้วว่าให้มาเข้าพบเพื่อให้ปากคำในฐานะพยาน

          ล่าสุดมีรายงานว่า พยานบุคคลทั้ง 3 คนที่พนักงานสอบสวนเรียกสอบสวนนั้น เบื้องต้นได้นัดหมาย พ.ต.ท.นุกูล และทนายความที่ประกันตัว นายสุธน ให้มาให้ปากคำในวันที่ 29 มิ.ย. ส่วนนายวรภัทร ให้มาพบพนักงานสอบสวนใน วันที่ 1 ก.ค. แต่ขณะนี้มีเพียงการตอบรับหมายเรียกกลับมาของทนายความเพียงคนเดียวเท่านั้น อีก 2 คนยังไม่มีการตอบรับ