ผู้เชี่ยวชาญสธ.สหรัฐฯ วิตกโควิด-19จะยังระบาดหนัก หากคุมไม่ได้ภายในเดือน ก.ย.-พ.ย.นี้

          นพ.โรเบิร์ต เรดฟีลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค(ซีดีซี)ของสหรัฐฯ กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมาธิการด้านพลังงานและพาณิชย์ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ ในปัจจุบันทำลายศักยภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง ระบุว่ารัฐบาลอาจจะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ชื่นชมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯว่าที่ผ่านมา ทุกฝ่ายได้ทำงานเต็มที่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด นพ.เรดฟีลด์แสดงความเห็นเรื่องนี้  ขณะที่ 25 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐของสหรัฐฯรายงานว่า พบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่นานหลังปลดล็อกดาวน์ เช่น รัฐแอริโซนา,แคลิฟอร์เนีย,โคโลราโด,เดลาแวร์,ฟลอริดา,จอร์เจีย,ฮาวาย,ไอดาโฮ,แคนซัส,มิชิแกน,มิสซิสสิปปี,มิสซูรี,มอนแทนา,เนวาดา,โอไฮโอ,โอคลาโฮมา,ออริกอน,เซาท์แคโรไลนา,เทนเนสซี,เท็กซัส,ยูทาห์,วอชิงตัน, เวสต์เวอร์จิเนีย,วิสคอนซินและรัฐไวโอมิง

          ด้านนายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯซึ่งอยู่ในที่ประชุมด้วย กล่าวว่าหากสหรัฐฯไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนนี้ การแพร่ระบาดจะกลายเป็นไฟลามทุ่ง ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จะทำงานอย่างยากลำบากมากขึ้น พร้อมย้ำว่า เป้าหมายของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯคือการควบคุมการแพร่ระบาดจนกระทั่งเชื้อไวรัสหมดไปจากประเทศโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่เพียงแค่หาทางลดการแพร่ระบาดชั่วคราว พร้อมแนะนำว่าชาวอเมริกันต้องสวมหน้ากากอนามัย เลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีผู้คนแออัด และล้างมือให้บ่อยๆ

         ทั้งนี้ สหรัฐฯมีผู้ป่วยสะสม 2,346,950  คน เสียชีวิต 121,228 ราย

Cr: CNN, MSN.com