รวบแก๊งจีน! ปล่อยกู้ผ่านแอปพลิเคชั่น ประจานลูกหนี้-รีดดอกเบี้ยโหด
พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) เปิดเผยเรื่องการจับกุมขบวนการกู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชั่นเงินกู้นอกระบบ ชื่อ "TRUE CASH PRO" ซึ่งมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด
วิธีการของแอปพลิเคชั่นชนิดนี้ จะให้ผู้กู้ติดตั้งแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเมื่อกู้ผ่านแล้วจะถูกหักค่าบริการออกจากเงินกู้ แต่ลูกหนี้ยังต้องชำระเงินเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ย หากไม่ชำระตามกำหนดเวลา จะมีการ
จากการสืบสวนพบว่า TRUE CASH PRO ดำเนินการโดยกลุ่มนายทุนต่างชาติชาวจีน 7 คน มีเงินหมุนเวียนในระบบต่อเดือน สูงถึง 100 ล้านบาท มีบัญชีเงินฝากที่เกี่ยวข้องในระบบหลายสิบบัญชี มีบัญชีลูกหนี้นับหมื่นราย รวมเงินที่อายัดกว่า 22,000,000 บาท กลุ่มนี้ย้ายที่ตั้งสำนักงานบ่อยครั้งในช่วง 3 – 4 เดือน เพื่อให้ตำรวจติดตามได้ยาก การตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีการโอนย้ายเงินไปยังบัญชีต่างๆ อย่างสลับซับซ้อนเพื่อปกปิดอำพรางความผิด
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า จากการสืบสวนเชื่อว่ายังมีบริษัทอื่นที่กระทำผิดในลักษณะเดียวกันจึงเตรียมขยายผลเพื่อจับกุมต่อไป
มท.สั่งจังหวัดประจวบฯ เร่งสอบลูกจ้าง ยักยอกงบฯ 33 ล้าน
นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประชุมเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนางกัลยารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดฯ รายงานกรณีลูกจ้างหญิง อายุ 28 ปี เป็นพนักงานจ้าง สัญญาการทำงานครั้งละ 2 ปี ในตำแหน่งการเงินและบัญชี กระทำการยักยอกงบประมาณของทางราชการรวม 33 ล้านบาท ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้จังหวัดตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยมีปลัดจังหวัดทำหน้าที่ประธาน และจะต้องขอให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เข้าร่วมตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด เบื้องต้น พบผู้กระทำผิดตามหมายจับอยู่เพียงรายเดียว ซึ่งผู้กระทำผิดรายนี้เข้ามาทำงานในหน้าที่นักวิชาการการเงินประมาณ 2 ปี
ปัญหาที่เกิดขึ้นคงมีข้อบกพร่องจากความไว้ใจมอบหมายภารกิจให้ลูกจ้างดำเนินการเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณเหลือจ่ายในระบบออนไลน์ ซึ่งเกินจากอำนาจหน้าที่ของลูกจ้างตามภารกิจงานที่กำหนด นายภิรมย์ กล่าวว่า หากพบว่ามีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดจะดำเนินคดีทั้งหมด และเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนให้ทุกหน่วยงานต้องคุมเข้มระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเชื่อมโยงการเบิกจ่ายงบประมาณว่ามีข้อพิรุธจากการเบิกจ่ายในระบบหรือไม่
วันนี้ ฝากขัง ร.ต.อ.ปืนลั่นใส่ภรรยาเสียชีวิต
พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว เตรียมควบคุมตัว ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังเป็นครั้งแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังถูกแจ้งข้อกล่าวหาฐานฆ่าผู้อื่น ในคดีปืนลั่นใส่ภรรยาเสียชีวิตภายในบ้านพักย่านบางกะปิ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ยืนยันว่า ผู้ต้องหารับสารภาพแล้วว่าเป็นเหตุการณ์ปืนลั่น ไม่ใช่ภรรยาฆ่าตัวตาย สอดคล้องกับพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่พบคราบเขม่าดินปืนในมือของผู้ต้องหาและภรรยาที่เสียชีวิต ส่วนผลตรวจวิถีกระสุนพบว่าผู้เสียชีวิตถูกยิงเข้าที่ขมับซ้ายเฉียงประมาณ 85 องศา และมูลเหตุสำคัญที่เกิดปืนลั่น มาจากการทะเลาะกันเกี่ยวกับปัญหาชีวิตคู่
กองปราบฯ เตรียมแจ้ง พ.ต.ท.บรรยิน อีก 4 ข้อหา
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ประชุมคณะทำงานสืบสวนสอบสวนกรณี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องหาอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา และผู้ต้องหาในคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ และได้วางแผนแหกคุกว่ามีความชัดเจนเรื่องขบวนการเตรียมชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ระหว่างคุมตัวไปศาลจริง โดยมีพยานหลักฐานทั้งวัตถุและบุคคล ไม่ใช่แค่คำให้การของนายโจ และนายท็อปเท่านั้น เบื้องต้นเตรียมแจ้ง 4 ข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.บรรยิน ประกอบด้วยเป็นผู้ใช้ จ้างวาน สนับสนุนผู้อื่นให้กระทำผิด, กระทำให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาล หลุดพ้นจากการคุมขัง, ส่วนพฤติการณ์เตรียมไปลักพาตัวภรรยาผู้บัญชาการเรือนจำเพื่อใช้ต่อรองเข้าข่ายข่มขืนใจเจ้าพนักงาน และหน่วงเหนี่ยวกักขัง แม้เหตุการณ์จะยังไม่เกิดขึ้น แต่ถือว่า พ.ต.ท.บรรยิน มีเจตนาที่จะก่อเหตุจริง ถือว่ามีความผิดต้องรับโทษ 1 ใน 3 พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานก่อนเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.บรรยิน โดยตั้งเป็นคดีใหม่ นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน เตรียมออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นอดีต ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ และทนายความที่ช่วยประกันตัวนายโจ มาให้ปากคำภายในสัปดาห์นี้
ศบค.ย้ำคัดกรองเข้มมากขึ้น หลังมีผู้เสียชีวิตในสถานกักตัวของรัฐ
กรณีที่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจในสถานที่กักตัวของรัฐ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า มาตรการที่ดูแลต่อไปต้องเข้มงวดมากขึ้น หากซักประวัติแล้วพบว่ามีอาการป่วยต้องกักตัวที่โรงพยาบาลจะไม่ให้กักตัวในโรงแรมของรัฐที่จัดหาให้
ก.คลัง เสนอขั้นตอนลงทะเบียนกระตุ้นเที่ยวไทยเข้า ครม. 30 มิ.ย.
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า แนวทางการลงทะเบียนใช้สิทธิ์ตามมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเที่ยวปันสุข,กำลังใจ,เราไปเที่ยวกัน ในการประชุมหารือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ถึงแนวทางการลงทะเบียนใช้สิทธิ์ตามมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการลงทะเบียน ได้ให้ ททท. กลับไปพิจารณาขั้นตอนการลงทะเบียนให้เหมาะสมมากขึ้นอีกครั้งก่อนสรุปเพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ทันเปิดลงทะเบียนในวันที่ 1 ก.ค.
ผู้อำนวยการสศค.ยืนยันว่า การลงทะเบียนจะต้องไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการ ทั้งโรงแรม และร้านอาหารใช้งานได้ง่ายที่สุดและข้อมูลจะต้องเชื่อมโยงกันด้วย