เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไชนาเดลีของจีนรายงานว่า นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของประเทศจีนและนางอูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป จะเป็นประธานร่วมในการประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์วันนี้ นับเป็นการประชุมครั้งแรก ตั้งแต่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของประเทศจีน และนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรปจะร่วมประชุมด้วย ผู้สังเกตการณ์จีนมองว่า ทั้งสองฝ่ายคือ จีนและกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก อาจจะใช้โอกาสนี้กระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดมากขึ้นรวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมมือกันให้มากขึ้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
แต่เดิมการประชุมครั้งนี้จะจัดขึ้นในกรุงปักกิ่งตั้งแต่เดือนมีนาคม เพื่อเฉลิมฉลองในวาระสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 45 ปีในปีนี้ แต่ถูกเลื่อนมา หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสีได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับบรรดาผู้นำกลุ่มอียู หรือการติดต่อกันทางจดหมายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงประชุมทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนีเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน นายสีย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับเยอรมนีและกลุ่มอียู สนับสนุนแนวคิดการค้าแบบพหุภาคี การแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน การช่วยให้สถานการณ์ทั่วโลกมีความมั่นคง พร้อมทั้งยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายไปสู่ระดับใหม่ ซึ่งเป็นทัศนะในทำนองเดียวกับที่นายสีพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน
ด้านนายเฟง จงผิง รองประธานสถาบันศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยของจีน กล่าวว่า ผู้นำจีนและผู้นำจากกลุ่มอียูติดต่อสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอเป็นการส่งสัญญาณว่า ความร่วมมือกันระหว่างจีนและกลุ่มอียู เป็นสิ่งสำคัญมากความคิดเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นปลีกย่อยบางเรื่อง คาดว่า ทั้งสองฝ่ายจะเพิ่มความร่วมมือให้มากขึ้นเรื่องการตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาโรค การผลิตยาและวัคซีน พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเชี่ยวชาญเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งหารือเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในยุคหลังโควิด-19
Cr: China Daily