หลังประชุมคณะทำงานสืบสวนสอบสวนกรณีคนร้ายวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างการคุมตัวไปตรวจดูพยานที่ศาล โดยใช้เวลาประชุม นานกว่า 2 ชั่วโมง
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.เปิดเผยว่าจากการสืบสวนของตำรวจมีความชัดเจน เรื่องขบวนการชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ระหว่างคุมตัวไปศาลจริง ไม่ได้มีเพียงหลักฐานคำให้การของนายโจ และนายท็อป ที่ถูกสั่งให้ไปหาทางช่วยเหลือ พ.ต.ท.บรรยิน
โดยตำรวจมีหลักฐานทั้งพยานบุคคลและเอกสารที่สามารถดำเนินคดี พ.ต.ท.บรรยิน ได้ใน 4 ข้อหา ฐานเป็นผู้ใช้-จ้างวาน สนับสนุนผู้อื่นให้กระทำผิด ส่วนพฤติการณ์ไปลักพาตัวเข้าข่ายข่มขืนใจเจ้าพนักงานถือเป็นความผิดตาม มาตรา 139 ป.อาญา, มาตรา 191 ช่วยผู้ต้องขัง และ มาตรา 309-310 หน่วงเหนี่ยวกักขัง ซึ่งการเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมถึงการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ภายในสัปดาห์นี้ทุกอย่างต้องมีความชัดเจน
พ.ต.อ.เอนก ยืนยันว่า แม้เหตุการณ์จะยังไม่เกิดขึ้น แต่ พ.ต.ท.บรรยิน มีเจตนาที่จะก่อเหตุจริง ก็ถือว่ามีความผิดต้องรับโทษ 1 ใน 3 ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนเข้าไปแจ้งข้อหากับ พ.ต.ท.บรรยิน ภายในเรือนจำ โดยตั้งขึ้นเป็นคดีใหม่
ทั้งนี้ตำรวจไม่ให้น้ำหนักคำให้การของลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยิน ที่ระบุว่า มีแผนวางระเบิดข้างเรือนจำ ก่อนล้มเสาธงและปีนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพราะสอบสวนอย่างละเอียดแล้วพบเป็นเรื่องที่กุขึ้นมา
ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ โดยนายโจ คิดว่า พ.ต.ท.บรรยิน มีทีมงาน แต่เมื่อติดต่อไปยังอดีต ส.ส.ก็ไม่ร่วมด้วย แผนการหลบหนีจึงเป็นเพียงแผนการคร่าวๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ระหว่างขึ้นศาลในวันนี้ พ.ต.ท.บรรยิน ปฏิเสธข่าวการวางแผนชิงตัวระหว่างขึ้นศาลไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่ามีความเครียดและพยายามผูกคอตัวเอง
แฟ้มภาพ