เปิดเทอม 1 ก.ค.นี้ เรียนพร้อมกันได้ กว่า 3 หมื่นแห่ง ที่เหลือสลับวันเรียน 4,500 แห่ง

          การเตรียมความพร้อมสำหรับเปิดเทอมปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้  นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แถลงว่า โรงเรียนที่สามารถจัดห้องเรียนเว้นระยะห่างไม่ต่ำกว่า 1.5 เมตร สามารถเปิดให้นักเรียนมาเรียนพร้อมกันได้ทั้งหมดมี 31,000 โรงเรียน ทั้งโรงเรียนรัฐ โรงเรียนนานาชาติ และสถาบันอาชีวศึกษา 

          ส่วนโรงเรียนขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถมาเรียนพร้อมกันได้และต้องจัดให้สลับกันมาเรียนมีจำนวน 4,500 โรงเรียน ซึ่งในส่วนนี้คนที่ไม่มาเรียนที่โรงเรียน ก็ให้เรียนผ่านระบบออนแอร์ หรือ ออนไลน์ที่บ้าน ทั้ง 4,500 โรงเรียน จะจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน 5 รูปแบบ 1.เรียน 5 วัน หยุด 9 วัน 2.สลับวันคี่/คู่ 3.เรียนผสม 4.สลับเรียนและ 5.สลับเช้า-บ่าย

          สำหรับข้อห่วงใย 7 ประเด็น ที่กระทรวงศึกษาธิการมีความเป็นห่วงคือ

1.รถโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการได้มอบงบประมาณให้โรงเรียนไปจัดหาซื้อรถโรงเรียนเพิ่มเติม

2.การดูแลเด็กเล็ก ที่โรงเรียนขนาดเล็ก นอกจากมีครูประจำแล้วก็จะมีครูผู้ช่วยในการดูแล รวมทั้งการจัดให้เด็กนอนห่างกัน 1.5 เมตร หันเท้าชนกัน และไม่สวมหน้ากากอนามัยระหว่างนอน

3.การรับประทานอาหารกลางวัน ให้แบ่งเป็น 4 ผลัด โดยผลัดละ 30 นาที

4. ในเรื่องการสอบ กระทรวงศึกษาธิการจะมีการประกาศภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ว่าจะต้องสอบหรือไม่ แต่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จะต้องสอบ

5.กรณีปิดโรงเรียน ให้มีการคัดแยกคนที่มีอาการ แจ้งผู้ปกครอง แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปตรวจสอบ โดยหากไม่พบก็สามารถเปิดโรงเรียนได้ตามปกติ แต่หากพบว่ามีคนติดเชื้อให้ปิดโรงเรียน 3 วันเพื่อทำความสะอาด ผู้ใกล้ชิดหยุด 14 วัน

6.ศบค.ได้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ อยากให้มีการใช้แพลตฟอร์ม ไทยชนะ ซึ่งส่วนหนึ่งทำได้ อีกส่วนหนึ่งจะให้ครูจดรายชื่อเด็กที่มาเรียน

7.โรงเรียนชายขอบ ที่เด็กจะข้ามชายแดนเข้ามาเรียน ซึ่งขณะนี้ยังไม่เปิดให้เข้ามาเรียน ซึ่งปัญหานี้โรงเรียนตามชายขอบได้มีการประสานกับตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเอาใบงานไปใส่ในกล่อง และเด็กนักเรียนจะเอาใบงานและทำการบ้านมาใส่กล่องโดยไม่ต้องเจอกัน ส่วนการเรียนการสอนก็เรียนทางโทรทัศน์