*ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++กองทัพปากีสถานเมื่อวันอังคาร(16ธ.ค.) สรุปเหตุการณ์กลุ่มก่อความไม่สงบ “ตอลิบานปากีสถาน” กราดยิงในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเมืองเปชาวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ระบุมีผู้ถูกสังหาร 141 ศพ ไม่รวมกับมือปืนที่ถูกวิสามัญทั้ง 6 คน ถือเป็นเหตุโจมตีนองเลือดครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ที่เรียกเสียงประณามจากสหรัฐฯ สหประชาชาติและมาลาลา ยูซาฟไซ เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ
++++อาซิม บัจวา โฆษกของผู้บัญชาการทหารบกแถลงว่ามีเด็กนักเรียน 132 คนและเจ้าหน้าที่ 9 คนถูกปลิดชีพในเหตุสังหารหมู่ครั้งนี้ โดยยอดรวมดังกล่าวทำให้เหตุการณ์นี้กลายเป็นเหตุโจมตีนองเลือดครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของปากีสถาน แซงหน้าเหตุโจมตีขบวนหาเสียงนางเบนนาซีร์ บุตโต ในเมืองการาจี เมื่อปี 2007 ที่คราวนั้นคร่าชีวิตผู้คน 139 ศพรวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงด้วย
++++ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ประณามการโจมตีดังกล่าวว่าน่ารังเกียจและอเมริกาจะขอยืนหยัดอยู่เคียงข้างปากีสถานในความพยายามต่อสู้กับความรุนแรงจากฝีมือพวกหัวรุนแรง ขณะที่นายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ ประณามว่าเป็นการกระทำที่ขี้ขลาดเล่นงานเด็กๆที่ป้องกันตัวเองไม่ได้ "มันเป็นพฤติกรรมที่น่าขยะแขยงและขี้ขลาดที่โจมตีเด็กๆที่ไร้ทางปกป้องตนเองระหว่างที่พวกหนูน้อยกำลังเรียนหนังสืออยู่ หัวใจของคนทั้งโลกขอเป็นหนึ่งเดียวกับพ่อแม่และครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป"
+++โรงเรียนแห่งนี้เป็น 1 ในระบบโรงเรียนและวิทยาลัยสังกัดกองทัพปากีสถาน โดยที่กองทัพเป็นผู้บริหารโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ 146 แห่ง ขณะที่นักเรียนซึ่งอายุตั้งแต่ 10 ถึง 18 ปี มีทั้งที่เป็นลูกหลานของทหารและของพลเรือน สำหรับครูอาจารย์จำนวนมากทีเดียวเป็นภรรยาของทหาร มูฮัมหมัด โคราซานี โฆษกของกลุ่มทีทีพี แถลงว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการแก้แค้นให้แก่นักรบตอลิบานและครอบครัวจำนวนมาก ซึ่งถูกฆ่าในระหว่างที่กองทัพเปิดการรุกโจมตีปราบปรามที่มั่นต่างๆ ของพวกหัวรุนแรงเหล่านี้ในเขตนอร์ทวาซิริสถาน
+++ชาวออสเตรเลียทั้งประเทศ ได้ร่วมมือร่วมใจกัน รณรงค์ปกป้องพี่น้องชาวมุสลิมในประเทศ ให้รอดพ้นจากการถูกโจมตีแก้แค้น เพียงเพราะมือปืนที่ก่อเหตุเป็นชาวมุสลิมหัวรุนแรง ราเชล จาคอบส์ สาวออสเตรเลียคนหนึ่ง ที่เธอสังเกต เห็นว่า สตรีมุสลิม ที่กำลังจะขึ้นรถไฟโดยสาร ได้แอบถอด ผ้าคลุมศีรษะ ฮิยาฟ ออก เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าเธอเป็นมุสลิม เนื่องจากหวาดกลัว จะถูกโจมตีแก้แค้น จากชาวออสเตรเลีย ที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธที่ มือปืนมุสลิม จับตัวประกัน 17 คน ไว้ในร้านกาแฟ จนตำรวจต้องบุกชาร์จ และทำให้ ตัวประกัน เสียชีวิต 2 คน โดยราเชล ได้ตรงเข้าไปหา หญิงมุสลิมคนนี้ และบอกเธอว่า สวมผ้าคลุมศีรษะ ไว้เหมือนเดิมเถอะฉันจะเดินทางไปเป็นเพื่อนกับเธอเอง ราเชลได้โพสต์เรื่องราวนี้ ทาง Twitter ซึ่งทำให้ เทสซ่า คุม เริ่มต้นใช้แฮชแท็ก I’ll ride with you เป็นคนแรกและภายในเวลาเพียง ไม่กี่ชม. ก็มีผู้ใช้ แฮชแท็ก นี้ถึง 9 หมื่นครั้ง อันแสดงให้เห็นว่า ชาวออสเตรเลียได้ฉวยวิกฤติให้เป็นโอกาสในการสร้างความเป็นเอกภาพให้เกิดขึ้นในสังคมออสเตรเลียอีกครั้ง.
+++กลุ่มอัลกออิดะห์ซุกระเบิดในรถยนต์เล็งเป้าคาร์บอมบ์หมายปลิดชีพแกนนำนักรบชีอะห์คู่อริในเยเมน แต่พลาดจุดชนวนตอนรถบัสรับส่งนักเรียนแล่นผ่านมาพอดี ส่งผลให้เด็กนักเรียน 15 คนเสียชีวิต นอกจากเด็กนักเรียนแล้วยังมีคนอื่นๆเสียชีวิตอีก 10 คน ในเหตุระเบิดด้านนอกบ้านของอับดุลลาห์ อิดริส แกนนำกบฏชิอะห์หรือที่รู้จักกันในนามกลุ่มติดอาวุธ 'ฮูติ' ในเมืองราดา ทางภาคกลางของเยเมน แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุ พร้อมกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของนักรบอัลกออิดะหห์ ขณะที่แหล่งข่าวด้านการแพทย์ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตในโจมตีครั้งนี้รวมแล้วอย่างน้อยๆ 25 ศพ
++++ตำรวจของสเปน กล่าวว่า ตำรวจได้บุกจับกุมคน 7 คน รวมถึงสตรี 4 คนและผู้เยาว์ 1 คนในสเปนและโมร็อกโกในการบุกจู่โจมจับกุมเครือข่ายที่รับสมัครสตรีเพื่อเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในอิรักและซีเรีย ในจำนวนนั้น 4 คนถูกจับใน 2 ดินแดนของสเปนในแอฟริกาเหนือ คือเมืองเซวตา และเมืองเมลียา และอีก 1 รายถูกจับได้ในเมืองบาร์เซโลนา ด้านทางการโมร็อกโก กล่าวว่า สามารถจับกุม 2 รายในเมืองกัสตีเยโคส ใกล้เมืองเซวตา ที่ผ่านมา 2 ดินแดนส่วนแยกของสเปนในแอฟริกาเหนือมักจะเป็นจุดที่พบการเคลื่อนไหวค่อนข้างมากของบรรดากลุ่มนักรบพลีชีพ นอกจากนั้นเมืองเซวตา และเมืองเมลิลลา เป็นอาณาเขตทางบกแห่งเดียวของยุโรปที่ติดต่อกับทวีปแอฟริกา เป็นจุดที่กลุ่มหัวรุนแรงจะข้ามไปยังพื้นที่ที่มีปัญหาความขัดแย้ง ก่อนหน้านี้ สเปนประเมินว่า มีชาวมุสลิมหัวรุนแรงราว 100 คนได้ออกจากสเปน เพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส ขณะเดียวกัน ทางการโมร็อกโก คาดว่ามีพลเมืองโมร็อกโกราว 2,000 คนเดินทางไปสู้รบในซีเรียและอิรัก
++++รัสเซีย ยืนยันจะไม่ลดกำลังผลิตน้ำมันเพื่อกระตุ้นราคา แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังส่งสัญญาณตึงเครียดอย่างรุนแรงและค่าเงินรูเบิลแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซียบอกในวันอังคาร(16ธ.ค.) ว่า "หากเราลด ชาติผู้ส่งออกอื่นๆก็จะเพิ่มกำลังผลิต และนั่นหมายความว่าเราก็จะสูญเสียตลาดกลุ่มเป้าหมาย ธนาคารกลางรัสเซียประกาศขึ้นดอกเบี้ยรวดเดียวร้อยละ6.5 จากร้อยละ 10.5 เป็นร้อยละ 17
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(16ธ.ค.) ปิดลบแรง ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน นักลงทุนวิตกต่อราคาน้ำมันที่ตกต่ำและวิกฤตค่าเงินรูเบิลที่ดำดิ่งสร้างสถิติต่ำสุดตลอดกาลครั้งใหม่ ดาวโจนส์ ลดลง 111.97 จุด ปิดที่ 17,068.87 จุด
+++ราคาน้ำนิวยอร์กทรงตัว แต่ลอนดอนร่วงลงต่อเนื่องในวันอังคาร(16ธ.ค.) หลังเจ้าหน้าที่คูเวตเผยโอเปกจะไม่ใช้มาตรการฉุกเฉินยับยั้งราคาที่กำลังตกต่ำ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2 เซนต์ ปิดที่ 55.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้ลงน้อยแต่ก็ถือว่าเป็นการขยับลง 4 วันติดต่อกัน ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ราคาทองคำ ขยับลงแรงพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 13.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,194.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนจับตาไปยังที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)
+++การแพ่รระบาดของหวัดนกน่าจะเป็นต้นตอของการตายของแมวน้ำราว 3,000 ตัวนอกชายฝั่งสวีเดนและเดนมาร์กในปีนี้ เจ้าหน้าที่สวีเดนแถลงยืนยัน หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว ก็เพิ่งพบแมวน้ำถูกไวรัสชนิดเดียวกันคร่ากว่า 1,600 ตัวในเยอรมนี ตั้งแต่ต้นปีมีแมวน้ำฮาร์เบอร์ตายในน่านน้ำสวีเดนและเดนมาร์กแล้วราวๆ 3,000 ตัว และมีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาน่าจะติดเชื้อไวรัสหวัดนก H10N7" สำนักงานจัดการทางทะเลและน่านน้ำของสวีเดนระบุในถ้อยแถลง หลังมีการตรวจพบไวรัส H10N7 ครั้งแรกในหมู่แมวน้ำที่ล้มป่วยและตายนอกชายฝั่งเมืองโกเตนเบิร์ก ทางตะวันตกของสวีเดนเมื่อเดือนเมษายน
+++กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังการแฮก Sony Pictures ได้ออกมาขู่เตรียมก่อการร้ายลักษณะเดียวกับเหตุการณ์ 9/11 ในโรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังเรื่อง The Interview ผลงานของ “เซ็ธ โรเจน” ที่มีเนื้อหาล้อเลียนเกาหลีเหนือ และผู้นำ “คิมจองอึน” นอกเหนือจากคำขู่แล้ว กลุ่มคนลึกลับยังได้ประกาศว่าพวกเขาได้เตรียมไฟล์พิเศษเป็น “ของขวัญวันคริสต์มาส” เอาไว้แล้วด้วย โดยยังอุบรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลใหม่นี้ แต่มีการเปิดเผยว่าไฟล์จะมีชื่อว่า “ไมเคิล ไลน์ตัน” ซึ่งก็คือชื่อของซีอีโอของ Sony Pictures Entertainment นั่นเอง
+++ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่าเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการแฮกระบบของ Sony Pictures ครั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบโต้ที่สตูดิโอชื่อดังแห่งฮอลลีวูดได้สร้างหนัง The Interview ล้อเลียนผู้นำ คิมจองอึน ที่ว่าด้วยเรื่องราวของสองหนุ่ม (เซ็ธ โรเจนและ เจมส์ แฟรงโก) ที่ได้รับมอบหมายให้ไปสังหารผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวไปแล้ว โดยคำขู่ก่อการร้ายล่าสุดยังมีคำเตือนไปถึงผู้ที่จะไปร่วมงานการฉายหนัง The Interview รอบปฐมทัศน์ที่นิวยอร์กในวันพฤหัสนี้ด้วยว่า ให้ระวังตัวไว้ให้ดี ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้จัดการฉายหนังรอบปฐมทัศน์ก็ได้ตัดสินใจที่จะลดขนานงานให้เล็กลงเพื่อง่ายต่อการรักษาความปลอดภัยแล้ว โดยก่อนหน้านี้หนังเพิ่งจะได้ฉายรอบพิเศษ ที่ลอสแอนเจลิส ซึ่งก็ไม่ได้มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ หนังเรื่องนี้จะฉายในวันที่ 10 ต.ค. แต่เลื่อนมาเป็น 25 ธ.ค.แทน