ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.ประจำวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2563

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.ประจำวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2563

ตร.โคกคราม บุกสถานบันเทิงย่านประดิษฐมนูธรรม ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวบนักเที่ยว 96 คน พบมีปัสสาวะเป็นสีม่วง

          เมื่อคืนนี้ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผกก.สน.โคกคราม นำกำลังร่วมกับกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กก.ดส.บช.น.) 50 นาย เข้าตรวจสอบสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.หลังสืบทราบว่ามีวัยรุ่นนัดรวมตัวจัดปาร์ตี้วันเกิด ดื่มสุรา และมั่วสุมเสพยา ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน(พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในช่วงโรคโควิด-19 แพร่ระบาด

          สถานบันเทิงดังกล่าวเป็นอาคาร 2 ชั้น ด้านหน้ามีที่จอดรถ มีรถยนต์ จอดราว 30 คัน มีทั้งรถสปอร์ตและรถเก๋งแต่งซิ่งอีกหลายยี่ห้อ เมื่อชุดจับกุมบุกเข้าไปภายในพบนักเที่ยวทั้งชายและหญิง กำลังดื่มสุรารวมตัวเต้นรำ เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ดีเจปิดเพลง และเปิดไฟเพื่อคัดแยกตัวผู้ต้องหา พบว่า มียอดรวมกันกว่า 96 คน แบ่งเป็น ชาย 64 คน และหญิง 32 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชนชาย อายุระหว่าง 16-17 ปี รวมอยู่ด้วย 4 คน

          ผลการตรวจสอบปัสสาวะทุกคนพบเป็นสีม่วง 23 คน แบ่งเป็นชาย 11 คน และหญิง 12 คน ในนี้มีเยาวชนชาย 3 คน พบสารเสพติด เมื่อตรวจค้นภายในอาคารสถานบันเทิง พบซองซิปขนาดเล็กบรรจุผงสีขาวคล้ายเคตามีนอบแห้งและเกล็ดสีขาวคล้ายไอซ์ ถูกทิ้งกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นเกือบ 20 ซอง เมื่อสุ่มตรวจรถหรูและรถต้องสงสัยที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถด้านหน้า 8 คัน พบของกลาง อาวุธปืนขนาด 9 มม.และเครื่องกระสุนอีก 10 นัด อยู่ในกระโปรงรถยนต์สีขาว จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

          พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ติดตามสืบสวนจากโซเชียลมีเดีย พบเบาะแสการนัดรวมตัวทางเฟสบุ๊กเพื่อจัดงานวันเกิดในร้านแห่งนี้ โดยกลุ่มวัยรุ่นหลายสิบรายนัดหมายจับกลุ่มชุมนุมกันตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 18 มิถุนายนจนถึงรุ่งเช้าวันที่ 19 มิถุนายน จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนนำกำลังมาสำรวจสถานที่ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 18 มิถุนายน พบว่าเริ่มมีรถยนต์และกลุ่มวัยรุ่นทยอยกันเข้าไปในร้านดังกล่าวตามที่นัดหมายกันจริง จึงรีบประสานขอกำลังสนับสนุนจาก ดส.เพื่อร่วมเข้าตรวจสอบกระทั่งพบกลุ่มผู้ต้องหา ของกลาง และวัตถุต้องสงสัยจำนวนมากภายในร้านดังกล่าว  ก่อนจะมีโรคโควิด-19 ที่ร้านแห่งนี้ก็ไม่ได้เปิดเป็นสถานบันเทิง ทราบว่าเจ้าของสถานที่เปิดให้บริการลูกค้า ที่จะมาจัดงานอีเว้นท์หรือนัดรวมตัวสังสรรค์กันเป็นครั้งคราวเท่านั้น

          เบื้องต้นทั้งหมดจะถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเรื่องการมั่วสุมรวมตัวกัน ส่วนผู้ต้องหาที่ตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วงทั้ง 23 ราย จะส่งไปตรวจคัดแยกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาล ก่อนแจ้งข้อหา สำหรับอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่พบในรถสปอร์ตนั้นจะตรวจสอบที่มาของผู้ครอบครอง หากพบว่า ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวไม่ได้เป็นเจ้าของก็จะแจ้งข้อหาตามฐานความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศกกต.แบ่งเขตเลือกตั้งท้องถิ่น 19 จังหวัด รอรัฐบาลกำหนดวันเลือกตั้งท้องถิ่น

           ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลงนามโดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 19 จังหวัด โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง, พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่ง 19 จังหวัดนี้เป็นกลุ่มแรก แต่จะทยอยประกาศที่เหลืออีก 58 จังหวัด และเมื่อประกาศครบทั้งประเทศ ก็เป็นอำนาจการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะกำหนดให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐบาลจะดูความพร้อมในเรื่ององค์ประกอบของการเลือกตั้ง คือ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง, งบประมาณ หรือแม้แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

          สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ เมื่อรัฐบาลตัดสินใจกำหนดการเลือกตั้งแล้ว หลังจากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้งจะประชุมเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งทันที โดยระยะเวลาของการจัดการเลือกตั้งอยู่ที่ 45-60 วัน คือ ในช่วงแรกเป็นช่วงเวลาให้ผู้สนใจสมัครรับเลือกตั้งได้ตัดสินใจ จากนั้นจะเป็นช่วงของการเปิดรับสมัครที่จะใช้เวลา 5 วัน, ระยะเวลาของการให้สำนักงาน กกต.ได้แจ้งเจ้าบ้านถึงการตรวจสอบรายชื่อ เพิ่มหรือถอนชื่อ, แจ้งการใช้สิทธิ และแนะนำตัวผู้สมัคร ที่สำคัญจะต้องมีเวลาเหลือให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้หาเสียงอย่างน้อย 20 วัน

          ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินเดือนและค่าตอบแทนฯ พ.ศ.2557 โดยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจะได้รับเงินเดือน, ค่าตอบแทนประจำตำแหน่ง และค่าตอบแทนพิเศษ รวมเดือนละประมาณ 75,530 บาท รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้รับเงินเดือน, ค่าตอบแทนประจำตำแหน่ง และค่าตอบแทนพิเศษ เดือนละ 45,540 บาท ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจะได้รับค่าตอนแทนรายเดือน 30,540 บาท รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้รับค่าตอบแทนรายเดือน 24,990 บาท และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้รับค่าตอนแทนรายเดือน 19,440 บาท

ผ่อนปรนทำกิจกรรมทางศาสนาได้ ย้ำ รักษาระยะห่าง เที่ยวชมวัดได้

          นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มีหนังสือลงวันที่ 17 มิถุนายน 2563 แจ้งถึงเจ้าคณะจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรื่อง การผ่อนปรนจัดกิจกรรมทางพุทธศาสนา โดยระบุว่า วัดสามารถเปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดได้ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด เช่น การประกอบพิธีถวายเทียนพรรษาในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วัดอาจเปิดให้พุทธศาสนิกชนร่วมประกอบพิธีถวายเทียนพรรษาได้ การไหว้พระสวดมนต์ การฟังเทศน์ ฟังธรรม การเจริญจิตภาวนา เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วัดอาจดำเนินการได้ โดยจัดที่นั่งของผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามระยะห่างระหว่างบุคคล และทำความสะอาดอาคารสถานที่เป็นประจำ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค  การกำหนดพิธีเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วัดอาจดำเนินการได้ โดยกำหนดมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เช่น การกำหนดช่วงเวลาการเวียนเทียน เริ่มเวลาใด สิ้นสุดเวลาใด ประกาศให้ประชาชนรับทราบ และการเวียนเทียนอาจกำหนดจำนวนผู้ประกอบพิธีเวียนเทียนเป็นรอบๆ ตามความเหมาะสมของสถานที่    

          ส่วนการเปิดบริการวัดท่องเที่ยวเชิงพุทธ เพื่อประชาชนทั่วไป เข้ากราบไหว้สักการะ เยี่ยมชมโบราณสถาน โบราณวัตถุภายในวัดได้ โดยวัดกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ให้มีความปลอดภัย เช่น การกำหนดจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม เข้าสักการะเป็นรอบๆ ตามความเหมาะสมของสถานที่

กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะเร่งฟื้นฟูอาคารไม้เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่ถูกทำลาย หลังชุมชนชาวแพร่คัดค้าน

          หลังกลุ่มเครือข่ายภาคเอกชนหลายองค์กร ทั้งเครือข่ายภาคีรักษ์บ้านเก่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ กลุ่มเครือข่ายลูกหลานเมืองแพร่ และสภาทนายความจังหวัดแพร่ โดยนายอุเทน สุขทั่วญาติ ประธานสภาทนายความจังหวัดแพร่ ร่วมวงเสวนา กรณีการทุบอาคารเก่าอายุ 131 ปี ที่ทำการของบริษัท บอมเบย์เบอร์มา ในยุคการสัมปทานไม้จังหวัดแพร่เมื่อ 100 กว่าปีก่อน ทั้งนี้ มีการเสนอของบประมาณเพื่อทำการปรับปรุงซ่อมแซม แต่กลายเป็นการทุบทิ้งทั้งหมด จนสร้างความไม่พอใจให้กับชาวแพร่อย่างมาก 

          ล่าสุด นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมสั่งให้ทางสำนักพื้นที่ 13 ให้จัดการเรื่องไม้ให้ครบตามจำนวนที่รื้อถอนและให้ดูแลเป็นอย่างดี ให้ผ้าเต็นท์มาคลุมและไม่ให้อยู่กับดินเพราะจะทำให้ปลวกและน้ำฝนมาทำลายเนื้อไม้ ในเบื้องต้นได้พบกับผู้ว่าฯ แพร่ แล้ว เรื่องความกังวลของชาวแพร่และประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าวทางกรมอุทยานฯ ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในขั้นตอนที่จะตรวจสอบก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ส่วนตนก็จะเข้ามาดูในเรื่องการฟื้นฟูที่จะทำให้อาคารหลังนี้ให้กลับสู่สภาพเดิมให้มากที่สุด และให้ฟังเสียงจากชาวแพร่ว่าต้องการสิ่งไหน อย่างไรให้ได้มากที่สุด