ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน 2563

18 มิถุนายน 2563, 06:27น.


ระทึก!ผู้ประท้วงวิ่งตัดหน้ารถนายกฯ อังกฤษ หน้ารัฐสภา



          สำนักข่าวแชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า รถยนต์ของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงลอนดอน เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 17 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากพยายามหลบผู้ประท้วงสนับสนุนชาวเคิร์ดที่วิ่งลงมาบนถนน ทำให้รถที่ขับตามมาพุ่งชนท้าย คลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นว่า รถยนต์จากัวร์ของนายกฯ จอห์นสัน ที่กำลังขับออกจากอาคารรัฐสภา ต้องเบรคกระทันหันเพราะผู้ประท้วงวิ่งลงมาบนถนน ก่อนจะถูกรถยนต์ที่ตามมาชนท้ายจนเกิดรอยยุบขนาดใหญ่ ขณะที่ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงที่ก่อเหตุและถูกแจ้งข้อหาสร้างความไม่สงบในที่สาธารณะและกีดขวางการจราจรบนท้องถนน



         ส่วนสำนักงานนายกฯ ยืนยันว่า นายจอห์นสันไม่ได้รับบาดเจ็บ คาดว่าผู้ประท้วงกลุ่มดังกล่าวออกมาเคลื่อนไหวแสดงการต่อต้านตุรกี ที่ตัดสินใจส่งทหารโจมตีกบฏชาวเคิร์ดในซีเรียอีกครั้ง



นักวิเคราะห์ ชี้ศึกสองเกาหลี ตึงเครียดมากขึ้น



         บรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลี กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังเกาหลีเหนือระเบิดทำลายศูนย์ประสานงานร่วมสองเกาหลี ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง สำนักงานแห่งนี้เปิดเมื่อเดือนก.ย. 2561 หลังจากผู้นำเกาหลีใต้ เดินทางเยือนกรุงเปียงยาง อย่างเป็นทางการ



          จุง ปัก นักวิเคราะห์อาวุโสสถาบันบรู้กกิ้งส์ กล่าวว่า ความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นทีละน้อยและเตือนว่าจะมีช่วงเวลาที่คาดเดาไม่ได้และไม่มีเสถียรภาพเนื่องจากโลกไม่รู้พฤติกรรมของเกาหลีเหนือ เรื่องล่าสุดคือการทำลายศูนย์ประสานงานร่วมเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเกาหลีเหนือต้องการลงโทษเกาหลีใต้ที่เข้าข้างสหรัฐฯ ขณะที่เกาหลีใต้ ก็กลับมาตอบโต้อย่างรุนแรงเช่นกัน



          ลี ซุง ยุน ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาเกาหลีของมูลนิธิ คิม คู-โคเรีย แห่งมหาวิทยาลัยทัฟต์ กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือมีมาอย่างต่อเนื่อง สังเกตว่าเมื่อสหรัฐฯ มีปัญหา จะมีความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือและมีเป้าหมายไปที่เกาหลีใต้เสมอ ขณะนี้สหรัฐฯกำลังมีปัญหาเรื่องโรคโควิด-19 และการประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนพ.ย. ศาสตราจารย์ลี เชื่อว่าเกาหลีเหนือมีเหตุผลหรือมีแรงจูงใจที่จะทดสอบอาวุธมากขึ้นและโจมตีเกาหลีใต้ จากนั้นเกาหลีเหนือจะเปลี่ยนโทนและหาทางเจรจา



รมว.กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ลาออก   



          สถานการณ์ล่าสุด ทำให้ นายคิม ยอน-ชอล ขอลาออกจากตำแหน่งรมว.กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ โดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถรักษาเสถียรภาพความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีได้ นายคิม ยอน-ชอล เป็นนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ และเคยดำรงตำแหน่งประธานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสังกัดสถาบันวิจัยของรัฐบาลด้วย



          ความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ ขู่ที่จะเคลื่อนกำลังพลเข้ามาประจำการในพื้นที่ที่ปลอดอาวุธ พร้อมทั้งปฏิเสธข้อเสนอของผู้นำเกาหลีใต้ ที่ต้องการส่งเจ้าหน้าที่อาวุโส 2 คนเดินทางไปพบหารือ เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้น



          ขณะที่ กองทัพเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์ว่า ทุกเหล่าทัพพร้อมขั้นสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ หากเกาหลีเหนือ เป็นฝ่ายโจมตีด้วยอาวุธก่อน



          นายยุน โด-ฮาน โฆษกอาวุโสของทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือ "จะรู้จักมารยาทการทูตขั้นพื้นฐาน" ตอบโต้ที่น.ส.คิม โย-จอง น้องสาวของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ปฏิเสธข้อเสนอของประธานาธิบดีมุน แจ-อิน "ด้วยความก้าวร้าว



จีน กร้าวต้องไม่มีเหตุซ้ำรอย ปะทะกับอินเดียที่แคชเมียร์ 



          นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเหตุการณ์เผชิญหน้าและปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างทหารจีนกับทหารอินเดีย เมื่อคืนวันจันทร์ บริเวณพื้นที่พิพาทบนเทือกเขาหิมาลัย คือบริเวณหมู่บ้านกัลวาน ทางตะวันออกของเขตลาดักห์ ในภูมิภาคแคชเมียร์ของอินเดีย หรือเขตอักไสชิน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทำให้ทหารอินเดีย เสียชีวิตอย่างน้อย 20 นาย และมีความสูญเสียเกิดขึ้นกับทหารจีนจำนวนหนึ่ง แม้สถานการณ์ในภาพรวมตอนนี้ สงบขึ้นมาก เนื่องจากทหารของทั้งจีนและอินเดีย ถอนกำลังออกจากพื้นที่แล้วทั้งหมด แต่นายจ้าว ยืนกรานว่าจีนไม่สมควรตกเป็นจำเลย เพราะทหารอินเดียเป็นฝ่ายละเมิดเส้นแบ่งเขตแดนก่อน และยังแสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ของจีนด้วย รัฐบาลจีนดำเนินการร้องเรียนตามช่องทางการทูตระหว่างประเทศแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลจีนไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก และเห็นชอบในหลักการกับรัฐบาลอินเดียแล้วในการคลี่คลายความขัดแย้งโดยใช้สันติวิธี



         ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย ยังไม่แสดงความเห็นอย่างเป็นทางการต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ ก่อนหน้านั้น นายอนุรัก ศรีวสตาวะ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ จะไม่เกิดขึ้น



ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่าควรมีการหารือระดับ ปธน.จีน-อินเดีย ยุติข้อพิพาท



         เคลซี่ย์ โบรเดริค นักวิเคราะห์จีนของยูเรเซีย กรุ๊ป กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าละเมิดข้อตกลงเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ทำให้มองว่ามีความลำบากมากในการควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลาม ทั้งสองรัฐบาลต้องหาทางจัดการกับทัศนคติภายในประเทศที่มีต่อกันอย่างรุนแรงและมีการเรียกร้องให้ตอบโต้ หากการเจรจาระดับทหารและกระทรวงการต่างประเทศล้มเหลว น่าจะมีการหารือระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นวิกฤตใหญ่ นักวิเคราะห์คาดว่ายังคงมีความเสี่ยงที่การปะทะตามชายแดนในอนาคตจะกลายเป็นการปะทะทางทหารมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทหารยังคงเผชิญหน้าซึ่งกันและกันตามบริเวณชายแดนที่มีการพิพาท



จันทร์หน้า ไต้หวัน เปิดเขตแดนรับนักธุรกิจ 14 ประเทศ รวมทั้งไทย



          ไต้หวัน ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ติดต่อกัน 66 วัน เนื่องจากห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าตั้งแต่กลางเดือน มี.ค.และตรวจคัดกรองอย่างมีประสิทธิภาพ แถลงการณ์ของศูนย์บัญชาการกลางต่อต้านโรคระบาดไต้หวัน กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.จะอนุญาตให้นักธุรกิจจาก 14 ประเทศและดินแดนที่มีความเสี่ยงต่ำ เดินทางเข้าไต้หวันได้ ประกอบด้วย ไทย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เวียดนาม และฮ่องกง ระยะเวลากักตัวเองจะลดลงจาก 2 สัปดาห์ เหลือ 5 วัน ส่วนนักเดินทางธุรกิจจากกลุ่มประเทศความเสี่ยงปานกลางถึงต่ำ รวมถึง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ ระยะเวลากักตัวจะลดลงจาก 14 วันเหลือ 7 วัน



         คนที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไต้หวัน ต้องแสดงผลการตรวจปลอดการติดเชื้อโรคโควิด-19 ล่วงหน้า 3 วันก่อนออกเดินทาง รวมทั้งแสดงเอกสารว่าก่อนเดินทางมาไต้หวันไม่มีประวัติเดินทางไปที่อื่นๆ ในระยะ 2 สัปดาห์ และเมื่อสิ้นสุดเวลากักตัว ผลตรวจจะต้องเป็นลบ จึงจะเริ่มการทำธุรกิจได้ ส่วนนักธุรกิจที่ต้องการพักอาศัยอยู่ในไต้หวันนานกว่า 3 เดือน ต้องเข้ารับการกักตัวเต็ม 14 วัน



โควิด-19 ระบาดที่ตลาดปักกิ่ง อาจเริ่มมาตั้งแต่เดือน พ.ค.



          ดร.เกา ฝู ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน ประชุมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในนครเซี่ยงไฮ้ว่า มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีผู้ป่วยไม่แสดงอาการหรือมีอาการน้อยจากตลาดซินฟาตี้จำนวนหนึ่งตั้งแต่เดือนพ.ค.แล้ว จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมาก แต่จะต้องตรวจสอบเพื่อยืนยันการคาดการณ์นี้ ดร.เกา กล่าวว่า เชื้อ Sars-CoV-2 ที่ทำให้เป็นโรคโควิด-19 สามารถฟักตัวในสภาพแวดล้อมที่มืด ชื้น และมีของเสีย หลังจากนั้นจึงติดไปกับผู้คนจำนวนมาก คาดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดซินฟาตี้เกิดขึ้นในลักษณะนี้



         กรุงปักกิ่ง ยกระดับการรับมือฉุกเฉินเป็นระดับสูงสุดอันดับสอง ทั้งที่เพิ่งลดระดับลงได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ และปิดเมืองบางส่วน ห้ามคนในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เดินทางออกนอกเมือง และยกเลิกเที่ยวบิน 1,255 เที่ยว คิดเป็นร้อยละ 70 ของตารางบิน จนถึงขณะนี้จีนพบผู้ป่วยที่โยงกับตลาดซินฟาตี้แล้ว 137 คน นับจากพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนชุดแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว



WHO อ้างรายงานย้ำ เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในยุโรป



          ไมก์ ไรอัน หัวหน้าโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า โรคโควิด-19 แพร่กระจายจากคนสู่คนเป็นหลัก ผ่านทางเดินหายใจและการปนเปื้อนจากมนุษย์ที่อยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมนั้นๆ รายงานที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ ระบุว่า ชนิดของไวรัสที่พบในการระบาดครั้งล่าสุดในกรุงปักกิ่ง เป็นสายพันธุ์หลักที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดในยุโรป



         ความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ประมงจีนและนอร์เวย์ ตรวจสอบหาต้นตอสาเหตุการติดเชื้อระลอกที่ 2 ที่ตลาดซินฟาตี้ ในกรุงปักกิ่ง ยืนยันว่า แซลมอนนอร์เวย์ ไม่น่าจะเป็นแหล่งที่มาของไวรัสโคโรนา นายอู๋ ซุนยู่ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน เปิดเผยว่า เป็นไปไม่ได้ที่เนื้อปลาจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา เพราะเชื้อชนิดนี้จะติดต่อผ่านทางสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเท่านั้น และไม่เคยมีหลักฐานที่ชี้ว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสามารถแพร่ผ่านอาหาร หรือบรรจุภัณฑ์อาหาร



         สอดคล้องกับเหวินอวี้เหมย ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยฟู่ตั้น และนักวิชาการประจำสถาบันวิศวกรรมแห่งชาติจีน (CAE) ให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้ เทคโนโลยี โพสต์ ว่าสัตว์เลือดเย็นที่อาศัยอยู่ในทะเลลึกอย่างปลาแซลมอนไม่สามารถติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้



         ขณะเดียวกัน มีการตรวจสอบต่อไปที่เขียงว่าอาจปนเปื้อนโดยผู้ติดเชื้อหรืออาหารชนิดอื่นที่มีเชื้อ จึงมีคำแนะนำให้ตรวจและกักโรคสำหรับอาหารที่มีความเสี่ยงปนเปื้อนในระหว่างการผลิตและการขนส่ง โดยเฉพาะสินค้าที่นำเข้าจากประเทศที่มีการระบาดอย่างหนัก



          จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร เริ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากผลิตภัณฑ์เนื้อนำเข้าทั้งหมด เมื่อเดือนเม.ย.จีนนำเข้าเนื้อและเครื่องในรวม 862,000 ตัน ส่วนใหญ่มาจากบราซิล สหรัฐฯ และยุโรป จนถึงขณะนี้ กรุงปักกิ่งได้ตรวจหาเชื้อจากตัวอย่างกว่า 2,000 รายการแล้ว รวมถึง เนื้อ อาหารทะเลและไข่



อินเดียน่าห่วง!เสียชีวิตวันเดียว 2,000 ราย เยอรมนี เร่งให้คนเดินทางออก



           ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอินเดียกว่า 11,000 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นกว่า 354,065 คน มากเป็นอันดับ 4 ของโลก ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตเพิ่มถึง 2,006 ราย มากที่สุดตั้งแต่พบการระบาดในประเทศ ทำให้ยอดรวมเพิ่มเป็น 11,903 ราย พื้นที่แพร่ระบาดหนักอยู่ตามเมืองใหญ่หลายแห่ง รวมทั้งกรุงนิวเดลี เมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 1,800 ราย



          ขณะที่นครมุมไบ ปรับตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันใหม่เป็น 862 ราย และเสียชีวิตสะสมเป็น 3,165 ราย 



         ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ตัวเลขจริงอาจสูงกว่านั้นมาก และได้เรียกร้องให้มีการตรวจหาผู้ติดเชื้อให้มากขึ้น ขณะที่ โรงพยาบาลในหลายเมืองของอินเดีย ต้องดิ้นรนเพื่อให้สามารถรับมือได้



          กระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ได้ส่งข้อความแนะนำให้พลเมืองของตนเองให้่เดินทางออกจากอินเดียกลับเยอรมนี หรือไปยังประเทศอื่น ที่สามารถให้หลักประกันด้านสุขภาพได้ดีกว่า และนับเป็นประเทศแรกที่ออกคำเตือนไปถึงพลเมืองของตนในอินเดีย



 

ข่าวทั้งหมด

X