ที่ทำเนียบรัฐบาล เช้าวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างคสช.กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 3 เพื่อติดตามการทำงานของหัวหน้าฝ่ายของคสช.ทั้ง 5 ฝ่าย พร้อมทั้งเตรียมวางมาตรการดูแลรักษาความสงบในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเมื่อการประชุมร่วมเสร็จสิ้น พลเอกประยุทธ์ จะเป็นประธานในการประชุม ครม.ต่อทันที
โดยวาระที่น่าสนใจในวันนี้ ประกอบด้วย วาระของกระทรวงการคลัง ที่จะเสนอการจัดตั้งกองทุนการออม ตาม พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) พ.ศ.2554 ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลจะให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่คนไทย จากที่สัปดาห์ก่อนมีการถอนเรื่องนี้ออกจากครม. เพราะต้องการนำมาทบทวนใหม่บางประเด็นร่วมกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะประเด็นการโอนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในกองทุนประกันสังคมเข้ามาอยู่ใน กอช. เนื่องจากถือเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังเตรียมเสนอให้ปรับแก้ร่างประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต เพื่อให้การจัดเก็บภาษีสินค้าที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศอยู่บนฐานราคาเดียวกัน กับมีการเสนอขยายเวลามาตรการสำหรับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ , การเสนอขอขยายระยะเวลาโครงการสินเชื่อส่งเสริมผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถสาธารณะในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, การเสนอรายการสถานะหนี้สาธารณะของประเทศและการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2557 ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 และการเสนอรายงานผลการกู้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้เพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558
ด้านกระทรวงสาธารณสุขในวันนี้จะขออนุมัติเปลี่ยนแปลงงบประมาณตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557
กระทรวงมหาดไทยจะเสนอโครงการรังวัดออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเพื่อความมั่นคงและการอนุรักษ์ที่ยั่งยืนเทิดไท้ 82 พรรษา มหาราชินี
ส่วนกระทรวงศึกษาธิการ จะขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือค่าอุปกรณ์การเรียนของนักเรียนสายอาชีวศึกษา และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ
จากนั้นในช่วงบ่ายวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะมีการแถลงของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้กับประชาชนในเวลาประมาณ14.00น
ส่วนบรรยากาศก่อนการประชุม ในวันนี้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย นำคณะเจ้าหน้าที่ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์เหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ระลึก 100 ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งทุกเหรียญที่ระลึกได้ผ่านพระราชพิธีมังคลาภิเษกที่วัดบวรนิเวศวิหาร ลักษณะของเหรียญที่ระลึกด้านหน้าจะเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจิตรกร คือ อาจารย์ปัญญา เพ็ชรชู อาจารย์จากสาขาศิลปกรรมศาสตร์ด้านจิตรกรรมสากล วิทยาลัยเพาะช่าง ส่วนด้านหลังมีพระปรมาธิไธยย่อ ภ.ป.ร. และรอบริมเหรียญสลักข้อความอันเป็นที่ระลึกว่า 100 ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย 30พฤษภาคม 2557
ทั้งนี้เหรียญที่ระลึกแบ่งออกเป็นเหรียญที่ผลิตจากสำนักกษาปณ์โมเน่ เดอ ปารีส 1 ชุดประกอบด้วย เหรียญทอง เงิน และบรอนซ์ ราคาชุดละ120,000 บาท หรือหากแยกเช่า เฉพาะเหรียญเงิน ราคาเหรียญละ 6,900 บาท เหรียญบรอนซ์ราคาเหรียญละ 2,000บาท ส่วนเหรียญที่ผลิตจากสำนักกษาปณ์ กรมธนารักษ์ เหรียญเงิน ราคาเหรียญละ 3,000 บาท และเหรียญทองแดงเหรียญละ 200 บาท รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปสมทบทุนในการจัดหาเครื่องมือแพทย์ช่วยเหลือผู้ป่วยของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาด สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาด และ วัดบวรนิเวศวิหารตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
..ผสข.บุศรินทร์ วรสมิทธิ์