ในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุม ซึ่งพล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. ได้รายงานถึงสถานการณ์ในเรื่องทั่วไป ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวกำชับที่ประชุมถึงการขับเคลื่อนประเด็นเรื่องกฎหมาย และงานต่าง ๆ ให้มีความคืบหน้า รวมถึงได้เน้นย้ำให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เฝ้าระวังและคุมเข้มเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง
ติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหายางพารา นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภายในสิ้นปีนี้ราคายางพาราจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท เพราะในช่วงต่อจากนี้ราคายางในตลาดโลกจะปรับตัวขึ้น ซึ่งในส่วนของแผนการทำงานจะเริ่มจากการจัดการยางพาราทั้งระบบ ซึ่งมีทั้งโครงการเดิม และโครงการเพิ่มเติมรวม 16 โครงการ ซึ่งรวมถึงการใช้เงินกองทุน 6 พันล้านบาท ซื้อยางในตลาดกลางยางพาราทั่วประเทศในราคาชี้นำตลาด ขณะที่ช่วงเดือนธันวาคม 2557 – กุมภาพันธ์ 2558 จะมีผลผลิตยางในประเทศออกมาประมาณ 9 แสนตัน จากนั้นในช่วงมีนาคม – เมษายน ยางผลัดใบเกษตรกรจะหยุดกรีดยาง อย่างไรก็ตามในปีนี้ผลผลิตยางของประเทศลดลงจาก 4,400,000 ตันเมื่อปีก่อนมาอยู่ที่ 3,600,000 ตัน เนื่องจากสวนยางขนาดใหญ่ไม่กรีดยางเพราะราคาตก และลูกจ้างหันไปทำอาชีพอื่น ทำให้ผลผลิตลดลง
นอกจากนี้ จะมีความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชนในการจัดตั้งกองทุนพยุงราคาเพื่อเสถียรภาพราคายางในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟท) โดยกองทุนนี้จะเปิดตัวในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ กับจะมีการจัดตั้งตลาดกลางยางพาราของภูมิภาคอาเซียน ดำเนินการโดยบริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (IRCo) ที่มีไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซียถือหุ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการซื้อขายยางพาราในตลาดซื้อขายจริงของ 7 ประเทศอาเซียนที่มีการผลิตยางประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางพาราสัดส่วนร้อยละ 80 ของโลก
ในวันนี้ กรุงเทพมหานคร นัดประชุมผู้ค้าคลองถมในส่วนที่เป็นตึกแถวที่มี การก่อสร้างต่อเติมรุกล้ำทางเท้า เพื่อทำความเข้าใจ การยกเลิกการตั้งแผงลุกล้ำทางเท้าตามนโยบายจัดระเบียบ โดยอนุญาตให้ทำการค้ารอบคลองถมในวันที่ 4 มกราคม . 2558 เป็นวันสุดท้าย
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ มีแรงเทขายต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงไปถึงระดับต่ำสุดที่ระดับ 1,375.99 จุด ลดลง 138.96 จุด เมื่อเทียบกับดัชนีปิดเมื่อวันศุกร์ จากนั้นมีแรงซื้อเข้ามาหนุนให้ดัชนีดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน และเมื่อปิดทำการซื้อขายดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,478.49 จุด ลดลง 36.46 จุด โดยในขณะที่นักลงทุนในประเทศมีมูลค่าซื้อสุทธิแต่นักลงทุนต่างชาติกับนักลงทุนสถาบันต่างเทขาย ซึ่งนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เป็นการเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับตลาดอื่นทั่วโลก ที่มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน ส่วนนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เตือนว่า นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนก แต่ยังไม่มีความจำเป็นต้องตั้งกองทุนพยุงหุ้น
ยังมีความคืบหน้า กรณีตำรวจออกหมายจับบุคคลในเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. ที่กระทำความผิดแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเพื่อหาผลประโยชน์ต่าง ๆ และพนักงานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ พ.ต.ท.ทรงรักษ์ หรือเต่า ขุนศรี รอง ผกก.6 บก.ป. ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และออกหมายจับนายทรงพล ทองสิน คนขับรถ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรอง ผบช.ก. ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินด้วย
*-*