*เมืองไทยวันนี้ 7.30 น.*

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ มีวาระสำคัญ คือ กระทรวงการคลังเสนอให้ปรับแก้ร่างประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต เพื่อให้การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศอยู่บนฐานราคาเดียวกัน

การประชุม ครม.ในวันนี้ ยังเป็นการประชุมร่วมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยหัวหน้าฝ่ายแต่ละด้านจะรายงานผลการทำงาน พร้อมกับเตรียมวางมาตรการกำชับการดูแลรักษาความสงบในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ส่วนการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่อพิจารณาส่งรายงานข้อเสนอการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันนี้จะเป็นวันที่สอง ซึ่งเป็นการหารือการปฏิรูปเศรษฐกิจ การคลัง สาธารณสุข พลังงาน กระบวนการยุติธรรม

ขณะที่ในประเด็นข้อเสนอจากกปปส. ให้ยุบหรือยกเลิกการบริหารราชการส่วนภูมิภาค และให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรงนั้น ทางสมาคมและชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศได้ยื่นหนังสือคัดค้าน ผ่านศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าอาจส่งผลกระทบต่อการบริหารงานและอาจเป็นชนวนขัดแย้งในท้องถิ่นและระดับชาติ แต่เสนอให้ยุบองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ

ในวันนี้ผู้บริหารระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กับอัยการสูงสุดจะประชุมร่วมกันประจำปี เพื่อสอบถามถึงปัญหาและอุปสรรคในการทำงานของแต่ละฝ่าย ซึ่งในโอกาสนี้ทาง ป.ป.ช.จะเตรียมสอบความคืบหน้าจากอัยการสูงสุดเกี่ยวกับคดีโครงการรับจำนำข้าว ในส่วนความผิดทางอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วย

เมื่อวานนี้มีการประชุคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เสนอวาระสำคัญเพื่อวางกรอบโครงสร้างราคาพลังงานทั้งน้ำมันและก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจี เพื่อให้สอดคล้องกับราคาพลังงานโลกที่ปรับตัวลดลง

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ แถลงว่า ที่ประชุมมีมติให้มีการลดราคาน้ำมัน โดยน้ำมันเบนซินให้ลงราคาลิตรละ 2 บาท ดีเซลลดลง 1 บาท มีผลในวันที่ 16 ธันวาคม ทั้งอธิบายว่า ที่ผ่านมาข้อมูลบิดเบือน เพราะปัจจุบันรถยนต์ส่วนใหญ่ หันไปใช้ก๊าซแอลพีจี ทั้งมีการลักลอบนำเข้ามามาก แต่กองทุนน้ำมันยังต้องมีไว้ เผื่อกรณีที่ราคาน้ำมันตลาดโลกมีการเปลี่ยนแปลง โดยในเวลานี้มีเงินอยู่ในกองทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ติดลบกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นในช่วงที่ คสช. เข้ามา

ด้านนายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและสมาชิก สปช.เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงมาก เป็นช่วงจังหวะเหมาะสมที่กระทรวงพลังงานจะยกเลิกการตรึงราคาดีเซลไว้ที่ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร รวมทั้งควรปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต และกองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกกลุ่ม เนื่องจากปัจจุบันอัตราการเรียกเก็บเงินจากกลุ่มเบนซิน แก๊สโซฮอล์ สูงเกินควร

ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายแผนปฏิบัติการหรือโรดแมพ ของกระทรวงเกษตรฯ ที่จะดำเนินงานในปี 2558 ที่สำคัญก็คือการค้าชายแดนกับการพัฒนาสินค้าเกษตรในพื้นที่ ที่สหกรณ์จะเข้าไปมีบทบาทมากขึ้น ขณะที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะต้องเร่งรัดการตรวจสอบว่าเกษตรกรนำที่ดินส.ป.ก.ไปใช้ผิดประเภทหรือไม่ กับผู้ครอบครองที่ดินส.ป.ก.เป็นเกษตรกรจริงหรือไม่ ซึ่งกำหนดให้ทำแผนเข้าสู่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมภายในวันที่ 27 ธันวาคมนี้

ด้านประมงต้องเร่งแก้ไขปัญหาการทำประมงโดยผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ก่อนที่สหภาพยุโรปจะเข้ามาประเมินในอีก 90 วัน

ในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ จะมีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร จะเข้าชี้แจงเรื่องการจัดเก็บภาษีมรดกในการพิจารณาวาระแรก ซึ่งเป็นประเด็นที่มีผู้ให้ความสนใจมาก โดยจะมีการแสดงแบบรายการเสียภาษีสำหรับยื่นทั้งทางอินเตอร์เน็ต และเอกสารต่างๆ รวมถึงเตรียมการประชาสัมพันธ์วิธีการชำระภาษี การจัดทำบัญชี และจัดทำกฎหมายประกอบอีก 16-17 ฉบับหลังการบังคับใช้ ทั้งกล่าวด้วยว่า ในปีหน้าการปฏิรูปภาษีหลายมาตรการจะมีผลบังคับใช้ และในปีงบประมาณ 2558 กระทรวงการคลังกำหนดเป้าหมายจัดเก็บรายได้สรรพากรไว้กว่า 1 ล้าน 7 แสนล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนถึงร้อยละ 14

*-*