ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ตม.รวบคนร้ายพ่อ-ลูก หลอกขอข้อมูลรหัส OTP ถอนเงินออกจากบัญชีผู้เสียหาย

          ข้อมูลส่วนตัวของทุกคนต้องเก็บไว้เป็นความลับ ป้องกันกลุ่มคนร้ายแอบแฝงเอาข้อมูลไปใช้ถอนเงินออกจากบัญชี คดีล่าสุดที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รับแจ้งจากธนาคารพาณิชย์และดำเนินการตรวจสอบต่อพบว่ามีผู้เสียหาย 11 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า 1,000,000 บาท พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รองผู้บังคับการสืบสวนสำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนร้ายคือนายพนา นาคใหม่ อยู่ที่จ.กาญจนบุรี จึงได้ประสานตำรวจในพื้นที่จับกุมตัวได้ เบื้องต้นนายพนา ให้การรับสารภาพว่าใช้วิธีการเข้าไปในเพจของธนาคารเพื่อดูคอมเม้นท์จากผู้เสียหายที่ขัดข้องในการทำธุรกรรมทางการเงิน จากนั้นจะปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ SCB Connect ของธนาคาร และแอดไลน์ไปหาผู้เสียหาย เพื่อส่งข้อความหรือพูดจาหว่านล้อมขอรหัส OTP และข้อมูลส่วนตัวเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อก็จะบอกข้อมูล ขณะเดียวกัน นายพนาจะติดตั้งแอปพลิเคชั่นการทำธุรกรรมทางการเงินบนโทรศัพท์ของตนเอง แล้วทำการถอนเงินออกจากบัญชีผู้เสียหายแบบไม่ใช้บัตร ATM จากตู้ทันที หรือทำการโอนเข้าบัญชีของนายชูศักดิ์ นาคใหม่ ผู้เป็นพ่อ เพื่อนำเงินไปซื้อรถและเล่นพนันออนไลน์

          จากการสอบปากคำ นายชูศักดิ์ ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น แต่ตำรวจมีพยานหลักฐาน แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และร่วมกันลักทรัพย์

          ตำรวจสามารถติดตามจำนวนเงินที่คนร้ายหลอกไปกลับคืนมาได้กว่าร้อยละ 97 และเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายแล้ว 5 ราย 

          ด้านตัวแทนจากธนาคาร กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่พร้อมระบุว่า ผู้เสียหายหลายรายซึ่งเป็นลูกค้าที่เปิดบัญชีของธนาคาร แจ้งว่ามีเงินถูกถอนออกจากบัญชี ขณะนั้นสังเกตเห็นว่าเหตุเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้มั่นใจว่าเป็นการถูกหลอก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ทำการสืบสวน ยืนยันว่า ปกติแล้วการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยระบบดิจิทัลนั้นปลอดภัย แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว รหัสOTP กับผู้อื่น แม้คนร้ายจะอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารก็ตาม แต่ธนาคารไม่เคยมีการโทรไปสอบถามรหัส OTPกับลูกค้าอย่างแน่นอน

         ขณะที่วันนี้มีผู้เสียหายเข้ารับมอบเงินคืนจาก พล.ต.ท.สมพงษ์ โดยเล่าว่า ช่วงนั้นตนเองจะรีไฟแนนซ์บ้านและต้องเจรจาเรื่องเอกสารต่างๆ ซึ่งเข้าใจผิดว่าสามารถรีไฟแนนซ์ทางนั้นได้จริง จึงหลงเชื่อให้รหัสไป เมื่อคนร้ายถอนเงิน ก็รู้ตัว รีบโทรไปอายัดบัตรกับธนาคารทันที ฝากเตือนว่าการทำธุรกรรมทางการเงินจะต้องมีสติ ไม่ประมาท