อธิบดีกรมอนามัย ยอมรับ กังวลใจ คนไทยการ์ดเริ่มตก แม้จะยังไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ

         การผ่อนคลายระยะที่ 3 พบว่า คนไทยการ์ดเริ่มตก พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการสำรวจการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระหว่างมาตรการผ่อนปรนสัปดาห์ที่ 3 ระหว่างวันที่ 22-28 พ.ค. ทางออนไลน์ กลุ่มตัวอย่าง 25,623 คน พบว่า  จากการสำรวจเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยก็ยังถือว่าค่อนข้างดี แต่มีเรื่องอื่นที่ลดลงต่อเนื่อง เช่น การล้างมือก็ลดลง สิ่งที่ต้องร่วมมือกันคือการเว้นระยะห่าง ซึ่งวันนี้ทำให้ค่อนข้างกังวลใจกับการป้องกันตนเองที่ลดลง จากการสอบถามพบว่าที่ทำได้น้อยลงมี 3 เหตุผล คือ

-รู้สึกว่าทุกวันที่รายงานไม่มีผู้ป่วยในประเทศ ทำให้รู้สึกว่าน่าจะปลอดภัยขึ้น

-รู้สึกความเสี่ยงติดเชื้อต่ำลง 

-บางครั้งกิจวัตรประจำตัวไม่เอื้ออำนวย

           ทำให้ผลการสำรวจที่ออกมาพบว่า ลดลง โดยการสวมหน้ากากผ้าตลอดเวลา เหลือร้อยละ 91.5 การล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ ร้อยละ 83.2 กินอาหารร้อนและใช้ช้อนกลางของตัวเอง ร้อยละ 82.7 ภาพรวมพฤติกรรมป้องกันตัวเอง ร้อยละ  74.8 ระวังไม่อยู่ใกล้คนอื่นในระยะน้อยกว่า 2 เมตร และระวังไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก ร้อยละ 56.9 แต่อยากฝากให้มีหน้ากากผ้าติดตัวเพื่อสวมใส่ด้วยเพื่อเป็นการป้องกันการรับและแพร่เชื้อต่อ รวมถึงการล้างมือด้วย

          สำหรับมาตรการในโรงภาพยนตร์ที่มีการผ่อนคลายให้เข้าชมได้ คือ การทำความสะอาดพื้นผิวระหว่างรอบการชมภาพยนตร์ ลดการสัมผัสด้วยการจองตั๋ว การจ่ายเงินล่วงหน้า การสวมหน้ากากทั้งคนให้และรับบริการต้องร่วมมือกัน จัดให้มีจุดล้างมือ การเว้นระยะห่างโดยจัดที่นั่ง 2 เว้น 2 และมีฉากกั้น การลดความแออัดจุดนั่งรอระหว่างเข้าโรงภาพยนตร์ รวมถึงจุดที่ขายสินค้า  การควบคุมเรื่องทางเข้าออก คัดกรองและลงทะเบียนทุกคน พนักงานต้องไม่เป็นคนที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง และต้องควบคุมการใช้พื้นที่โรงภาพยนตร์ในการทำกิจกรรมต่างๆที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะในหรือนอกโรงภาพยนตร์

          อธิบดีกรมอนามัย ย้ำว่า จะมีการเข้าไปตรวจสอบ ระบบระบายอากาศสามารถระบายอากาศได้ครบถ้วนหรือไม่ เพราะโรงภาพยนตร์เป็นพื้นที่ปิด การนั่งชมภาพยนตร์ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง บางแห่งได้เสริมอุปกรณ์เพิ่มเติม คือ ปรับให้อากาศบริสุทธิ์มากขึ้น ฆ่าอบทำลายเชื้อหลังเสร็จสิ้นการให้บริการ

          ส่วนกิจการฟิตเนส จะมีมาตรการคัดกรอง พนักงานและเทรนเนอร์ ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา มีการเว้นระยะห่างโดยขยับอุปกรณ์ออก เมื่อนับจำนวนคนใช้อุปกรณ์ครบ บวกพนักงานเทรนเนอร์ คนในฟิตเนส จะต้องไม่แออัดเกินกว่าที่กำหนดเอาไว้ มีการทำความสะอาดช่วงก่อนเปิด ก่อนปิด และระหว่างใช้บริการ และมาตรการใหม่คือทุกสถานประกอบการฟิตเนส จะมีอุปกรณ์ทำความสะอาดขนาดเล็กให้ผู้รับบริการ เพื่อใช้อุปกรณ์นี้เช็ดอุปกรณ์ก่อนและหลังใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายด้วย และขอความร่วมมือผู้ใช้บริการลงทะเบียนไทยชนะด้วย  

          สำหรับการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 4 พ.ญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ทุกการผ่อนปรน ทุกกิจการจะเน้น 3 ส่วนคือ

1.เน้นการสวมหน้ากากผ้าในที่สาธารณะ

2.การล้างมือบ่อย การระวังไม่ใช่มือสัมผัสหน้า 

3. การเว้นระยะห่างไม่ให้แออัดเกินไป

          ส่วนผู้ประกอบการ ได้เน้นย้ำเรื่องการคัดกรองคนให้และคนรับบริการ ที่ควรจัดให้มีการเว้นระยะห่าง ที่สำคัญคือการติดตาม การลงทะเบียนไทยชนะร่วมกัน วันนี้สถานการณ์มาถึงจุดที่จะผ่อนปรนระยะถัดไปอีก หากไม่ทิ้งมาตรการหลัก เราจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในกิจการต่อๆ ไป