ผู้ป่วยใหม่ 2 คนมาจากรัสเซียและคูเวต
สถานการณ์โรคโควิด-19 ในวันนี้มีผู้ป่วยใหม่ 2 คนซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,104 คน
พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ผู้ป่วยใหม่ทั้ง 2 คนเป็นผู้ป่วยในลักษณะที่ไม่แสดงอาการทั้งคู่
ผู้ป่วยใหม่คนที่ 1 เป็นชายอายุ 22 ปี อาชีพนักศึกษา เดินทางกลับมาจากรัสเซีย ถึงไทยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พักใน State Quarantine ที่จังหวัดชลบุรี ผลตรวจยืนยันพบเชื้อวันที่ 4 มิถุนายน จึงส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดชลบุรี
ผู้ป่วยใหม่คนที่ 2 เป็นชายอายุ 38 ปี อาชีพพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในคูเวต เดินทางกลับจากคูเวตถึงไทยเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พัก State Quarantine ที่กรุงเทพฯ การตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ ตรวจครั้งที่สองเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พบเชื้อ
โดยในช่วง 2 สัปดาห์ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 64 คน เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 63 คนโดยมีเพียง 1 คนที่เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ส่งคนไทยจาก 11 ประเทศกลับไทย
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต อำนวยความสะดวกและส่งคนไทย 100 คนจาก 11 ประเทศกลับประเทศไทย ซึ่งมีทั้งผู้ป่วย นักเรียน/นักศึกษา นักท่องเที่ยวที่วีซ่าหมดอายุ และแรงงานที่หมดสัญญาจ้างงานหรือถูกเลิกจ้าง จาก เยอรมนี เบลเยียม แคนาดา ฝรั่งเศส ฮังการี อิตาลี โปรตุเกส โปแลนด์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร ซึ่งทั้งหมดรับทราบมาตรการกักตัว 14 วัน เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว
คลังเตรียมประชุมหน่วยงานเศรษฐกิจ ก่อนเคาะมาตรการใหม่
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ จะมีการประชุมหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย, สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อติดตามผลการดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจและประเมินสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ ก่อนที่จะออกมาตรการใหม่ ซึ่งนายอุตตม กล่าวว่ามาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ออกมาทำได้ดีแล้ว แต่ในด้านเศรษฐกิจ ยังถือว่ามีความท้าทายโดยเฉพาะการที่เศรษฐกิจไทยมีความยึดโยงกับเศรษฐกิจโลกที่ยังมีปัจจัยในเรื่องการท่องเที่ยว หรือสถานการณ์โควิด-19
ปธน.บราซิลขู่ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก
ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ของบราซิลกล่าวว่า เขาจะถอนชื่อของบราซิลออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การอนามัยโลก ที่ออกคำเตือนเป็นระยะเกี่ยวกับความเสี่ยงในการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในขณะที่ยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เนื่องจากประธานาธิบดีมีความเห็นว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมาตรการปิดเมืองนั้นสร้างความเสียหายรุนแรงมากกว่าโรคระบาด
โดยในขณะนี้บราซิลมีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 2 ของโลก คือรองจากสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว โดยมีผู้ติดเชื้อสะสม 646,006 คนและมีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 3 คือ 35,047 ราย โดยน้อยกว่าสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
เปลี่ยนชื่อถนนกรุงวอชิงตันเป็น “แบล็ค ไลฟ์ส แมทเทอร์ พลาซา”
นางมิวเรียล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน สั่งเปลี่ยนชื่อถนนสายด้านหน้าทำเนียบขาวเป็น “คนผิวสีก็มีค่า” หรือ “Black Lives Matter Plaza” เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวทางสังคมอเมริกันครั้งล่าสุด และมีการทาสีเหลืองเป็นข้อความ “Black Lives Matter” บนพื้นถนนด้วย
นอกจากนี้นางบาวเซอร์ ยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ถอนการบังคับใช้กฎหมายพิเศษและกำลังทหารในพื้นที่เมืองหลวงของประเทศ และเธอออกคำสั่งยุติภาวะฉุกเฉินในกรุงวอชิงตันดีซีแล้ว
...