อดีตทูตสวีเดน ขึ้นศาลฐานจัดการประชุมให้จีนปล่อยตัวนักเคลื่อนไหว

          ศาลที่กรุงสตอกโฮล์ม สวีเดนเปิดการสอบสวนนางแอนน์ ลินด์สเต็ดท์ อดีตเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำกรุงปักกิ่ง ในวันนี้ (5 มิ.ย.) ฐานใช้อำนาจเกินหน้าที่ ด้วยการจัดเจรจาให้ปล่อยตัวนายกุ้ย หมินไห่ ชายชาวจีน-สวีเดน ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านทางการจีน ที่ถูกควบคุมตัวในประเทศจีน ซึ่งนางลินด์สเต็ดท์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยคดีนี้มีโทษจำคุกสูงสุดสองปี

          นางลินด์สเต็ดท์ เคยเป็นเอกอัครราชทูตสวีเดน ประจำเวียดนามและเม็กซิโกและเคยเป็นหัวหน้าคณะเจรจาในการประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศปี 2558 ที่ปารีส

          ส่วนนายกุ้ย หมินไห่ เป็นชาวจีน-สวีเดน ซึ่งเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ในฮ่องกงที่ตีพิมพ์หนังสือกอสซิบเกี่ยวกับผู้นำทางการเมืองของจีน เขาถูกลักพาตัวในขณะที่พักผ่อนในประเทศไทยในปี 2558 จากนั้นก็ไปปรากฏตัวอยู่ในประเทศจีนซึ่งศาลจีนตัดสินให้จำคุก 2 ปี แต่เมื่อพ้นโทษในปี 2560 ได้ไม่กี่เดือนก็ถูกควบคุมตัวอีกครั้ง ขณะอยู่บนรถไฟขณะเดินทางไปกรุงปักกิ่งพร้อมกับนักการทูตสวีเดน โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ศาลเมืองหนิงโปของจีนตัดสินจำคุกเป็นเวลา 10 ปี ฐานให้ข้อมูลที่ผิดกฎหมายในต่างประเทศ

          โดยคดีของนางลินด์สเต็ดท์ เริ่มขึ้นในเดือนมกราคม 2562 เมื่อเธอจัดการประชุมที่สวีเดน ระหว่างนางสาวแองเจลา กุ้ย ซึ่งเป็นลูกสาวของนายกุ้ย กับนักธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับปักกิ่ง โดยนางสาวแองเจลา มีความพยายามอย่างยิ่งในการเรียกร้องให้ทางการจีนปล่อยตัวพ่อของเธอ หลักฐานสำคัญของคดีนี้ก็คือในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นางสาวแองเจลาเขียนบล็อกส่วนตัว ระบุว่าเป็นประสบการณ์แปลกที่นางลินด์สเต็ดท์ เชิญเธอไปสตอกโฮล์มในเดือนมกราคม และบรรยายว่า มีการประชุมหารือในห้องรับรองของโรงแรม นางลินด์สเต็ดท์ ได้แนะนำให้เธอรู้จักกับนักธุรกิจที่อ้างว่าพวกเขาสามารถช่วยให้ทางการจีนปล่อยตัวพ่อของเธอได้อย่างปลอดภัย พร้อมให้คำแนะนำว่า เธอต้องหยุดการเคลื่อนไหวผ่านสื่อต่าง ๆ ซึ่งทำให้เธอเห็นว่าบรรยากาศของการประชุมหารือมีลักษณะคุกคามข่มขู่

          หน่วยข่าวกรองของสวีเดนเปิดการสอบสวนนางลินด์สเต็ดท์ ในทันที ต่อมากระทรวงต่างประเทศได้ปลดเธอออกจากตำแหน่ง แต่ยังมีการทำงานอยู่ในกระทรวงต่างฯ โดยไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่ใด ๆ โดยทางกระทรวงฯ ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องที่เธอจัดการประชุม 

....