การเสียชีวิตของชนเผ่าอะบอริจิ้น ในออสเตรเลีย จุดประกายทำให้หลายเมืองนัดประทัวงพรุ่งนี้

          การเสียชีวิตของชนเผ่าอะบอริจิ้น กว่า 430 ราย ที่เสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำตั้งแต่ปี 2534 กลายเป็นประเด็นที่ทำให้เครือข่ายองค์กรพิทักษ์สิทธิ์ของชนพื้นเมือง นัดชุมนุมประท้วงในหลายเมืองทั่วประเทศในวันพรุ่งนี้ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ดังเช่น ชาวอเมริกันออกมาประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวสีวัย 46 ปี ที่เสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรงเกินเหตุของตำรวจขณะจับกุมเมื่อวันที่ 25 พ.ค.

          นายกรัฐมนตรีสก็อต มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย แสดงความกังวลว่าการประท้วงในวันพรุ่งนี้ มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เตือนประชาชนว่าไม่ควรเข้าร่วมการประท้วง แม้ว่าผู้จัดการประท้วงจะขอให้กลุ่มผู้ประท้วงสวมหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกัน เช่น PPE นายมอร์ริสัน กล่าวว่า ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะประท้วง แต่ย้ำว่า ที่ผ่านมาชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ร่วมกันเสียสละเพื่อส่วนรวมโดยการอยู่บ้านเพื่อลดโรค เช่น ไม่ไปร่วมงานศพหรือไปเยี่ยมครอบครัว ทำให้ตัวเลขลดลง ออสเตรเลียมีผู้ป่วยสะสม 7,247 คน เสียชีวิต 102 ราย

          ด้านรัฐบาลท้องถิ่น เช่น นครซิดนีย์และเมืองเมลเบิร์น อนุญาตให้มีการจัดประท้วงในวันพรุ่งนี้ คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมประท้วงหลายพันคน ขณะที่ มุขมนตรีรัฐวิคตอเรียขอให้ประชาชนอยู่บ้าน แต่ไม่ได้ห้ามการชุมนุมอนุญาตให้แกนนำจัดการประท้วงได้  เนื่องจาก การเรียกร้องสิทธิ์เป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในออสเตรเลีย

Cr: BBC, The Guardian