ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 2 มิถุนายน 2563

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 2 มิถุนายน 2563

ราชกิจจาฯ แพร่คำสั่ง "ศปม." เดินทางข้ามจังหวัดช่วงเคอร์ฟิวได้ แต่ต้องมีหลักฐานรับรอง

          เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ที่ 17/2563 เรื่อง การปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 3) โดยยานพาหนะที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสาธารณะ ที่เป็นการขนส่งคนหรือสินค้าระหว่างจังหวัด ที่เดิมออกจากจังหวัดต้นทางก่อนเวลา 23.00 น.และถึงจังหวัดปลายทางหลังเวลา 03.00 น.ของวันรุ่งขึ้นสามารถเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด ในช่วงเวลาการห้ามออกนอกเคหสถานได้ โดยต้องแสดงหลักฐานรับรองจากบริษัทหรือหน่วยงานต้นสังกัดระบุรายละเอียดที่จำเป็น ได้แก่ ผู้ขับขี่ พนักงานประจำรถเส้นทาง และตำบลเดินทาง ชนิดและรายการสินค้าหรือบัญชีรายชื่อผู้โดยสาร ควบคู่กับบัตรประชาชนหรือบัตรแสดงตนอย่างอื่น

คาดไทยทดลองใช้วัคซีนโควิด-19 ในคนได้ปลายปีนี้

          หลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่บริษัทไบโอเนท-เอเชีย จำกัด ณ นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน กล่าวว่า นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่นักวิทยาศาสตร์ไทยอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีความก้าวหน้าในการศึกษาวิจัยและผลิตวัคซีนชนิด DNA เพื่อป้องกันโรคโควิด- 19  นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ผลการทดลองในหนูมีความคืบหน้าในทางที่ดี  อยู่ระหว่างการรับรองผลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในสัปดาห์หน้า หากผ่านการรับรองจะเริ่มการทดลองในลิง ซึ่งหากสำเร็จตามเป้าหมายจะถือว่าเป็นข่าวดีของประเทศไทย และจะเริ่มผลิตวัคซีนออกมาเพื่อใช้ในการทดลองในคนในระยะที่ 1 ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย คาดว่าใช้เวลาประมาณ 12 เดือน จะทราบผลการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3 ในปลายปี 2564 หากเป็นไปตามนั้นประเทศไทยจะสามารถผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 ขึ้นมาได้เอง และถือว่าประชาชนชาวไทยจะมีโอกาสได้รับวัคซีนเป็นประเทศลำดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย

วุฒิสภาผ่านร่าง พ.ร.ก. เกี่ยวกับการกู้เงิน 3 ฉบับ

          การประชุมวุฒิสภาพิจารณาพระราชกำหนดเกี่ยวกับการกู้เงิน 3 ฉบับ ต่อจากเมื่อวานนี้พบว่า สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ส่วนใหญ่ อภิปรายสนับสนุนพระราชกำหนดทั้ง 3 ฉบับ พร้อมเสนอให้ดูแลไม่ให้เกิดการรั่วไหล นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันต่อวุฒิสภาว่า จะใช้ความละเอียดรอบคอบ กลั่นกรองโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง มีการประเมินผลตามมาตรฐานสากล เปิดเผยข้อมูลโปร่งใส ป้องกันการทุจริตเพื่อผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่าการใช้งบประมาณแผ่นดิน

          จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วยมติ 241 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง พ.ร.ก.ปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการ มติเห็นชอบ 243 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง   และ พ.ร.ก.จัดตั้งกองทุนซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชน มติเห็นชอบ 242 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง 

คลัง นัดหารือ ก.ท่องเที่ยว สรุปมาตรการ “กระตุ้นไทยเที่ยวไทย” 4 มิ.ย.นี้

          นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ จะมีการหารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อหาข้อสรุปในการออกมาตรการท่องเที่ยว ซึ่งจะพิจารณาแนวทางสอดรับกับช่วงเวลาที่ประชาชนสามารถเดินทางได้ และมีวันหยุด เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวไทย หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

          โดยจะพยายามออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวมาฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเร็ว ซึ่งหากสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลายในเดือนก.ค. จริง และสามารถออกมาตรการมากระตุ้นการท่องเที่ยวได้ จะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจมาก รวมถึงข้อเสนอแจกเงินเที่ยวคนละ 3,000 บาท จำนวน 10 ล้านคน กระทรวงการคลังก็จะรับมาพิจารณาด้วย

เตรียมเสนอ ‘ศบค.'เปิดเส้นทางขนส่งสาธารณะทุกระบบ 4 มิ.ย.นี้

           นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในที่ประชุมเตรียมการระบบขนส่งสาธารณะได้มีมติให้เปิดเส้นทางการขนส่งสาธารณะทุกระบบ ทั้งรถโดยสารสาธารณะ (รถทัวร์) รถไฟ และเครื่องบิน รวมถึงการเปิดให้บริการรถทัวร์เส้นทางสู่ภาคใต้และเปิดวิ่งรถไฟทางไกล เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น โดยยกเว้นในจังหวัดที่ยังมีมาตรการห้ามเข้าอยู่ หลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) ได้ออกมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3

          ในส่วนของพื้นที่ 19 จังหวัด ที่มีมาตรการห้ามเดินทางเข้าออกเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 นั้น ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะมีการผ่อนปรนแล้ว แต่เพื่อเพิ่มความมั่นใจจึงได้ให้ทางขนส่งจังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคมสอบถามแต่ละจังหวัดเพื่อความชัดเจนก่อน และให้กระทรวงคมนาคมสรุปเรื่องเสนอให้ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็กพิจารณาในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ ซึ่งหาก 19 จังหวัดมีความชัดเจนและมีการผ่อนปรน ก็คาดว่าวันที่ 5-6 มิ.ย.นี้ จะสามารถเปิดให้บริการเดินรถขนส่งสาธารณะทุกระบบได้ปกติ 100% แต่เรื่องความถี่ในการให้บริการคงจะทยอยเพิ่มขึ้น ตามความต้องการของประชาชนและความพร้อมของผู้ประกอบการ พร้อมกำหนดให้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

หุ้นไทยปิดตลาดพุ่ง 21 จุด หวังโอเปก ยืดเวลาลดกำลังการผลิต

          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้ ปิดตลาด ที่ระดับ 1,374.18 จุด เพิ่มขึ้น 21.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 70,987.07 ล้านบาท หุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวขึ้นทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ขานรับภาพรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาและราคาน้ำมันได้ขยับขึ้น จากความคาดหวังการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าจะยืดระยะเวลาการลดกำลังการผลิต และความต้องการใช้น้ำมันกลับมาเพิ่มขึ้นหลังจากคลายล็อกดาวน์แล้ว 

          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ จากนักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจโลก จะฟื้นตัว ความวิตกเกี่ยวกับการระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 และการประท้วงรุนแรงในสหรัฐฯ ดัชนีนิกเกอิปิดบวก 263.22 จุด แตะที่ 22,325.61 จุด

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน  263.42 จุด ปิดวันนี้ที่ 23,995.94 จุด

ผู้นำฮ่องกงห่วง โควิด-19 ระบาดรอบ 2

          นางแคร์รี่ หลั่ม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง แถลงว่า การที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบกลุ่มก้อนใหม่ มีผู้ติดโรคโควิด-19 รวม 9 คน สร้างความหวั่นวิตกว่าโรคโควิด-19 อาจจะแพร่ระบาดระลอก 2  แม้ว่าฮ่องกงจะได้รับการชื่นชมจากองค์การอนามัยโลกว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

          ด้านนางโซเฟีย ชาน รัฐมนตรีสาธารณสุขของฮ่องกง เปิดเผยว่ารัฐบาลได้ขยายคำสั่งห้ามประชาชนชุมนุมในที่สาธารณะเกิน 8 คนต่อไปอีก 2 สัปดาห์จากเดิมจะครบกำหนดในวันพฤหัสบดีนี้ ข้อห้ามชุมนุมดังกล่าวทำให้ตำรวจ ปฏิเสธห้ามจัดชุมนุมเพื่อรำลึก 31 ปีหลังรัฐบาลจีนใช้กำลังปราบปราม กลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่งในวันที่ 4 มิถุนายน 2532 

         สำหรับทั้งผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 9 คน ของฮ่องกงเริ่มจากสามีภรรยาคู่หนึ่งซึ่งติดโรคโควิด-19 เมื่อวันอาทิตย์ ต่อมาเพื่อนบ้านอีก 4 คน เพื่อนร่วมงานอีก 2 คนของภรรยา รวมไปถึงเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ที่นำตัวสตรีที่ป่วยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทำงานเวลากลางคืนประจำโกดังสินค้าของบริษัทเคอร์รี โลจิสติกส์ ไปส่งโรงพยาบาลก็ติดโรคโควิด-19 เช่นกัน  ฮ่องกงมีผู้ป่วยสะสม 1,088 คน เสียชีวิต 4 ราย

ครม.เห็นชอบลดภาษีที่ดิน ร้อยละ90

          คณะรัฐมนตรีเห็นชอบลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท ร้อยละ 90 จากมูลค่าคำนวณแล้วต้องเสีย ไม่ใช่เป็นการลดอัตราภาษีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ หลังจากรัฐบาลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ขยายเวลาจัดเก็บจากเดือนเมษายนเลื่อนไปเป็นเดือนสิงหาคม 2563 แต่ปัญหาโควิด-19 ส่งผลกระทบหลายส่วน จึงต้องลดภาระภาษีให้เพิ่มเติม ยอมรับภาครัฐสูญเสียภาษีรายได้ 36,000 ล้านบาท จากเดิมประเมินรายได้เข้ามาให้กับ อปท. 40,000 ล้านบาท 

สำหรับการลดจำนวนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างร้อยละ 90  ส่งผลให้ประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจได้รับลดค่าภาษีที่ต้องชำระตามตัวอย่าง  เช่น

-ที่ดินสำหรับทำการเกษตร ถ้าเจ้าของเป็นบุคคลธรรมดา ได้รับยกเว้นภาษีช่วง 3 ปีแรก (ปี  63 –  65) จากการจัดเก็บภาษีไปแล้ว ส่วนเจ้าของเป็นนิติบุคคล  หากที่ดินมีมูลค่าราคาประเมิน  5 ล้านบาท เสียภาษีเกษตรกรรม ร้อยละ 0.01 มูลค่าเสียภาษี 500 บาท  หักส่วนลดร้อยละ 90 เหลือเพียง 50 บาท 

-ที่อยู่อาศัย สำหรับบ้านหลังแรกของบุคคลธรรมดาเป็นเจ้าบ้าน มูลค่าภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาทได้รับการยกเว้น หากเป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน หรือคอนโดมิเนียม ได้รับยกเว้นมูลค่าฐานภาษีไม่เกิน 10 ล้านบาท สำหรับบ้านหลังที่ 2 หากมูลค่าราคาประเมินทุนทรัพย์ 5 ล้านบาท ต้องเสียภาษีอัตราที่อยู่อาศัย ร้อยละ 0.02 คิดเป็นค่าภาษี 1,000 บาท ลดภาษีที่ดินฯ ชำระภาษีเพียง 100 บาท

-กรณีที่ดินรกร้างว่างเปล่าหรือที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชยกรรมหรืออุตสาหกรรม ราคาประเมินทุนทรัพย์ 5 ล้านบาท  เสียภาษีในอัตรารกร้างว่างเปล่า/อัตราการใช้ประโยชน์อื่น ร้อยละ 0.3 คิดเป็นค่าภาษี 15,000 บาท ชำระภาษีเพียง 1,500 บาท

          ส่วนกฎหมายลูก เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม และที่อยู่อาศัย 2 ฉบับ  มีผลบังคับใช้แล้ว ได้กำหนดชัดเจนว่า ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างลักษณะใด  ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย และประกอบเกษตรกรรม เพื่อให้ อปท.จัดเก็บภาษีตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ 

-ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ได้แก่ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ทั้งการอยู่อาศัยเองเป็นหลัก หรือมีบ้านหลังที่ 2  มอบหมายให้ญาติพี่น้องอยู่อาศัย หรือปล่อยให้เช่าเพื่ออยู่อาศัยแบบรายเดือน (เช่น บ้านเช่า หอพัก คอนโด ) และโฮมสเตย์  กำหนดให้เสียภาษีในอัตราที่อยู่อาศัย เช่น บ้านหลังที่ 2  ราคา 5 ล้านบาท  เสียภาษีอัตราที่อยู่อาศัย ร้อยละ 0.02 คิดเป็นค่าภาษี 1,000 บาท ส่วนรายได้จากค่าเช่าให้จัดเก็บภาษีบุคคลธรรมดาส่งให้กรมสรรพากร