ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติบอก ผู้ปกครองไม่ต้องกังวล เด็กไปโรงเรียนเสี่ยงป่วยโควิด-19 น้อยมาก

02 มิถุนายน 2563, 15:48น.


         การเปิดเรียนผู้ปกครองจะมีวิธีการสังเกตและเฝ้าระวังอย่างไรต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือไม่ พญ.วารุณี พรรณพานิช วานเดอพิทพ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า ไม่อยากให้กังวลเกินไปนัก เพราะอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มเด็กทั่วโลก รวมถึงเด็กไทยต่ำ อยู่ที่ประมาณร้อยละ1-1.5 ขณะที่อัตราการแพร่เชื้อจากเด็กก็ไม่ง่าย  เพราะเด็กไม่ได้เป็นคนแพร่เชื้อ ที่ติดกันส่วนใหญ่ก็ติดจากผู้ปกครอง เช่นข้อมูลที่ฝรั่งเศสพบว่า เด็กติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 คน ไปโรงเรียนเจอนักเรียน 170 คน ก็มีผู้ติดเชื้อเพียง 1 คน เท่านั้น



          ส่วนความเชื่อมโยงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กับโรคคาวาซากิ และกลุ่มอาการเจ็บป่วยเฉียบพลันจากการอักเสบของอวัยวะหลายระบบ (Multisystem inflammatory syndrome in children : MIS-C) พญ.วารุณี กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.พบว่ามีเด็กเฉพาะในยุโรป ป่วยด้วยอาการอักเสบหลายอวัยวะในร่างกาย (MIS-C) จากการตรวจวิเคราะห์พบว่าบางรายมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บางรายตรวจพบว่า มีภูมิคุ้มกันโควิด-19 จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องแปลก ที่อยู่ๆ ก็พบโรคที่ไม่ค่อยพบมาก่อน         



          ด้านนายแพทย์วรการ พรหมพันธ์ กุมารเวชศาสตร์ –โรคหัวใจ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ให้รายงานละเอียดเพิ่มเติมว่า ลักษณะอาการที่เด็กป่วยด้วยอาการอักเสบผิดปกติรุนแรงหลายอวัยวะทุกระบบ คือมีผื่นแดงกินพื้นที่ร้อยละ60-70 ของร่างกาย มีการอักเสบของผิวหนัง ตาแดง เยื่อบุตาแดง ไม่มีขี้ตา ซึม รู้ตัวน้อยลง บางรายมีภาวะช็อก มีอาการทางเดินอาหาร ครั้งแรกสงสัยว่าจะเป็นโรคคาวาซากิ ซึ่งปกติจะเกิดในเด็กประเทศแถบเอเชีย จะมีการอักเสบทั่วร่างกาย เด็กจะมีด้วยอาการไข้สูงอย่างน้อย 5 วัน บริเวณที่เห็นเส้นเลือดชัดก็จะอักเสบชัด ปลายมือปลายเท้าบวม มีการลอกที่ปลายนิ้วเป็นจุดแรก  แต่ในไทย และเอเชียยังไม่พบผู้ป่วยในโรค MIS-C



          อย่างไรก็ตาม แพทย์ไทยไม่ประมาท มีการติดตาม เฝ้าระวังเต็มที่ และอยากเตือนผู้ปกครองว่า ในช่วงนี้หากมีโรคอะไรที่มีวัคซีนป้องกันโรคได้ อยากให้พาลูกหลานไปฉีดให้ครบ เพื่อจะไม่ได้เจ็บป่วยหลายโรค ซึ่งอาจจะทำให้อาการรุนแรงได้



          แต่จากข้อมูลที่ยังมีจำกัด จึงสรุปความเชื่อมโยงได้ไม่ชัดเจนนัก ทำให้องค์การอนามัยโลกออกมาขอให้กุมารแพทย์ทั่วโลกมีการเฝ้าระวัง และรายงานข้อมูลเกี่ยวกับโรคเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเกณฑ์การเฝ้าระวังในเด็กอายุ 0-19 ปี ที่มีไข้ 3 วันขึ้นไป โดยมีอาการอย่างน้อย 2 ใน 5 ข้อ คือ มีการอักเสบบริเวณผิวหนังและเยื่อบุ มีภาวะช็อคหรือความดันต่ำ มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หรือมีความผิดปกติทางเดินอาหาร ร่วมกับมีระดับของค่าการอักเสบในเลือดที่เพิ่มสูงกว่าปกติ ไม่พบหลักฐานว่าอาการที่เกิดขึ้น อธิบายได้จากสาเหตุอื่น มีหลักฐานของการติดเชื้อ หรือสัมผัสโควิด-19  



          อย่างไรก็ตาม แพทย์ไทยไม่ประมาท มีการติดตาม เฝ้าระวังเต็มที่ และอยากเตือนผู้ปกครองว่า ในช่วงนี้หากมีโรคอะไรที่มีวัคซีนป้องกันโรคได้ อยากให้พาลูกหลานไปฉีดให้ครบ เพื่อจะไม่ได้เจ็บป่วยหลายโรค ซึ่งอาจจะทำให้อาการรุนแรงได้

ข่าวทั้งหมด

X