'ความรุนแรงไม่ช่วยอะไร'น้องชายจอร์จ ฟลอยด์ที่เสียชีวิตขณะถูกจับกุม เตือนสติชาวอเมริกัน

02 มิถุนายน 2563, 14:51น.


          บรรยากาศในเมืองมินนีแอโพลิส สหรัฐฯ ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ชาวอเมริกันยังคงทยอยไปร่วมวางดอกไม้และข้อความหลายร้อยชิ้น เพื่อแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวเมริกันผิวสีวัย 46 ปี ในจุดที่นายฟลอยด์ เสียชีวิตขณะจับกุมเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม บรรยากาศโดยรวมดำเนินไปด้วยความสงบเรียบร้อยในวันนี้ ต่างจากเมื่อวานที่ตำรวจพบวัตถุอันตรายเช่น ขวดน้ำมันเชื้อเพลิงหลายใบ



          ซีเอ็นเอ็น ระบุว่าสาเหตุหนึ่งที่บรรยากาศในเมืองมินนีแอโพลิส โดยรวมเงียบสงบกว่าทุกวันเนื่องจากประชาชนรู้สึกเหนื่อยล้า และสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงกำลังทบทวนความเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้น เช่นเหตุปล้น ทุบทำลายร้านค้า แต่สิ่งที่ทำให้บรรดาผู้ประท้วงได้สติอีกครั้ง คือคำพูดของนายเทอร์เรนซ์ ฟลอยด์ น้องชายของนายจอร์จ ซึ่งออกมาเปิดใจต่อกรณีการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นครั้งแรกว่า เขาเข้าใจความรู้สึกของทุกคนว่ารู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เขาไม่ต้องการเห็นผู้ประท้วงออกมาทุบทำลายร้านค้าหรือก่อเหตุวุ่นวายขึ้นในชุมชน



          นายเทอร์เรนซ์ยังได้ตั้งคำถามให้ทุกคนเกิดสติว่า การใช้ความรุนแรง หรือเหตุวุ่นวายต่างๆที่บางคนทำอยู่ในขณะนี้ไม่อาจจะช่วยให้พี่ชายของเขาฟื้นชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกล่าวถึงครอบครัวของเขาว่า รักสันติและยึดถือคำสอนทางศาสนาคริสต์เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต และหวังว่าพี่ชายคือ นายจอร์จ คงไม่อยากเห็นผู้ประท้วงออกมาก่อเหตุรุนแรงหรือเหตุจลาจล พร้อมขอร้องให้ทุกคนเคลื่อนไหวอย่างสันติ



 



Cr: CNN

ข่าวทั้งหมด

X