ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในอินเดียเพิ่มไม่หยุด ล่าสุดทะลุ 190,000 คน แซงหน้าฝรั่งเศส เป็นอันดับที่ 7 ของโลก

          รัฐมนตรีสาธารณสุขของอินเดีย ยอมรับเมื่อ 1 มิ.ย.63 ว่า ผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้นจนแซงหน้าฝรั่งเศสอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุด อินเดียขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 7 ของโลก ตามหลังอิตาลี สเปน อังกฤษ รัสเซีย บราซิล และสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 8,392 คนในรอบ 24 ชั่วโมง ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 191,327 คน หลังจากรัฐบาลเพิ่งผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 จากที่บังคับใช้มานาน 2 เดือน ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศก็ดูเหมือนจะเพิ่มทวีคูณ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และการตัดสินใจของนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ที่ประกาศล็อกดาวน์ประเทศมาตั้งแต่เดือนมีนาคม จนมีผลกระทบกับประชาชนกว่า 1,300 ล้านคน และมีคนตกงานนับล้านคน แต่กลับไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคาดว่าการผ่อนคลายมาตรการให้ประชาชนสามารถเดินทางระหว่างเมืองได้ จะยิ่งทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดเลวร้ายลงไปอีก

          โดยเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว แรงงานต่างถิ่นจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงนิวเดลี และเมืองมุมไบ ต่างเดินทางไปขึ้นรถไฟที่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เพื่อที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งอาจจะเป็นการนำเชื้อไวรัสโควิด-19 กระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามเมืองเล็กๆ ที่ระบบสาธารณสุขยังไม่ทั่วถึง ยิ่งทำให้ยากต่อการควบคุม

          ขณะนี้ ยอดผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ในอินเดียอยู่ที่ 5,413 ราย แต่คาดว่าตัวเลขที่แท้จริงอาจจะสูงกว่านี้มาก ขณะที่ทางการอ้างว่า สาเหตุที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตน้อย เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ช่วยชะลอไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้โรงพยาบาลมีความสามารถที่จะรองรับกับจำนวนผู้ป่วยได้