ตำรวจในหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ ใช้สันติวิธีควบคุมการชุมนุม จอร์จ ฟลอยด์ ไม่ให้รุนแรง

          ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า การประท้วงตลอด 6 วัน  หลังนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวสีวัย 46 ปีเสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรงของตำรวจขณะจับกุมในเมืองมินนีแอโพลิสเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม สำนักงานตำรวจบางแห่งถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรงในควบคุมการประท้วง จึงเกิดการปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงในบางท้องที่ แต่มีตำรวจในหลายท้องที่พยายามจะเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อแสดงความรู้สึกเสียใจ พร้อมทั้งสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจบทบาทของตำรวจในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

          โดยเฉพาะเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส บ้านเกิดของนายฟลอยด์ นายอาร์ต อาเซเวโด หัวหน้าตำรวจประจำเมืองฮิวสตันได้นั่งคุกเข่าร่วมกับกลุ่มผู้ประท้วง โดยนายอาเซเวโด เปิดเผยว่าเขาจะจัดให้มีรถตำรวจชุดหนึ่งติดตามขบวนศพของนายฟลอยด์ในช่วงที่ญาติของผู้ตายนำศพจากเมืองมินนีแอโพลิสไปทำพิธีฝังที่บ้านเกิด ซึ่งนายอาเซเวโด ระบุว่าการนำศพผู้ตายกลับมาทำพิธีฝังในบ้านเกิดนับว่าเป็นพิธีที่สำคัญมากสำหรับชาวอเมริกัน นอกจากนั้นตำรวจต้องการจะสร้างความมั่นใจว่าครอบครัวของผู้ตายมีความปลอดภัย การลำเลียงศพกลับไปทำพิธีฝังที่บ้านเกิดก็ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย

          ที่นครนิวยอร์ก ตำรวจคนหนึ่งนั่งคุกเข่าต่อหน้ารูปหัวใจที่ถูกวาดบนกำแพงระหว่างการประท้วงขอความยุติธรรมให้กับนายฟลอยด์ใกล้ๆไทม์สแควร์ เมื่อวาน ส่วนที่รัฐนิวเจอร์ซี ซึ่งอยู่ใกล้กัน นายโจ ไวซ็อกกิ หัวหน้าตำรวจเทศมณฑลแคมเดน ได้เข้าร่วมกับผู้ประท้วงที่ต้นขบวนการประท้วงซึ่งถือแผ่นป้าย มีข้อความว่า ขอให้ทุกคนร่วมยืนแสดงความเป็นหนึ่งเดียว ให้เกียรติกลุ่มนักเคลื่อนไหวและช่วยกันแพร่สาส์นแห่งสันติสุขไปถึงประชาชนทุกคน เช่นเดียวเทศมณฑลสโปแคน ตำรวจที่ตั้งแถวดูแลความสงบระหว่างการชุมนุมเมื่อวานได้นั่งคุกเข่าเมื่อเห็นขบวนแห่ของกลุ่มผู้ประท้วง โดยผู้ประท้วงส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี ขณะตำรวจคุกเข่า ส่วนที่เมืองแคนซัสซิตี้ รัฐมิสซูรี ผู้ประท้วงคนหนึ่งได้เข้าไปจับมือทักทายกับตำรวจที่ถูกส่งไปดูแลความสงบเรียบร้อยในเมืองแคนซัสซิตี้

Cr: CNN, CHVN