ที่ประชุมสภาฯ ลงมติผ่าน 3 พระราชกำหนดการเงิน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากผลกระทบโควิด-19

31 พฤษภาคม 2563, 16:30น.


        ที่ประชุมสภาฯ ลงมติผ่าน พระราชกำหนดการเงิน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากผลกระทบโควิด-19 ทั้ง 3 ฉบับ



          หลังการอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาพระราชกำหนดการเงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีการอภิปรายกันยาวนาน 5 วัน ล่าสุด นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียก ส.ส. เข้าที่ประชุมสภาฯ แสดงตนเพื่อลงมติพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ทั้ง 3 ฉบับ ว่าจะผ่านสภาฯ หรือไม่ โดยผลการลงมติเป็นดังนี้



          1. พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 จำนวนผู้เข้าประชุม 481 เห็นด้วย 274ไม่เห็นด้วย 0งดออกเสียง 207ไม่ลงคะแนนเสียง 0



          2.พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563  เห็นด้วย 275ไม่เห็นด้วย 1 งดออกเสียง 205 ไม่ลงคะแนนเสียง 0



          3.พ.ร.ก.การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ.2563 เห็นด้วย 274ไม่เห็นด้วย 195งดออกเสียง 12ไม่ลงคะแนนเสียง 1 จากจำนวนผู้เข้าประชุม 482



          โดยก่อนหน้าที่จะมีการลงมติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายในเรื่องพ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาทว่ารัฐบาลเข้าใจดีถึงความยากลำบากของประชาชนทุกภาคส่วน และพยายามดำเนินมาตรการเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ซึ่งการแจกเงิน 5,000 บาทเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเยียวยาบรรเทาการขาดรายได้ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อควบคุมอัตราการแพร่ระบาดของโรคไวรัสขอให้มองในภาพกว้างว่ามีโครงการใดออกมาบ้างอย่ามองว่าเงินที่จะได้มานี้มีแต่เฉพาะเงินจากการกู้เท่านั้น หลายอย่างก็มีมาตรการออกมาตามการใช้งบประมาณปกติปี 2563 เพื่อดูแลชดเชย



          นอกจากมาตรการที่เสนอภายใต้พระราชกำหนดนี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่นๆเป็นจำนวนมาก ทางการเงิน การคลังและงบประมาณการขอความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ส่วนการกล่าวอ้างว่ามีการเอื้อประโยชน์ คนไม่เคยได้ประโยชน์จากมหาเศรษฐีต่างๆแต่เป็นเรื่องของการดูแลลูกจ้างพนักงานไม่ได้เป็นการเสนอเงินให้รัฐบาล สิ่งสำคัญของรัฐบาลคือต้องการให้ดูแลลูกจ้างพนักงานไม่ให้เกิดการว่างงาน หลายคนอาจจะไม่เข้าใจตนก็ไม่เป็นไร



          นายกรัฐมนตรี ยังยินดี ที่จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบการใช้เงิน เพราะถือว่าเงินกู้ดังกล่าวนั้นเป็นเงินกู้ของแผ่นดิน พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สามารถชี้แจงทำความเข้าใจได้เป็นอย่างดี ขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมอภิปรายได้ข้อเสนอแนะบ้านเมืองตนถือว่าเป็นเจตนาที่ดีและเป็นความพยายามในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างสร้างสรรค์และยืนยันว่าจะนำมาประกอบการพิจารณาเพื่อขับเคลื่อนประเทศ



          สำหรับขั้นตอนต่อไปจะส่งพ.ร.ก.ทั้ง3 ฉบับ เข้าสู่ที่ประชุมสมาชิกวุฒิสภาเพื่อทำการพิจารณาอนุมัติต่อไปในวันที่ 1 -2 มิถุนายน 2563 



 

ข่าวทั้งหมด

X