มากกว่า 20 เมืองในสหรัฐฯ ยังมีการประท้วงเพื่อแสดงความไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงในการจับกุม นายจอร์จ ฟลอยด์ อายุ 45 ปีชายผิวสี จนทำให้เขาเสียชีวิต เมื่อวันจันทร์ (25 พ.ค.) ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา โดยเมืองและมลรัฐที่มีการประท้วงรุนแรงยังรวมถึงลอสแอนเจลิส, เมมฟิส, นิวยอร์ก, เดนเวอร์, ฮิวสตัน, แอตแลนตา, ดีทรอยต์ และ ลุยส์วิลล์ แม้ว่าอดีตตำรวจที่ก่อเหตุจะถูกจับกุม และมีกำหนดนำตัวขึ้นศาลในวันจันทร์ (1 มิ.ย.) นี้เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฆ่าโดยไม่เจตนา
นายทิม วอลต์ซ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา แถลงในวันนี้ (30 พ.ค.) ว่า สถานการณ์ในเมืองมินนีแอโพลิส ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุยังเป็นอันตราย ประชาชนจำนวนมากฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกที่พักในเวลากลางคืน และก่อเหตุรุนแรงทั้งวางเพลิงและปล้นร้านค้า มีผู้ถูกจับกุมประมาณ 50 คน ขณะที่กองกำลังแห่งชาติ 1,700 คนถูกส่งมาสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่มากกว่า 2,500 นาย
ที่รัฐแอริโซนา สำนักงานตำรวจเมืองฟีนิกซ์ ทวีตข้อความระบุว่า สิ่งที่ผู้ประท้วงเหลือทิ้งไว้คือซากความเสียหายอย่างหนัก ธุรกิจร้านค้าเอกชนถูกวางเพลิงและปล้น รถยนต์ที่จอดไว้ข้างทางถูกทุบหรือเผาจนเสียหายทั้งหมด
ที่รัฐเท็กซัส ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงเกือบ 200 คนที่เมืองฮิวสตัน ส่วนใหญ่ถูกดำเนินคดีขัดขวางการจราจร และมีตำรวจบาดเจ็บเล็กน้อย 4 นายและรถตำรวจเสียหาย 8 คัน ซึ่งประธานสหภาพตำรวจทวีตข้อความระบุว่า ตำรวจมีหน้าที่คุ้มครองประชาชน และประชาชนมีสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ
แต่ที่ดีทรอยต์ มีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชายอายุ 19 ปี หลังจากที่มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดในดอด์จ ดูแรงโก ที่กำลังมีการประท้วง ชายผู้นี้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเขาร่วมอยู่ในกลุ่มผู้ประท้วงด้วยหรือไม่
...