ปิดคดีเครือข่ายอุ้มบุญข้ามชาติในส่วนของพนักงานสอบสวน คดีนี้เริ่มต้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ตำรวจบุกทลายเครือข่ายดังกล่าว ต่อมาได้มีการสอบปากคำพยานไปกว่า 70 คน และขยายผลจนออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้รวม 23 คน จับกุมได้ 22 คน รวมนายจ้าวหรัน นายทุนชาวจีน ด้วย
ส่วนผู้ต้องหา 1คน ที่เป็นหญิงชาวไทย ทำหน้าที่เป็นนายหน้าหาแม่อุ้มบุญ ถูกดำเนินคดีอยู่ที่ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังหลบหนีอีก 1 คน พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ มั่นใจว่า จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่อยู่ในต่างประเทศได้ เนื่องจาก เข้าข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและเป็นความผิดมูลฐานการฟอกเงิน
พล.ต.ต.วรวัฒน์ ระบุรายละเอียด ผู้ต้องหา 23 คน แบ่งเป็น
-กลุ่มนายหน้าชาวจีน 5 คน จับกุมได้ 4 คน หลบหนี1คน
-กลุ่มหน้านายหาแม่อุ้มบุญจับกุมได้ทั้งหมด 7 คน
-กลุ่มคนขับรถ ที่ดูแลอำนวยความสะดวกให้แม่อุ้มบุญ จับกุมได้ทั้งหมด 3 คน
-กลุ่มแม่บ้านที่ดูแลแม่อุ้มบุญและเด็กหลังคลอด จับกุมได้ทั้งหมด 2 คน
-กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ จับกุมได้ทั้งหมด 6 คน
คดีนี้อัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกรายไป ตามความเห็นของพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ทั้งหมดถูกดำเนินคดี 3 ข้อหา
-ฐานสมคบตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
-ร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า
-ร่วมกันซื้อ เสนอซื้อ ขาย นำเข้าหรือส่งออก ซึ่งอสุจิไข่หรือตัวอ่อน
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีเงินหมุนเวียน 500 ล้านบาท และยังมีทรัพย์สินอื่นๆรวมอีกกว่า 1,000 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.จะดำเนินการยึดทรัพย์ที่มาจากการทำผิดทั้งหมด และจากการประสานกับทางจีน ทราบว่า ขณะนี้มีพ่อชาวจีน4คน มายืนยันแล้วว่า นำเด็กไปเลี้ยงจริงและพร้อมจะเข้าให้ข้อมูล เบื้องต้น ยังไม่ปรากฎข้อมูลว่าเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญถูกนำไปค้าอวัยวะหรือทำเปิบพิสดารอย่างที่เคยมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้
ด้าน พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ในฐานะหัวหน้าชุดจับกุม กล่าวถึง ผู้ต้องหาที่อยู่ในกลุ่มแพทย์ 6 คน ว่าทำหน้าที่ผสมเชื้อเพื่อเตรียมฉีดให้หญิงรับจ้างเป็นแม่อุ้มบุญ พร้อมทั้งแจ้งสหวิชาชีพเพื่อถอดใบประกอบวิชาชีพ
ขณะที่ นายธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จะต้องตรวจสอบสถานพยาบาล 5 แห่ง ที่ผู้ต้องหาเช่าเปิดคลินิกว่าเกี่ยวข้องหรือปล่อยปละละเลยหรือไม่ เพราะคดีนี้เป็นความผิดส่วนบุคคลของแพทย์ และหลังจากที่มีคำพิพากษาในคดีแล้ว ถึงจะดำเนินการลงโทษทางวิชาชีพต่อไป
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การอุ้มบุญไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย หากพ่อแม่ต้องการมีลูก แต่ร่างกายไม่พร้อม สามารถใช้วิธีอุ้มบุญได้ เพียงแต่ต้องติดต่อสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตที่มีประมาณ100 แห่งทั่วประเทศ ขณะนี้มีผู้เข้าสู่ขั้นตอนการอุ้มบุญแล้ว 400 กว่าราย