จีนผ่านความเห็นชอบกฎหมายความมั่นคงของฮ่องกง และกฎหมายเพลงชาติจีนแล้ว

          ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน หรือเอ็นพีซี ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของ ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 ที่ประชุมซึ่งประกอบไปด้วยผู้แทนมากกว่า 2,800 คน มีมติเห็นชอบให้มีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง และกฎหมายว่าด้วยเพลงชาติจีน

          สำหรับกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ จะให้อำนาจทางการฮ่องกงในการปราบปรามผู้กระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ก่อการร้าย แบ่งแยกดินแดน และห้ามต่างชาติเข้าแทรกแซงกิจการภายใน หรือการกระทำใดๆ ที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ นายหวัง เฉิน รองประธานคณะกรรมาธิการประจำเอ็นพีซี กล่าวต่อที่ประชุมว่า นับตั้งแต่ฮ่องกงกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีน จีนได้ใช้หลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ, ชาวฮ่องกงปกครองฮ่องกง และการให้อำนาจระดับสูงในการปกครองตนเอง แต่ปัจจุบันมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงมากขึ้นซึ่งกลายเป็นการท้าทายต่อหลักการปกครอง

          โดยบรรยากาศที่ฮ่องกง มีผู้ประท้วงจำนวนมากออกมารวมตัวกันตั้งแต่ก่อนที่สภาเอ็นพีซีจะลงมติ และเมื่อสภาลงมติเห็นชอบ ก็มีผู้ประท้วงออกมารวมตัวกันมากขึ้น นายโจชัว หว่อง แกนนำนักเคลื่อนไหววิจารณ์ว่า การที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง คือความเลวร้ายกว่ากฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเป็นสาเหตุของการประท้วงใหญ่หลายเดือนในฮ่องกงเมื่อปีแล้ว

          ขณะเดียวกันในเวทีโลก จีนได้ขัดขวางความพยายามของสหรัฐฯ ที่ยื่นญัตติเปิดประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับการที่รัฐบาลจีนใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติกับฮ่องกง โดยคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความเห็นว่า ฮ่องกงไม่มีอิสระในการปกครองตนเอง และคณะผู้แทนทางการทูตของสหรัฐฯ ในสหประชาชาติ ได้ยื่นญัตติให้จัดประชุมทางไกลในทันที เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การกระทำของจีนเป็นการยืนยันว่า จีนไม่เคารพ และไม่ใส่ใจกับข้อผูกพันระหว่างประเทศโดยสิ้นเชิง ซึ่งทำให้ผู้แทนจีนซึ่งเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ตอบโต้ว่าสหรัฐฯ คือผู้สร้างปัญหาให้กับประชาคมโลก และกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับฮ่องกง คือกิจการภายในของจีน ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงฯ