การผ่อนคลายกิจการต่าง ๆ ในระยะที่ 3 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะยังไม่มีการนำกิจการหรือกิจกรรมที่อยู่ในระยะที่ 4 อย่างโรงภาพยนตร์ มาผ่อนคลายเปิดในระยะที่ 3 แทน แต่ทั้งหมดจะต้องนำเข้าให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) พิจารณาในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง ส่วนการเปิดร้านนวดแผนไทย ย้ำว่ากิจการนี้มีการสัมผัสตัวกันใกล้ชิด จึงต้องคิดอย่างรอบคอบและต้องคำนึงถึงความเสี่ยงของการกลับมาระบาดซ้ำด้วย ส่วนตัวเข้าใจดีว่าทุกฝ่ายได้รับความเดือดร้อน รัฐเองก็พยายามหาทางช่วยเต็มที่
นายเทวัญ ยืนยันว่า สถานที่ท่องเที่ยวตามวัดต่าง ๆ เช่น วัดพระแก้ว, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดระฆังโฆสิตาราม เปิดให้เข้าตามปกติ แค่งดกิจกรรมทางศาสนาและต้องรักษาความสะอาดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนที่บางวัดเริ่มไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำ-ไฟก็จะมีการเยียวยา ก็จะนำเหตุการณ์ในปีพ.ศ.2552 ที่พระสงฆ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ออกบิณฑบาตร ไม่ได้ จากความไม่สงบมานำเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา โดยจะเสนอให้ปัจจัยเยียวยาวันละ 100 บาท ต่อพระ 1 รูป ให้ใช้ในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทำเรื่องไปยังกระทรวงการคลังแล้ว คาดว่าต้องใช้งบประมาณเดือนละ 400-500 ล้านบาท โดยจะให้แต่ละวัดไปบริหารจัดการปัจจัยกันเอง และยังต้องหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอีกครั้ง