ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น. วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม 2563

28 พฤษภาคม 2563, 08:11น.


1มิ.ย.เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น คาดคลายล็อกการบินได้ ก.ค.



          นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย หารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่ นายวิษณุ เปิดเผยว่า ทูตสหรัฐฯชื่นชมการจัดการแก้ปัญหาโรคโควิด-19 ของไทย และตนย้ำว่าสหรัฐฯให้ความช่วยเหลือประเทศไทยอย่างมาก ทั้งด้านวิชาการและเครื่องมือทางการแพทย์ เชื่อว่า การชื่นชมดังกล่าว ไม่ใช่การยอ แต่มองที่การรับมือสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี และตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป มาตรการหลายอย่างจะเริ่มเปิดมากขึ้น แต่มาตรการด้านการบิน คาดว่าเดือนก.ค. น่าจะคืบหน้ามากขึ้น เพราะต้องรอการพิจารณาเดือนมิ.ย.ก่อน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เสี่ยงและท้าทาย รวมถึงช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน จึงไม่ควรคลายล็อกพร้อมกันทั่วประเทศ



รองวิษณุ ชี้แจงทูตสหรัฐฯ เหตุผลต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน



         นายวิษณุ ชี้แจงต่อทูตสหรัฐฯ ที่ถามถึงความจำเป็นของการขยายพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน อีก 1 เดือนว่า มี 3 เหตุผลคือ



1.หากไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งไม่ได้ให้อำนาจรัฐบาล แต่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด จะทำให้การสั่งการไม่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลต้องการให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน (Single Standard )



2.หากแต่ละจังหวัดปิดสถานที่กันเอง ทำให้เกิดความเดือดร้อน ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศ และรัฐบาลต้องไปเยียวยาในสิ่งที่จังหวัดดำเนินการ ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเข้าไปรับผิดชอบต่อภาพรวม



3.คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคำสั่งทางปกครอง แต่หากใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะไม่สามารถไปขอคุ้มครองชั่วคราวได้ ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เกิดความเชื่อมั่นที่จะสั่งการ



CR:รัฐบาลไทย



ยังไม่มีข้อสรุปกิจการที่จะผ่อนปรนระยะ 3 ห่วงเดินทางข้ามจังหวัดที่มีด่านชายแดน



         ที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่มีข้อสรุปของกิจการที่จะผ่อนปรนเพิ่มเติม ในช่วงระยะที่ 3 แต่มีการหารือถึงกิจการเดิมที่อนุญาตไปแล้ว จะทำให้เพิ่มการทำกิจกรรมได้มากขึ้น เช่น ร้านเสริมสวย และจะผ่อนปรนให้เล่นกีฬาเป็นทีม เพื่อออกกำลังกายได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้จัดการแข่งขัน ส่วนการแข่งขันมวย ไม่มีการนำขึ้นมาหารือ ขณะที่การผ่อนปรนมาตรการเดินทางข้ามจังหวัด ยังมีความห่วงใย จังหวัดที่มีด่านชายแดน จึงให้ไปจัดทำมาตรการป้องกันเพิ่มเติมนำมาเสนอ และจะมีการประชุมคณะกรรมการชุดเล็กอีกครั้งในวันนี้ ก่อนจัดทำข้อสรุปรายละเอียด เสนอต่อที่ประชุม ศบค. ในวันศุกร์ที่ 29 พ.ค.นี้



         ส่วนการปรับลดเวลาเคอร์ฟิว แม้จะหยิบยกขึ้นมาหารือ แต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ เบื้องต้นวงหารือพิจารณาลดเวลาอีก 1 ชม. แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะเลื่อนจาก 23.00 น. เป็น 24.00 น. หรือจะขยับขึ้นจาก 04.00 น. เป็น 03.00 น.



เสนอ 3 แนวทาง! ก่อนชกมวย ต้องกักตัว 21วัน-สแกนคนชม



          นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จะเสนอให้รัฐบาลพิจารณา แบ่งแข่งขันเป็น 3 ระยะ



-เริ่มด้วยการแข่งขันแบบปิด นักมวยที่เตรียมขึ้นชกรวมถึงพี่เลี้ยงและกรรมการต้องกักตัวก่อนการชก 21 วัน ห้ามเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงตรวจเช็คร่างกายก่อนชก 15 วัน วันชกต้องตรวจร่างกายอีกครั้ง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นระหว่างการชก ส่วนหลังการชก ต้องออกจากสนามและต้องเก็บตัวที่ค่ายมวยเพื่อติดตามอาการ 15 วัน และหลังครบ 15 วันต้องรายงานตัวต่อแพทย์



-ระยะที่ 2 แข่งขันแบบจำกัดผู้เข้าชม ผู้ชมต้องห้ามเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยง ตรวจร่างกายก่อนวันแข่งขัน 15 วัน ต้องมีใบรับรองแพทย์ ต้องเช็คอิน-เช็คเอาท์ เข้าพื้นที่ในแอปฯไทยชนะ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา



-ระยะที่ 3 กลับมาแข่งขันตามปกติ



ทุกแนวทางจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาในต้นเดือนมิ.ย. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของบรรดานักมวยทั่วประเทศ



สธ.ชี้ยังไม่จำเป็นต้องรื้อระบบกักตัว14วัน



         นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงกรณีผู้ป่วยรายใหม่ 9 คน ที่ทั้งหมดกลับมาจากต่างประเทศและถูกกักตัวภายในสถานที่รัฐจัดหาให้ว่าจากการสอบสวนโรคในส่วนนี้พบผู้ป่วยในวันที่ 14 ของการกักตัว มองว่า ไม่ถือเป็นเรื่องแปลก ทุกอย่างเป็นไปตามหลักวิชาการ ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องขยายมาตรการเฝ้าระวังให้มากกว่า 14 วัน เพราะการป่วยนี้ ไม่ได้แสดงอาการทันที นิยามการเฝ้าระวังครอบคลุมอยู่แล้ว ในรายที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐฯ ไม่ได้หมายความว่า เพิ่งป่วยเมื่อวันที่ 14 เขาอาจป่วยมาก่อนและไม่ได้แสดงอาการและรายนี้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ จึงไม่จำเป็นต้องปรับแก้นิยามโรค ทุกอย่างต้องทำตาม และอาศัยหลักฐานวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ความรู้สึก



มาเลเซีย ปิดด่านปาดังเบซาร์ 28-30พ.ค.ให้คนไทยผ่านด่านสะเดาแทน



          เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า ด่านปาดังเบซาร์ในฝั่งมาเลเซีย จำเป็นต้องปิดทำการเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ หน่วยงานไทยจึงจำเป็นต้องงดการอำนวยความสะดวกให้คนไทยจากมาเลเซียเดินทางกลับเข้าประเทศไทย ที่ด่านปาดังเบซาร์ เป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค. รวม 3 วัน และจะเริ่มอำนวยความสะดวกให้คนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.เป็นต้นไป โดยจะย้ายไปที่ด่านสะเดา จ.สงขลา  ขอให้คนไทยที่ลงทะเบียนและได้รับหนังสือรับรองเพื่อเดินทางกลับเข้าไทยที่ด่านปาดังเบซาร์ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค. ใช้หนังสือรับรองฯ ฉบับเดิมเดินทางกลับเข้าไทยที่ด่านสะเดา โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่



          สำหรับคนไทยที่มีหนังสือรับรองการเดินทางกลับเข้าไทยที่ด่านอื่นๆ ได้แก่ ด่านท่าเรือตำมะลัง ด่านวังประจัน ด่านเบตง และด่านสุไหงโกลก ไม่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการสอบถามเพิ่มเติม ขอให้ติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ 01111097463



         การปิดด่านปาดังเบซาร์ในฝั่งมาเลเซีย เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เนื่องจาก กรณีของนักศึกษาไทย 6 คนที่มาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย กลับเข้าประเทศไทยด้วยการร่วมเที่ยวบินที่ทางการมาเลเซียจัดหาแล้วมาลงเครื่องบินที่มาเลเซีย ก่อนจะเดินทางโดยรถเพื่อข้ามแดนทางบก ผ่านด่านปาดังเบซาร์ ฝั่งมาเลเซีย เข้ามาที่ จ.สงขลา ของไทย เมื่อวันที่ 24 พ.ค.และระหว่างที่ทั้ง 6 คนอยู่ในสถานกักกันตัวของรัฐบาลไทย ได้ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19



ยกเคสจีน ระบบปิด ทำให้เชื้อแพร่ไกล 4.5 เมตร



          นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ในต่างประเทศมีการศึกษาการป่วยและติดเชื้ออย่างจีน พบการเดินทางด้วยรถโดยสารปรับอากาศ เป็นระบบอากาศปิด ทำให้อัตราแพร่เชื้อแม้คนป่วยจะนั่งท้ายรถโดยสาร แต่โอกาสติดเชื้อเกิดขึ้นได้ โดยระยะระหว่างคนป่วยกับคนที่สัมผัสติดเชื้อมีระยะได้ไกลถึง 4.5 เมตร



          ข้อมูลจากรถไฟฟ้าบีเอส พบว่า ช่วงเวลาเร่งด่วน การเดินทางแออัด รถไฟฟ้าบีทีเอส จึงได้ทดลองออกมาตรการ เปิดหน้าต่างเดินรถ เพื่อลดโอกาสการแพร่โรคและความแออัด ทำให้อากาศถ่ายเท กรมควบคุมโรค เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีและหากมีการศึกษาวิจัยจะได้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการป้องกันโรค นพ.ธนรักษ์ เห็นด้วยกับการใช้มาตรการเหลื่อมเวลาที่ควรนำกลับมาใช้ทั้งในธุรกิจ กิจการขนาดใหญ่และเล็ก เพื่อป้องกันโรค



          เช่นเดียวกับการรับประทานอาหารในร้าน ที่ติดเครื่องปรับอากาศ อากาศจะวนหมุนอยู่ในห้อง การนั่งทานอาหารแบบโต๊ะจีน มีโอกาสเสี่ยงติดโรค ดังนั้น ต้องเว้นระยะห่าง และหาอุปกรณ์ หรือฉากมากั้นเพื่อความปลอดภัย เพราะการรับประทานอาหารต้องถอดหน้ากากอนามัย



 

ข่าวทั้งหมด

X